ReadyPlanet.com
dot dot
bulletHorasaadRevision.com
dot
ห้องโหรแว่นทิพย์
dot
bulletWelcome to foreigners
bulletกำเนิดจักรราศี*
bulletประวัติของวิชาโหราศาสตร์*
bulletวิชาโหราศาสตร์ไทยเบื้องต้น*
bulletกฎเกณฑ์วิชาโหราศาสตร์ไทย*
bulletอันโตนาที*
bulletอายนางศ์*
bulletวิธีคำนวนสมผุสลัคนา*
bulletนัยยะแห่งเรือนราศี*
bulletนัยยะแห่งเรือนชะตา*
bulletนัยยะแห่งดวงดาว*
bulletนัยยะแห่งตำแหน่งดาว*
bulletทิศาพยากรณ์*
bulletโรคาพยากรณ์*
bulletทักษาพยากรณ์*
bullet๑๐๘นวางค์รอบจักรวาล*
bulletวรโคตรนวางค์*
bulletตรียางค์พิษ*
bulletโหรปัตนิและดาวพระศุกร์*
bulletนานาปกรณ์เกี่ยวกับฤกษ์*
bulletเกร็ดโหราศาสตร์*
bulletเคล็ดวิชาต่างๆ*
bulletการทำนายฝันและเคล็ดลับการแก้ฝัน*
bulletพระพุทธรูปบูชาประจำวันเกิด พร้อมคาถาบูชา*
bulletพระคาถาชินบัญชร*
dot
โหราศาสตร์ไทย ฉบับหอมรดกไทย
dot
bulletตำนานดาวพระเคราะห์
bulletการแบ่งจักรราศี
bulletตำรามหาทักษา
bulletคัมภีร์กาลโยค
bulletลัคนากับดวงชะตา
bulletมาตรฐานดาวเคราะห์
dot
หน้าแบบฟอร์มต่างๆของเว็บไซด์
dot
bulletแบบฟอร์มตั้งชื่อ-นามสกุล
bulletแบบฟอร์มฤกษ์พิธีมงคลต่างๆ
bulletแบบฟอร์มฤกษ์คลอดบุตร
bulletแบบฟอร์มฤกษ์มงคลสมรส
bulletแบบฟอร์มฤกษ์เปลี่ยนชื่อ
bulletแบบฟอร์มห้องเรียนโหร
bulletสมุดเยี่ยม
dot
เกร็ดพยากรณ์..เพื่อความบันเทิง
dot
bulletนิสัยสาว 12 ราศี
bulletทายนิสัยจากเดือนเกิด
bulletจุดร้อนตามราศี
bulletความรักตามวันเกิด
bulletทายนิสัยจากการใส่แหวน
bulletผลไม้ทายนิสัย
bulletความรักตามกรุ๊ปเลือด
bulletอ่านใจหนุ่ม 12 ราศี
bulletผู้ชายเพอร์เฟค
bulletน้ำหอมกับราศี
bulletวิธีมัดใจหนุ่ม-สาวราศีต่างๆ
bulletพยากรณ์ ช-ญ ตามวันเกิด
bulletวันเกิดบอกนิสัยเนื้อคู่ ช-ญ
bulletทำนายเซ็กส์กับราศี
bulletความลับบนเตียง 12 ราศี
bulletเคล็ดลับดูไฝบนกายสาว
bulletทำนายผู้เกิดใน 12 นักษัตร
bulletคู่แต่ง คู่รัก คู่ขา?
bulletทายนิสัยคนใกล้ตัว 17 เรื่อง
bulletดวงของผู้หญิงตามวันเกิด
bulletดู ตัวตน,ชอบ,ยี้ หนุ่มสาว
bulletต้นไม้มงคลกับราศีเกิด
dot
เว็บวาไรตี้ยอดนิยม
dot
bulletwww.sanook.com
bulletwww.kapook.com
bulletwww.mthai.com
bulletwww.ragnarog.in.th
bulletwww.hunsa.com
bulletwww.teenee.com
bulletwww.365jukebox.com
bulletwww.dek-d.com
bulletwww.zuzaa.com
bulletwww.wanjai.com
bulletwww.narak.com
bulletwww.jorjae.com
bulletwww.aromdee.com
bulletwww.deedeejang.com
bulletwww.funwhan.com
bulletwww.saranair.com
bulletwww.madoo.com
dot
หนังสือพิมพ์ไทย-เทศ
dot
bulletกรุงเทพธุรกิจ
bulletข่าวสด
bulletคม ชัด ลึก
bulletฐานเศรษฐกิจ
bulletเดลินิวส์
bulletไทยรัฐ
bulletไทยโพสท์
bulletแนวหน้า
bulletประชาชาติธุรกิจ
bulletผู้จัดการ
bulletมติชน
bulletโพสท์ทูเดย์
bulletสยามธุรกิจ
bulletสยามกีฬา
bulletสยามรัฐ
bulletBangkok Post
bulletThe Nation
bulletVoice of America
bulletBBC Thai
dot
Foreign newspaper
dot
bulletNew Straits Time MY
bulletThe Straits Time SG
bulletVientiane Times LAOS
bulletNew Light of Myanmar
bulletThe Daily Tribune PH
bulletThe Manila Times PH
bulletThe Jakarta Post
bulletS. China Morning Post
bulletChina Daily CN
bulletTaipei Times TW
bulletYomiuri Shimbun JP
bulletThe Asahi Shimbun JP
bulletThe times of India
bulletAl Jazeera
bulletThe Guardian UK
bulletThe Times UK
bulletBBC News UK
bulletLe Monde FR
bulletDie Welt DE
bulletLa Nacion Line AR
bulletThe New York Time
bullet USA today
bulletThe Washington Post
bulletThe wall street Journal
bulletOnline Newspaper Di.tory
dot
ธนาคารต่างๆ
dot
bulletธ.กรุงเทพ
bulletธ.กรุงไทย
bulletธ.กรุงไทย ชาริอะฮ์
bulletธ.กรุงศรีอยุธยา
bulletธ.กสิกรไทย
bulletธ.ซิติ้แบงค์
bulletธ.ดีบีเอส ไทยทนุ
bulletธ.ทหารไทย
bulletธ.ธนชาต
bulletธ.นครหลวงไทย
bulletธ.ยูโอบี รัตนสิน
bulletธ.สแตนดาร์ด ช. นครธน
bulletธ.อิสลามแห่งประเทศไทย
bulletธ.เอเซีย
bulletธ.ไทยธนาคาร
bulletธ.ไทยพาณิชย์
bulletพระคาถาชินบัญชร*
bulletพระพุทธรูปบูชาประจำวันเกิด พร้อมคาถาบูชา*


