สูติกาล ๗ ก.ย. ๒๔๙๙ เวลา ๑๙.๔๐ มรณะ ๒๗ พ.ค. ๒๕๐๘ เวลาไม่ปรากฎ
ดวงกำเนิด ผูกดวงด้วยปฏิทินดาราศาสตร์ ระบบสายนะวิธี
ดวงกำเนิด ผูกดวงด้วยปฏิทินดาราศาสตร์ ระบบนิรายนะวิธี
ดวงจร (สายนะวิธี) วันที่ 27 พ.ค. 2508 ดาวเคราะห์วงใน = ดวงกำเนิด ดาวเคราะห์วงนอก = ดาวจร
ดวงจร (นิรายนะวิธี) ดาวเคราะห์วงใน = ดวงกำเนิด ดาวเคราะห์วงนอก = ดาวจร
ผูกดวงด้วยปฏิทินดาราศาสตร์ ระบบนิรายนะวิธี (ลาหิรี)
บทวิเคราะห์ด้านล่างนี้ เป็นการวิเคราะห์จากปฏิทินดาราศาสตร์ ระบบสายนะวิธี
แสดงไว้เพื่อเป็นแนวทางเท่านั้น
1..ดาวอังคาร (ตนุลัคน์) สถิตภพวินาศ บ่งบอกให้ทราบว่า เจ้าชะตามีบุพกรรมไม่ดี มีดาวอาทิตย์เล็งเกือบสนิทองศา ดาวพระเคราะห์คู่นี้เป็นตัวการเกิดอุบัติเหตุอย่างฉับพลัน
2..ดาวพฤหัส (เจ้าเรือนวินาศ) สถิตราศีกันย์ ได้ตำแหน่งประ ภพอริ (ภพแห่งอุปสรรคและอุบัติเหตุ) พฤหัสเสียอย่างหนัก บ่งบอกให้ทราบว่า เป็นดวงชะตาที่ครูไม่ช่วย ไม่มีเทวดาคุ้มครอง ยังถูกกุมด้วยดาวอาทิตย์และเล็งด้วยดาวอังคาร ดาวบาปเคราะห์คู่อุบัติเหตุเกือบสนิทองศา เป็นเหตุให้ต้องประสบกับความสูญเสียอย่างร้ายแรงถึงเสียชีวิต
3..ดาวพฤหัส (เจ้าเรือนวินาศ) กุมดาวอาทิตย์ (เจ้าเรือนปุตตะ) เกือบสนิทองศา เจ้าชะตาประสบกับความวิบัติในวัยเด็ก
4..ตนุ - วินาศ - อริ เจ้าชะตาเกิดมามีบุพกรรมไม่ดี ไม่มีเทวดาคุ้มครอง ต้องประสบกับความวิบัติในวัยเด็กถึงเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ
5..ดาวราหู (กาลกิณี) ทำมุม 120 องศา เบียนลัคนาเกือบสนิทองศา
6..ดาวเสาร์และมฤตยู (บาปเคราะห์ใหญ่) ทำมุม 120 องศา ขนาบลัคนา ถึงแม้เป็นมุมที่ให้คุณ แต่ก็ให้คุณไม่ตลอด มักมีวิบากกรรมเกิดขึ้นก่อนเสมอ (ดาวเสาร์สถิตภพมรณะ แต่ทำมุมใกล้เคียงกับ 120 องศา)
7..ในภพปุตตะ มีดาวมฤตยูและดาวเกตุ สถิตให้โทษกับเรือน โดยมีราหู กาลกิณีสัมพันธ์ถึงในมุมตรีโกณ บ่งบอกว่า น่าจะต้องเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในวัยเด็ก
8..ดาวอาทิตย์ เจ้าเรือนปุตตะ เป็นอายุทางทักษา สถิตภพอริ บ่งบอกว่า ในวัยเด็กสุขภาพร่างกายมีอุปสรรค ด้วยเรื่องโรคภัยไข้เจ็บหรืออุบัติเหตุ
