ดาวพระเคราะห์เรือนนอก - เรือนใน
ดาวพระเคราะห์ต่างๆแต่ละดวงที่ปรากฎในดวงชะตานั้น จะแยกออกได้เป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ "พระเคราะห์เรือนนอก" และ " พระเคราะห์เรือนใน"
1 พระเคราะห์เรือนนอก ได้แก่ ดาวเคราะห์ที่สถิตอยู่ในราศีต่างๆในดวงชะตา
2 พระเคราะห์เรือนใน ได้แก่ การเป็นดาวเจ้าเรือน
คุณและโทษของดาวพระเคราะห์
ความหมายของดาวพระเคราะห์ ด้านให้คุณ คือ ด้านดี ด้านให้โทษ คือ ด้านเสีย แต่ละด้านนั้นมีรายละเอียดเป็นหัวข้อสำคัญ ดังนี้
ดาวอาทิตย์ เด่น มีน้ำใสใจจริง มีความจริงจังและจริงใจ มุ่งมั่น มีใจเป็นนักกีฬา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รักความยุติธรรม หยิ่งทรนงในเกียรติยศและศักดิ์ศรี ถือตัว เจ้ายศเจ้าศักดิ์ ชอบปรุงแต่งภาพลักษณ์ของตนเองให้ดูดีอยู่เสมอ มีความสดชื่นเบิกบาน ทะเยอทะยานและมีความกระตือรือร้นอยู่เป็นนิจสิน
ดาวอาทิตย์ เสื่อม ไม่มีสปิริต ชอบวางอำนาจบาตรใหญ่ ปล่อยตัวตามสบาย ไม่สนใจในเรื่องเกียรติยศและชื่อเสียง เอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ ไม่สนใจในความรู้สึกของผู้อื่น รักง่ายหน่ายเร็ว ทำตัวเหมือนคนเบื่อโลก
ดาวจันทร์ เด่น มีธรรมชาติทางอารมณ์มั่นคงดี จิตใจและความรู้สึกเป็นปกติคงเส้นคงวา สุภาพอ่อนโยน มีความเห็นอกเห็นใจ เมตตากรุณา ชอบช่วยเหลือผู้อื่น รูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ สัดส่วน เป็นที่ต้องตาต้องใจและดึงดูดใจคน
ดาวจันทร์ เสื่อม มีธรรมชาติทางอารมณ์ไม่ดี จิตใจและอารมณ์อ่อนไหวง่ายและแปรปรวนเร็ว ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวในกิจการของผู้อื่น ไม่ชอบเอาอกเอาใจใคร รูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ สัดส่วน ไม่เป็นที่ดึงดูดใจคน คุณสมบัติของกุลสตรีบกพร่อง
ดาวอังคาร เด่น มีจิตใจกล้าหาญเด็ดเดี่ยว มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ขยันขันแข็ง มีความกระตือรือร้น เอาการเอางาน เลือดลมดี ชอบการผจญภัย มีใจเป็นนักกีฬา
ดาวอังคาร เสื่อม มีจิตใจอ่อนแอและขี้ขลาด สุขภาพร่างกายไม่สมบูรณ์แข็งแรง การไหลเวียนของโลหิตบกพร่อง ใจร้อน มีแนวโน้มไปในทางกร้าวร้าว มุทะลุดุดัน หุนหันพลันแล่น ชอบหาเรื่องใส่ตัว
ดาวพุธ เด่น มีธรรมชาติทางความคิดดี เฉลียวฉลาด คล่องแคล่วว่องไว มีเชาว์ปัญญา ปฎิภาณไหวพริบดี ช่างพูดช่างคุย เป็นคนมีเหตุผล มีความคล่องตัวและเก่งหลายด้าน การศึกษาต้องดูที่ดาวพุธเป็นหลักด้วย
ดาวพุธ เสื่อม มีธรรมชาติทางความคิดไม่ดี ใช้ความเฉลียวฉลาดของตนเองไปในทางที่ไม่ถูกต้อง เจ้าเล่ห์ มารยาสาไถย พูดจาไม่เป็นเรื่องเป็นราว หาสาระประโยชน์ไม่ได้ ชอบตำหนิติเตียน สอดรู้สอดเห็น ชอบโวยวายจนติดเป็นนิสัย อารมณ์หงุดหงิดเป็นประจำ ประสาทอ่อน พิจารณาความคดโกงให้ดูดาวพุธเสื่อมเป็นหลัก