เชิญค่ะ


 ดูหนังสือ สอบถาม
 สั่งซื้อ

eXTReMe Tracker

 ชาติ                                           

นานาทรรศนะ 
เสนอร่างรัฐธรรมนูญ
ปกิณกะ
เหตุการณ์ในอดีต 
เรื่องของไทยในอดีต 
เรื่องของชนชาติไทย
ภูมิศาสตร์ของไทย 
ก่อนสมัยสุโขทัย 
กรุงสุโขทัย
กรุงศรีอยุธยา
กรุงเทพมหานคร
นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
อุทยานประวัติศาสตร์
เมืองเก่าของไทย
ทำเนียบหัวเมือง
การทหารของไทย
ธงชัยเฉลิมพล
ทหารรักษาพระองค์
ทหารอาสาต่างชาติ 
รู้เรื่องเมืองสยาม 
ประเทศเพื่อนบ้านของไทย()
ความสัมพันธ์ไทย-อเมริกัน 
เหตุการณ์ปี ร.ศ.๑๑๒
เหตุการณ์ปี ๒๔๗๕
กรณีพิพาทอินโดจีน
การรบที่กาะช้าง
สงครามมหาเอเซียบูรพา
สงครามเกาหลี 
สงครามเวียตนาม 
กรณีปราสาทพระวิหาร
กรณีโรฮิงยา
ความไม่สงบชายแดนภาคใต้
อนุสาวรีย์วีรชน 
สารานุกรมฉบับย่อ()
ตัวหนังสือไทย
เรียนหนังสือไทยสมัยก่อน 
รามเกียรติ์ 
ขุนช้าง ขุนแผน
พระอภัยมณี
นิราศ
กาพย์เห่เรือ
สุภาษิตไทย
ธรรมเนียมประเพณีไทย 
โหราศาสตร์ไทย 
เพลงไทยให้สาระ
เงินตราไทย
เครื่องดนตรีไทย
หมากรุกไทย
มวยไทย
สมุนไพรไทย
พันธุ์ไม้ดอกไทย
นกในประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติ
 