วิเคราะห์ดาวจร
1..ดวงอุบัติเหตุถึงเสียชีวิต ส่วนมากจะสังเกตได้ว่า มีดาวบาปเคราะห์ใหญ่เป็นตัวการถึงลัคน์หรือตนุลัคน์เสมอ และมีดาว 3 เป็นตัวเสริม เช่น ดวงของ ด.ญ.เจ้าชะตาดวงนี้ วันมรณะ ดาว 7 ทับตนุลัคน์ เกือบสนิทองศา ดาว 0 เล็งตนุลัคน์ เกือบสนิทองศา โดยมี ดาว 3 เล็งตนุลัคน์เป็นตัวเสริม ดาว 3 และ ดาว 0 นี้ มักจะส่งผลทางอุบัติเหตุโดยฉับพลัน ดาว 3 และดาว 7 ก็เช่นเดียวกัน บาปเคราะห์ในมุมเล็งช่วยเสริมโทษบาปเคราะห์ให้มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
2..นอกจากนี้ยังมี ดาว 7 เล็ง ดาว 1 [เจ้าเรือนปุตตะ อายุเดิม] และ ดาว 0 ทับ ดาว 1 และมี ดาว 3 ทับ ดาว 1 เกือบสนิทองศาเป็นตัวเสริม ดาวคู่นี้ บ่งบอกให้ทราบว่า ต้องเกิดอุบัติเหตุแน่นอน ให้โทษร้ายแรงพอๆกับข้อที่ 1 และยังมี ดาว 8 [กาลกิณีเดิม] จรทำมุมจตุโกณเกือบสนิทองศา ให้โทษกับดาว 1 และ ดาว 5 อีกด้วย..ดาวอายุเดิมถูกเบียนอย่างหนัก
3..ดาว 8 [กาลกิณีเดิม] จรเป็นบริวารในภพสหัชชะ โดยมี ดาว 7 และ ดาว 3 ขนาบหน้าหลังในมุมจตุโกณ
4..ดาว 6 [ดาวเสวยอายุ] โคจรเป็นอายุจร เข้าภพสหัชชะ ถูกเบียนจากบาปเคราะห์ถึง 4 ดวง โดยมีดาว 8 ในมุมกุม , ดาว 3 และดาว 0 ทำมุมจตุโกณหน้า , ดาว 7 ทำมุมจตุโกณหลัง..ดาวอายุจรถูกเบียนอย่างหนัก
5..ดาว 5 [เจ้าเรือนศุภะ] จรเป็นกาลกิณีในภพสหัชชะ ตีคู่ให้โทษกับดาว 1 [เจ้าเรือนปุตตะ-อริ] เกือบสนิทองศา ในขณะเดียวกัน ดาว 9 ก็กำลังโคจรเข้าจ่อในมุมเล็งกับดาว 1 ด้วย
6..ภพสหัชชะ [ภพแห่งการเดินทาง] ถูกบาปเคราะห์รุมเบียนอย่างหนักถึง 5 ดวง รวมกาลกิณีจรอีก 1 ดวง เป็น 6 ดวง ดาว 4 [เจ้าเรือนสหัชชะ] จรเป็นวินาศกับเรือนตน
7..วันเกิดเหตุ ดาว 2 [เจ้าเรือนพันธุ] โคจรเล็งดาวจันทร์ 2 เดิมพอดี เกือบสนิทองศา
8..วันเสียชีวิต อายุตกภูมิ 8 [กาลกิณีเดิม] ดาว 6 [อายุจร] เป็นดาวเจ้าการเสวยอายุ และดาว 3 [เจ้าเรือนมรณะ] เป็นดาวเจ้าการแทรกดาวเสวยอายุ
ยังมีต่อ..
ที่มา..ของวันเกิดและวันมรณะ จากหนังสือ "การพยากรณ์จรโดยพิศดาร" อ.พลูหลวง หน้า 180