ดาวพฤหัส เด่น มีธรรมชาติเป็นคนรักสงบ มีเมตตากรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ร่าเริงเบิกบานอยู่ในแนวทางที่ถูกที่ควร มีความเชื่อมั่นในตัวเอง รู้จักพัฒนาตัวเอง ซื่อสัตย์สุจริต รักความยุติธรรม ชีวิตมักประสบแต่ความโชคดี และความเจริญรุ่งเรือง
ดาวพฤหัส เสื่อม มักขาดความยั้งคิด ควบคุมตัวเองไม่ได้ ใช้จ่ายเงินสรุ่ยสุร่าย โลภมาก งมงายในสิ่งไร้สาระ มีสติปัญญาก็ไม่สามารถใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองได้
ดาวศุกร์ เด่น มีธรรมชาติในการปรุงแต่ง ดัดแปลง มีหัวในทางศิลปะ สุภาพอ่อนโยน จงรักภักดี รักสันติ รู้จักกาละเทศะ รู้ผ่อนหนักผ่อนเบา มีเสน่ห์ดึงดูดใจผู้ใกล้ชิด เจ้าชู้ ลุ่มหลงในกิเลสตัณหาและโลกีย์วิสัย นิยมชมชอบในสิ่งสวยงาม รักธรรมชาติ
ดาวศุกร์ เสื่อม มีธรรมชาติเป็นคนเจ้าเล่ห์ ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง โลภโมโทสัน ชอบหลงระเริงในแสงสีศิวิไลย์ มีตัณหาราคะมาก ไม่ค่อยสงวนตัว ไม่รักเกียรติ
ดาวเสาร์ เด่น เป็นคนเอาการเอางาน หนักแน่น อดทน เก็บกด ไม่ชอบเข้าสังคม สมถะ เก็บอารมณ์ได้ดี ซ่อนความรู้สึกเก่ง อ่านไม่ออกว่าดีหรือร้าย สุขุมเยือกเย็น เป็นผู้ใหญ่ แต่ถ้าโกรธแล้วจะรุนแรง ห้ามไม่อยู่เลยทีเดียว มีความละเอียดถี่ถ้วน ระมัดระวัง รักสงบ
ดาวเสาร์ เสื่อม ธรรมชาติซึ่งเป็นคนเก็บกดอยู่แล้ว เมื่อมาอยู่ในตำแหน่งที่เสื่อม ทำให้เป็นคนคิดมาก มีวิตกกังวล ฟุ้งซ่าน เงียบขรึมจนน่ากลัว เฉื่อยชา เย็นชาไม่มีชีวิตชีวา เจ้าทุกข์ อมทุกข์ ลืมเหตุการณ์สะเทือนใจไม่ได้ ไม่ไว้วางใจผู้อื่น ตระหนี่ จู้จี้ ขี้บ่น ไม่ชอบเข้าสังคม
ดาวราหู เด่น มีธรรมชาติเป็นคนมีความสามารถรอบด้าน มีความสามารถเฉพาะทางหรือความสามารถพิเศษ เช่น ในด้านกีฬา การพนัน การแข่งขันชิงดีชิงเด่น มีจิตรานุภาพสูง เข้มแข็ง มีความฉลียวฉลาด สามารถชักจูงและโน้มน้าวให้ผู้อื่นเชื่อถือได้ มีความศรัทธาในตัวของตัวเอง มีประสบการณ์ในด้านอบายมุข แก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้เก่ง มีความคล่องตัวสูงในทุกสภาวะ
ดาวราหู เสื่อม มีธรรมชาติในทางลุ่มหลงมัวเมา มักตกอยู่ในโมหะจริต เช่น คิดอยากรวย อยากสวย อยากได้ อยากมีและและอยากเป็น ตลอดจนลุ่มหลงมัวเมาอยู่ใน รูปรส กลิ่น เสียง การสัมผัส มีความวู่วาม บุ่มบ่าม ขาดความยั้งคิด มีพรสวรรค์ในการฉ้อโกง เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น เจ้าเล่ห์ ฉลาดแกมโกง กระล่อน ปลิ้นปล้อน ชอบหลบๆซ่อนๆ อำพรางตัวเอง ตั้งตนอยู่ในความประมาท