ทางบก
 ทางทะเล
เที่ยวทั่วไทย 
เที่ยวไปชมไป

 ศาสนา                                     

การบริหารคณะสงฆ์
การศึกษาพระปริยัติธรรม
กฎหมายพระสงฆ์ของไทย
สมเด็จพระสังฆราช
ทำเนียบสมณศักดิ์
พัดยศสมณศักดิ์
คณะสงฆ์จีนนิกาย
คณะสงฆ์อนัมนิกาย
พระพุทธรูปสมัยต่างๆ
พระพุทธรูปสำคัญ
พระพุทธรูปปางต่างๆ
พระพุทธรูปประจำวัน
พระธาตุเจดีย์
พระพุทธบาท
พระแท่น
พระไตรปิฎก
การแสดงธรรมของพระพุทธเจ้า
การบัญญัติพระวินัย
โสพัสปัญหา
พุทธประวัติ
พระอสีติมหาสาวก
พุทธศาสนสุภาษิต
พุทธานุวัตร
วันสำคัญในพระพุทธศาสนา
พุทธศาสนพิธี
พระป่าและวัดป่า
พุทธศาสนาในปัจจุบัน
ภัยแห่งพุทธศาสนา
ศาสนาต่างๆในไทย)

  พระมหากษัตริย์                      

พระมหากษัตริย์สมัยสุโขทัย
พระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยา
พระมหากษัตริย์สมัยธนบุรี
พระบรมราชจักรีวงศ์
พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาล
พระราชลัญจกร
เครื่องราชกกุธภัณฑ์
ธงในองค์พระมหากษัตริย์
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
น้ำอภิเษก
พระราชพิธีสิบสองเดือน
พระราชานุกิจ
จอมทัพไทย
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
เหรียญอันเนื่องจากการรบ
พระบรมมหาราชวัง
ประชุมพงศาวดาร
ราชการสงครามฯ
งานกู้ชาติฯ
ประชุมพระราชปุจฉา
พระราชหัตถเลขา ใน ร.๔
พระบรมราโชบายฯ ร.๕
พระราชดำรัส ใน ร.๕
พระราชนิพนธ์ ใน ร.๖
ร.๖ กับการป้องกันประเทศ
พระราชดำริใน ร.๗
พระบรมราโชวาท

 มุมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทย์และเทคโน
ศูนย์เทคโนอีเลคทรอนิกส์และคอมแห่งชาติ
เว็บการเรียนรู้วิทย์และเทคโนร.ร.ในชนบท
ดาราศาสตร์สำหรับคนไทย
ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีแห่งชาติ
แหล่งความรู้วิศวโยธา,เครื่องกลและขนส่ง
โครงการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ[lesa]
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนแห่งไทย
องค์การพิพธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ดูดาวดอทคอม
รวมบทความด้านวิทยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา
นิยายวิทยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์น่ารู้

 

 มุมศาสนาต่างๆ                      

สำนักข่าวชาวพุทธ
มุสลิมไทยไซเบอร์เน็ต
หนังสือธรรมะออนไลน์
ธรรมะไทย
มุสลิมแคมปัสดอทคอม
โบสถ์คริสเตียนไทยอเมริกา
กัลยาณมิตร
เสขิยธรรม
มหาวิทยาลัยสงฆ์ไทย
อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
หลวงตามหาบัว
พุทธทาสศึกษา
พระรัตนตรัย
เครือข่ายสาระธรรมอิสลาม
มูลนิธิศุภนิมิตไทย
พระคริสตธรรมไทย

 10 อันดับเว็บข้อมูล อ้างอิง        

 www.google.co.th สุดยอดเว็บในการหาข้อมูล
 
www.glo.or.th สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
 
www.siamguru.com บริการค้นหาข้อมูลต่างๆ
 
www.truehits.net เว็บแสดงสถิติการเยี่ยมชม
 
lexitron.nectec.or.th ดิกชันนารีออนไลน์
 
www.yellowpages.co.th สมุดหน้าเหลืองออนไลน์
 
www.police.go.th สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
 
phonebook.tot.or.th ค้นหาหมายเลขโทรศัพท์
 
www.trainingthai.com ข่าว,ข้อมูลการฝึกอบรมสัมมนาต่างๆ
 
www.khonthai.com แหล่งข้อมูลด้านทะเบียนราษฎร์ต่างๆ



ฤกษ์งามยามดี อ.หมอเถา (วัลย์)

 

 บุษบามีคู่  ยามอัฏฐกาล  กฎแห่งกรรม
 ตั้งชื่อเด็ก  ยามกาลชะตา  ดาวคู่มิตร-คู่ธาตุ
 ห้ามฤกษ์  จับโจร  บุพพกรรมแห่งดาว
 เรียนโหราศาสตร์  ทักษาประสมเรือน  พินทุบาทว์
 ลัคเน  อ่านดาว  ดวงพระ
 ตนุเศษ  นามนี้ ดีไฉน  จุดคราสในดวงชะตา
 ทักษาสมเด็จ  พระเคราะห์ถ่ายเรือน  ดาวบุพพกรรม
 ดาวลอย  ดาวแฝงแสง  ฤกษ์งาม ยามดี
 ดาวสองชั้น  เกณฑ์ชัณษา  ทนายโหราศาสตร์
 ดวงชาวเกาะ  บุตรสุดที่รัก  
 

พอตกเวลาสายวันอาทิตย์ สามศิษย์ซึ่งเป็นหนึ่งหมอกับ สองครู อยู่พร้อมหน้ากันบนกุฏิหลวงตาชื้นเช่นเคย เพราะวันอาทิตย์หลวงตาชื้นมักจะมีแขกมาเยี่ยมเยือนมากกว่าวันปกติทั้งหมอเถา ครูก้อน ครูสมศักดิ์ จึงถือเป็นหน้าที่จะต้องมาคอยปรนนิบัติรับใช้เป็นประจำ เป็นการแสดงกตัญญุตาคุณต่อครูบาอาจารย์ ครูก้อนมองสารรูปหมอเถาอย่างพินิจพิจารณาหลายตลบและยิ้มๆทัก 

“วันนี้ดูหมอเถาแปลกตาไปแยะ”

ครูสมศักดิ์พลอยสังเกตบ้างก็เห็นจริง 

“นั่นซี ดูค่อยมีราศีคุณหมอขึ้นมาหน่อย”

หมอเถาดูตัวเองแล้วก็ดูหน้าเพื่อน ยังไม่ค่อยไว้ใจว่าจะถูกชมหรือถูกล้อเลียน จึงยักคิ้วเล่นๆ ครูก้อนค่อยบรรจงจับเสื้อและกางเกงซึ่งใหม่เอี่ยม รอยกลีบที่พับวางหงายขึ้นเป็นรอยสี่เหลี่ยมชัด

“เปลี่ยนคราบใหม่ทั้งชุดกระทั่งผ้าขาวม้าคาดพุงทีเดียว ดูค่อยมีมาดเป็นหมอยาก่อนๆมันซอมซ่อดูเป็นหมอผีมากกว่า”

หมอเถาถูกล้อก็พลอยหัวเราะตามไปด้วย 

“ชุดเก่ามันขาดเย็บก็ไม่ติด เพราะเนื้อมันเปื่อยเต็มที ก็เลยต้องเปลี่ยน ไม่ได้อยากสวยอยากงามอะไรหรอก”

ครูสมศักดิ์ซึ่งค่อยคุ้นเคยขึ้นจนกล้าถามตรงๆ

“ทำไมต้องรอให้ขาดแล้วจึง เปลี่ยนทีละชุดน๊ะหมอเถา ใส่ทั้งปีทั้งชาติก็ใส่สีน้ำเงินชุดเดียวตลอด จนจะกลายเป็นเครื่องแบบไปแล้ว”

“อุบ๊ะ…ถามโง่ๆ ไปได้” 

หมอเถาตอบโดยไม่ต้องคิด

“ก็ไม่มีสตังค์จะเปลี่ยนมากกว่าหนึ่งชุดนะซี ลำพังชุดเดียวก็ยังต้อยค่อยๆเก็บสตังค์ไว้เป็นเดือน”

ครูก้อนซักต่อไปอีก 

“หมู่นี้ถ้าจะมีไข้ให้รักษาได้เงินทองดีกระมัง”

“ก็พออาศัยอยู่บ้างหรอก หน้านี้เปลี่ยนฤดูร่างกายคนเรามันปรับตัวตามความร้อนหนาวไม่ทันก็มักเป็นไข้กันมาก” 

หมอเถาจับเสื้อตัวเองดูแล้วเล่าเปิดเผย 

“ชุดนี้ไม่ได้ซื้อรักษาไข้เขาหาย เขาเลยซื้อทำขวัญ”