ดาวเกตุ เด่น มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองรักษา
ดาวเกตุ เสื่อม มีวิญญาณร้ายคอยรบกวนรังควาน
ดาวมฤตยู เด่น เป็นคนมีสติปัญญาเฉียบแหลม ค่อนไปทางสติเฟื่อง มีอำนาจลึกลับและอิทธิพล เอาชนะอุปสรรคได้อย่างประหลาด มีเสน่ห์ดึงดูด มีหัวคิดริเริ่ม หยั่งรู้และเข้าถึงในศาสตร์ลี้ลับ มีบุคลิกภาพที่เป็นพิเศษเฉพาะตัว มักเกี่ยวเนื่องกับวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นนักค้นคว้า เป็นนักประดิษฐ์กรรมที่ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์
ดาวมฤตยู เสื่อม มักมีเหตุการณ์ไม่ดีที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น หรือมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่เป็นคุณ เกิดทุกข์ภัยอาเภท หลงใหลในสิ่งผิดๆ นอกลู่นอกทาง ดันทุรัง แหกคอก กระด้าง ดื้อรั้น ชอบผ่าฝืน เจ้าอารมณ์มาก โกรธง่าย อารมณ์ตึงเครียด เอาแต่ใจ และเนื่องจากที่มีนิสัยอารมณ์แบบนี้ จึงทำให้มีอันตรายถึงชีวิตได้ จึงต้องควบคุมจิตใจและอารมณ์ให้ดี
พระเคราะห์คู่
ดาวพระเคราะห์ต่างๆ เมื่อดวงหนึ่งไปสถิตร่วมกับดาวพระเคราะห์อีกดวงหนึ่ง จะก่อให้เกิดความหมายพิเศษขึ้นมา จากการสัมพันธ์ของดางวพระเคราะห์คู่นั้นๆ คือ
คู่มิตร เมื่อมีดาวอยู่ร่วมกันดังที่จะกล่าวข้างล่างนี้ เรียกว่า "ดาวคู่มิตร" คือ
๑ กับ ๕ (อาทิตย์กับพฤหัส) คู่มิตรปานกลาง
๒ กับ ๔ (จันทร์กับพุธ) คู่มิตรบริสุทธิ์
๓ กับ ๖ (อังคารกับศุกร์) คู่มิตรดีมิตรชั่ว
๗ กับ ๘ (เสาร์กับราหู) คู่มิตรชั่ว
ดาวพระเคราะห์ที่อยู่รวมกันโดยเป็น "คู่มิตร" กัน มีความหมายเป็นกลางๆว่า ความรัก ความเมตตา ความไว้วางใจ คนที่รักใคร่ใกล้ชิด ถ้าดาวคู่มิตรให้ผลทางด้านดี ก็ให้ความหมายถึง ผลดี ที่จะเกิดขึ้น เพราะคนรัก คนใกล้ชิด เพราะมิตร เพราะความไว้วางใจ หรือที่จะได้รับจากคนรัก คนใกล้ชิด หรือจากมิตรนั่นเอง
ถ้าดาวคู่มิตรให้ผลในด้านเสีย ก็ให้ความหมายถึง ผลเสีย ที่จะเกิดขึ้นเพราะคนรัก คนที่ใกล้ชิด เพราะมิตร เพราะความไว้วางใจ หรือที่จะได้รับจากคนรัก คนใกล้ชิด หรือจากมิตรนั่นเองเป็นเหตุ เข้าทำนองที่ว่า "ไว้ใจทาง วางใจคน จะจนใจเอง"
คู่ธาตุ เมื่อมีดาวอยู่ร่วมกันดังที่จะกล่าวข้างล่างนี้ เรียกว่า "คู่ธาตุ" คือ
๑ กับ ๗ (อาทิตย์กับเสาร์)
๒ กับ ๕ (จันทร์กับพฤหัส)
๓ หับ ๘ (อังคารกับราหู)
๔ กับ ๖ (พุธกับศุกร์)
ดาวพระเคราะห์ที่อยู่ร่วมกันเป็น "คู่ธาตุ"กัน มีความหมายถึง ความเป็นปึกแผ่น ความมั่นคงถาวร ความสมบูรณ์พูนสุข ความยั่งยืนยาวนาน
ถ้าดาวคู่ธาตุให้ผลทางด้านดี ก็ให้ความหมายถึง ผลดี ที่จะเกิดขึ้น หรือที่จะได้รับเป็นชิ้นเป็นอัน หรือได้รับอยู่อย่างยาวนาน อย่างมั่นคงถาวร หรือจะได้รับผลประโยชน์จากถาวรวัตถุที่มีอยู่