ครูสมศักดิ์ออกความเห็นว่า 

“ธรรมดาหมอแผนโบราณเขาต้องตั้งเงินขวัญข้าวค่ารักษากันไว้เป็นราคาเงิน เมื่อรักษาหายก็ชำระกันทำไมหมอเถาไม่ถือแบบอย่าง”

หมอเถานิ่งอึ้ง สีหน้าที่ดูสนุกครึกครื้นดูสลดไป 

“คนไข้ที่มารักษาหมอไทยส่วนมากล้วนแต่คนยากจนหาเช้ากินเช้าหมด จะกินค่ำก็ต้องหาค่ำอีก ไม่มีเงินพอจะไปฉีดยาวฝรั่ง เพราะฉะนั้นจะหวังเงินทองน่ะมันยาก ส่วนมากรักาหายแล้วมักได้เป็นสิ่งของได้ข้าวสารบ้าง ปลาเค็มบ้าง ได้น้ำปลาขวดเดียวก็ยังเคย เหมาะเกิดตายลงค่ารักษาไม่ได้ก็ยังต้องช่วยเป็นสัปเหร่อเสียอีก เพื่อนเอ๋ยหมอมันถึงยากจนเข็ญใจต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าหกเดือนต่อชุดยังงี้”

ครูสมศักดิ์ยิ้มไม่ออก คอหอยต้นตันนึกสมเพศเพื่อนซื่อๆโง่ๆเช่นหมอเถาคนนี้ ที่ต้องต่อสู้กับความเป็นอยู่อย่างแร้นแค้นตลอดมาแต่ไม่เคยปริปากคงมีอารมณ์ สนุกสนานเฮฮาเหมือนคนมีความสุกเช่นเขาอื่น นึกในใจว่าต้นเดือนจะต้องซื้อชุดใหม่ให้หมอเถาอีกสักชุดส่วนครูก้อนแม้จะคิด เช่นเดียวกับครูสมศักดิ์ก็จริงแต่ได้คบหากับหมอเถามานาน จนรู้นิสัยดีว่าถ้าให้หมอเถาเปล่า แกปฏิเสธไม่ยอมเอาของใคร ให้ยัดเยียดจนตายก็ไม่รับ จึงคิดอุบายหาทางเสียเงินให้หมอเถา

“เออพ่อหมอ มียาอะไรดีๆขอสักขนาดเถอะเป็นอะไรไม่รู้เหตุ แขนแมนมันปวดเมื่อยนวดน้ำมันเท่าใดก็ไม่หาย”

หมอเถาเป็นคนซื่อคิดว่าจริง 

“จะต้องกินหยูกยาให้มันเปลืองเงินทำไม มีวิธีรักษาง่ายๆถมไป แขนมันขัดเลือดขัดลมไม่เป็นอะไรหรอก”

ครูก้อนไม่สมคะเน เพราะหมอเถาซื่อมากไปจึงย้ำถามล้อๆ 

“ใช้วิธีเป่าคาถาหรือรดน้ำมนต์น่ะไม่เอาน๊ะ”

“เออน่ะ…” 

หมอเถาพยักหน้า 

“ใช้ท่าดัดตนแบบกายบริหารนี่แหละชะงัดนักสองสามครั้งก็หาย”

ครูสมศักดิ์ยิ้มชอบใจ 

“หมอเถาจะรักษาด้วยวิธีสมัยใหม่แบบกายภาพบำบัดละซี”

“ไม่ใช่ของสมัยใหม่นาแบบดึกดำบรรพ์ทีเดียว” 

หมอเถาท่องโคลงเก่าให้ฟัง
เหยียดหัตถ์ดัดนิ้วนั่ง ชันเพลา
แก้เมื่อยขัดแขนเบา โทษได้
ยาคะรูปนี้เอา ยาชื่อ ใส่เฮย
ผสมสีนักสิทธิ์ให้ ชื่ออ้างอยุทธยาฯ
ครูสมศักดิ์เป็นคนอ่านหนังสือมามากก็จำได้ 

“นี่มันโคลงฤาษีดัดตนที่จารึกไว้ที่วัดโพธิ์นี่”

“ก็ใช่น่ะซี จารึกศิลาไว้ตามผนังศิลารายรอบวัด ตั้งแต่ปีจุลศักราช ๑๑๙๘ ถึงเดี๋ยวนี้หนึ่งร้อยสามสิบกว่าปีมาแล้ว” 

หมอเถาท่องจำนวนปีแม่นยำ หลวงตาชื้นนั่งฟังอยู่นาน ชอบใจหมอเถาอ้างของเก่าก็พลอยสนับสนุน 

“ท่าฤาษีดัดตนนี้ของเขาดีจริง แต่ดั้งเดิมคงจะเป็นด้วยฤาษีท่านนั่งเข้าฌาน นานวันแรมคืนใช้ดัดตนแก้เมื่อยขบ ไหนหมอเถาลองทำให้ดูทีหรืออีท่าไหน จะได้จำเอาไว้ใช้มั่ง”

หมอเถาขยับท่านั่ง ยกเข่าทั้งสองขึ้นชันแนบหน้าอกไว้ แล้วเหยียดตรงไปข้างหน้าจนแขนตึง แบฝ่ามือดัดมาทางข้างหลังพร้อมทั้งอธิบายเสร็จ 

“ค่อยๆ ดัดโน้มมาจนรู้สึกว่าเส้นใต้ท้องแขนตึง พอทนไม่ไหวค่อยปล่อยเลือดลมมันจะวิ่งซู่ตลอดแขนทำสักสองสามคราวก็หายขัด”

หลวงตาชื้นเป็นคนแก่มีโรคเมื่อยประจำจึงสนใจมากกว่าคนอื่น จึงจัดแจงลุกขึ้นทำท่าตามหมอเถาทดลองทำอยู่พักหนึ่งก็ออกปาก 

“ถ้ามันเข้าทีว่ะ แขนแมนเบาดี”

หมอเถาลุกขึ้นจับครูก้อนทำท่าให้ถูกแบบ ครูก้อนตกที่นั่งตกกระไดพลอยโจน ก็เลยต้องปล่อยให้หมอเถาปล้ำดัดแขนอยู่หลายรอบจนแขนที่ออกอุบายว่าขัดยอก เกือบจะขัดยอกไปจริงๆ เพราะท่าดัดตน

“หมอเถาเป็นคนมีบุญ ได้เรียนรู้ของดีๆ ไว้แยะ” 

ครูก้อนชมจริงใจและก็อดพูดวกมาเป็นเรื่องเล่นมิได้ 

“มีท่าดัดตนแก้ขี้เกียจเวลาตื่นนอนมั่งไม๊”

“อ๊ะ...มีซี” 

หมอเถาหลิ่วตาตอบคิดแก้เผ็ดครูก้อน 

“เป็นท่าเอกเสียด้วยรับรองผลทีเดียว”

หมอเถาลุกขึ้นจับครูก้อนให้คุกเข่ามือเท้าพื้นเหมือนกำลังคลานสี่ขาแล้วออกคำสั่ง

“เอ้าเอื้อมมือยืดตัวไปข้างหน้า ให้หลังตึงไว้ เออ...น่าน ยังงั้นแล้วทีนี้สะบัดหัวแรงๆหลายๆ ที นั่น...เอาละ ทีนี้สะบัดลำตัวสั่นเร็วแรงๆให้ร่ายกายมันตื่นตัวถึงจะได้ผล เออ...เด็ด”

เสร็จแล้วหมอเถาหัวเราเอิ๊กชอบอกชอบใจ จนครูก้อนอดแปลกใจถามมิได้ 

“เออท่านี้รู้สึกเข้าทีดี แต่เอ๊ะ...หมอเถาหัวร่ออะไรหรือ”

หมอเถาตอบทั้งกำลังหัวเราะ 

“เออ...ครูก้อนทำเหมือนแบบเปี๊ยะ”

ครูก้อนชักเอะใจ 

“แบบอะไรของหมอเถา”

“แบบหมาตื่นนอนมันสะบัดตัวน่ะซี”

พอหมอเถาไขปัญหาต้นแบบท่าดัดตนก็หัวเราะครืน แม้ตัวครูก้อนเองทั้งๆที่กำลังคลานสี่ขาก็อดหัวเราะที่ตัวถูกหลอกมิได้ เสียงต้นแบบท่าดัดตนของครูก้อน ส่งเสียงเห่ากันเกรียวอยู่ใต้ถุนกุฏิ แสดงว่าเห็นคนแปลกหน้า และครู่ต่อมา ประตูกุฏิก็เปิดออก แขกที่เข้าประตูมาเป็นชายอายุกลางคตนแต่งกายเรียบร้อยท่าทางภูมิฐานและตาม หลังด้วยชายหญิงคู่หนึ่งวัย ๕๐ เศษ ด้วยกันทั้งคู่ เมื่อแขกคนแรกเข้าใกล้ ครูก้อนและครูสมศักดิ์รู้จักจึงยกมือไหว้ทักทาย เมื่อเขานั่งลงกราบหลวงตาชื้นเสร็จก็หันมาทักกับครูทั้งสอง ซึ่งเคยเป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชามาก่อนและแนะนำแขกแปลกหน้าสองสามีภรรยาที่ ตามหลังมาให้หลวงตาชื้นรู้จัก