ถ้าดาวคู่ธาตุให้ผลในทางด้านเสีย ก็ให้ความหมายถึง ผลเสีย ที่จะเกิดขึ้น หรือที่จะได้รับนั้นมีส่วนกระทบกระเทือนถึงหลักฐาน ฐานะ ความมั่นคงถาวร หรือผลเสียนั้นจะต่อเนื่องกันเป็นเวลานานกว่าจะหมดไป
คู่สมพล เมื่อมีดาวอยู่ร่วมกันดังที่จะกล่าวข้างล่างนี้ เรียกว่า "คู่สมพล" คือ
๑ กับ ๖ (อาทิตย์กับศุกร์)
๒ กับ ๘ (จันทร์กับราหู)
๓ กับ ๕ (อังคารกับพฤหัส)
๔ กับ ๗ (พุธกับเสาร์)
ดาวพระเคราะห์ที่อยู่ร่วมกันเป็น "คู่สมพล" มีความหมายเป็นกลางๆว่า อำนาจ อิทธิพล ความสามารถ ความรู้ ความชำนาญ ตำแหน่ง หน้าที่
ถ้าดาวคู่สมพลให้ผลในด้านดี ก็ให้ความหมายถึง ผลดี ที่จะเกิดขึ้น หรือที่จะสำเร็จ เพราะอำนาจของอิทธิพล เพราะความรู้ความสามารถ ความชำนาญ หรือเพราะตำแหน่งหน้าที่ หรือจากการใช้ความรุ้ความสามารถ
ถ้าดาวคู่สมพลให้ผลทางด้านเสีย ก็ให้หมายความถึง ผลเสีย ที่จะเกิดขึ้น จากการใช้อำนาจอิทธิพล หรือเพราะความประมาท หรือเพราะความเชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป และรวมถึงความเสียหายแก่ตำแหน่งหน้าที่ หรืองานในความรับผิดชอบ
คู่ศัตรู เมื่อมีดาวอยู่ร่วมกันดังที่กล่าวข้างล่างนี้ เรียกว่า "คู่ศัตรู" คือ
1 กับ 3 (อาทิตย์กับอังคาร)
4 กับ 8 (พุธกับราหู)
6 กับ 7 (ศุกร์กับเสาร์)
2 กับ 5 (จันทร์กับพฤหัส)
ประเภทของดาวเคราะห์
ดาวพระเคราะห์ทั้ง 10 ดวง แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1 ดาวศุภเคราะห์ ได้แก่ 2 4 5 6 เป็นประเภทที่มีความอ่อนโยน นุ่มนวล เรียกว่า ประเภท "บุญฤทธิ์"
2 ดาวบาปเคราะห์ ได้แก่ 1 3 7 8 0 เป็นประเภทที่มีความกล้าแข็ง รุนแรง เรียกว่า ประเภท "อิทธิฤทธิ์"
(ดาวเกตุ จัดอยู่ในประเภทกลางๆ ถ้าได้เกณฑ์ดี จัดเป็นศุภเคราะห์ ถ้าได้เกณฑ์ร้าย จัดเป็นบาปเคราะห์
ถ้าสถิตในทุสถานภพ จัดเป็นดาวบาปเคราะห์ เมื่อออกโคจรไปตามวิถีจักร ย่อมนำพาความหมายของเรือนนั้นๆ ติดตัวไปด้วยเสมอ)
ดาวพระเคราะห์ที่เป็นศัตรูกัน แบ่งได้ดังนี้ คือ
1 ดาวพระเคราะห์คนละประเภทกัน ถือว่าเป็นศัตรูกัน
2 ดาวพระเคราะห์ที่เป็นประเภทบาปเคราะห์ด้วยกัน ถือว่าเป็นศัตรูกัน
ลักษณะการให้คุณและโทษของดาวศุภเคราะห์และบาปเคราะห์
ขึ้นอยู่กับโยคเกณฑ์ดีหรือร้าย และตำแหน่งราศีที่สถิต (ดีหรือเสื่อม) เป็นสำคัญ
ศุภเคราะห์
ระยะเชิงมุมที่ให้คุณ ได้แก่ มุม 0 ํ 30 ํ 60 ํ 120 ํ
ระยะเชิงมุมที่ให้โทษ ได้แก่ มุม 90 ํ 180 ํ และมุมทุสถานะภพ (ให้โทษแบบนุ่มนวลค่อยเป็นค่อยไป)
บาปเคราะห์
ระยะเชิงมุมที่ให้คุณ ได้แก่ มุม 30 ํ 60 ํ 120 ํ(ต้องผ่านการมีอุปสรรคก่อนเสมอ)
ระยะเชิงมุมที่ให้โทษ ได้แก่ มุม 0 ํ 90 ํ 180 ํ และมุมทุสถานะภพ
ต่อหน้า 4