“คุณประวัติและคุณศรีอยู่กรุงเทพฯขอรับ”

หลวงตาชื้นรับไหว้สองผัวเมีย และหันมาถามทุกข์สุขผู้แนะนำซึ่งเคยรับราชการจังหวัดนี้มาก่อนและเหมือนเป็น ศิษย์ทางโหราศาสตร์ของท่านคนหนึ่งก่อนชุดหมอเถา

“ท่านศึกษาฯอยู่เพชรบุรีสบายดีหรือนานๆ ครั้งจะได้พบกันสักที”

ศึกษาวิเชียร หันไปเรียนตอบหลวงตาแล้ว ก็ถูกซักจากครูก้อนซึ่งคุ้นเคยกันมาก่อนในราชการ

“โหราศาสตร์นั้นยังเล่นอยู่ หรือทิ้งไปเสียแล้วท่านศึกษาฯ”

ศึกษาวิเชียรตอบตรงๆ ไม่ปิดบัง

“อยู่ห่างหลวงตาไม่กล้าใช้วิชาจริงจัง กลัวพลาดแต่ก็ยังมิได้ทิ้งเสียทีเดียว เข้าวงอับวงราก็ใช้อยู่เสมอ”

คุณประวัติและคุณศรีคลานเข้าหาหลวงตาชื้นประเคนถวายของ มีทั้งใบชาและของอื่นๆ หลวงตาชื้นรับประเคนแล้วถามตามมารยาทพระ 

“มีธุระอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าล่ะคุณ”

คุณศรีภรรยาเป็นผู้ตอบ 

“มีเจ้าค่ะหลวงตา เป็นเรื่องสำคัญถึงคอขาดบาดตายทีเดียว แต่ขอให้ท่านศึกษาฯท่านเป็นผู้เล่าดีกว่าเจ้าค่ะ”

หมอเถา ครูก้อน ครูสมศักดิ์ ได้ยินว่าเป็นเรื่องสำคัญก็เกรงใจขยับตัวจะเลี่ยงออกไปให้อยู่กันตามลำพัง ศึกษาฯ รู้ใจคนทั้งสามจึงดึงตัวไว้ 

“ไม่ต้องหลบไปหรอกมิใช่เป็นเรื่องลี้ลับอะไร”

หลวงตาชื้นฟังกำกวมไม่เข้าใจเรื่องราวจึงได้แต่มองหน้าฉงนสนเท่ห์อยู่ จนกระทั่งศึกษาๆ วิเชียรเป็นผู้เล่าว่า

“บุตรสาวคนโตของผมมเรียนวิชาครูอยุ่กรุงเทพฯ ไปเกิดรักใคร่ชอบพอกับบุตรชาย คุณประวัติและคุณศรี ซึ่งเรียนวิทยาลัยเดียวกัน ตอนนี้สำเร็จแล้วทั้งคู่ คุณประวัติและคุณศรีขึ้นมาสู่ขอ ผมก็ไม่รังเกียจสินสอดทองหมั้นก็ไม่ได้เรียกสักเก๊เดียวขอแต่ให้เขารักกัน จริงผมก็เต็มใจยกให้ กะว่าอีก ๒-๓ เดือนข้างหน้า จะจัดพิธีแต่งกันในกรุงเทพฯ ทางฝ่ายเจ้าบ่าวเขารับไปหาฤกษ์แต่ง แต่ทางตัวเจ้าบ่าวเวลาเกิดไม่แน่นอน วางดวงชะตาไม่ได้เขาจึงเอาดวงลูกสาวผมไปวางฤกษ์ได้ฤกษ์มาแล้วไม่ถูกใจผมเลยจริงๆ ขอรับ”

“อ้าว...งั้นจะมาให้อาตมาวางฤกษ์ให้ใหม่กระนั้นหรือ ”

หลวงตาเดาเรื่องเอาเอง 

“ไม่เห็นมันจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายตรงไหน”

“เป็นซีเจ้าค่ะหลวงตา” 

คุณศรีเป็นคนตอบแทนสามีทุกเรื่อง ส่วนคุณประวัติเอาแต่ฟังกับยิ้ม ยอมเป็นช้างเท้าหลังของเมียทุกเรื่อง 

“ผู้ให้ฤกษ์เป็นพระชั้นพระราชาคณะ ซึ่งเกี่ยวเป็นญาติผู้ใหญ่ของเราและเมื่อท่านศึกษาฯทักท้วงฤกษ์ อิฉันก็ไปกราบเท้าท่าน เพื่อขอเปลี่ยนฤกษ์แต่ไม่กล้าบอกท่านตรงๆ ว่า พ่อเจ้าสาวเขารังเกียจฤกษ์เกรงท่านจะโกรธ อ้างเหตุอื่นๆหลายประการ ท่านก็ยืนยันให้ใช้ฤกษ์เดิม ดิฉันจึงตกที่นั่งลำบากและถ้าไม่เปลี่ยนฤกษ์ท่านศึกษาฯ ท่านก็ว่าจะไม่ยอมให้ ลูกสาวแต่งเป็นอันขาดงานแต่งของลูกชายอิฉันคงล้มเหลวหมด”

หลวงตายิ่งฟัง ดูมันยิ่งยุ่งจนจับต้นชนปลายไม่ถูกหันไปถามศึกษาฯ

“แล้วพากันมาหาอาตมาเพื่อประสงค์อะไรกันล่ะฤกษ์เขาเป็นอย่างไรหรือ”

ศึกษาฯ วิเชียรพนมมือเคารพ 

“ผมเป็นศิษย์โหราศาสตร์ของหลวงตา ผมเชื่อหลวงตาองค์เดียว อยากจะให้พิจารณาฤกษ์นี้ว่าดีหรือชั่วและเป็นผู้ตัดสิน ถ้าหลวงตาว่าฤกษ์เสีย ผมจะให้ลูกสาวเป็นหม้ายขันหมาก ความรู้ที่ผมเรียนจากหลวงตาพิจารณาดูแล้ว เห็นว่าเป็นฤกษ์พินทุบาทว์ ขืนแต่งกันไปมันก็ต้องเลิกร้างกันแน่นอน เพราะฉะนั้นให้มันเลิกกันเสียเมื่อยังไม่แต่งดีกว่าจะได้ไม่มีราคี”

หลวงตาจึงเข้าใจแจ่มแจ้งและปลอบโยนตามประสาผู้ใหญ่ 

“เอาเถอะ ค่อยคิดค่อยอ่านอย่าเพิ่งวู่วามรุนแรง คงไม่ใช่เรื่องสำคัญจนไม่มีทางแก้ไขหรอกขอดูฤกษ์สักหน่อยเถอะมันยังไงแน่”

ศึกษาฯ วิเชียรส่งดวงชะตาบุตรสาวและดวงฤกษ์แต่งงาน ซึ่งเป็นปัญหาขัดแย้งให้หลวงตาชื้น ท่านพิจารณาดูอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ค่อยประจงเขียนลงบนกระดานโหร หมอเถา ครูก้อน ครูสมศักดิ์สนใจเต็มที่ ค่อยๆเลื่อนเข้ามาใกล้เพื่อจะได้ดูดวงนั้นให้ถนัดตา เมื่อหลวงตาลอกดวงลงในกระดานแล้วก็นิ่งพินิจโดยละเอียดถี่ถ้วนทุกกระบวนความและถามให้แน่ใจ

“ดวงฤกษ์นี้เขาเขียนดวงดาวไว้ แต่มิได้วางลัคนาฤกษ์ไว้นี่ท่านศึกษาฯ”

“ถูกแล้วขอรับ” 

ศึกษาฯวิเชียรตอบ 

“แต่เวลาฤกษ์ท่านกำหนดไว้ ๑๕.๓๐ น. และเมื่อตัดเวลาอัตราที่เกินเวลาจริงตามหลักโหราศาสตร์ ๑๘ นาทีออกแล้ว ลัคนาจะอยู่ราศีตุลย์พอดีขอรับ”

หลวงตาชื่นไม่พูดว่ากระไร เพียงแต่พยักหน้าหันไปคว้ากลักบุหรี่จุดสูบอัดแรงๆ อย่างใช้ความคิด ท่านหยิบปูมโหรมาตรวจตำแหน่งดาวอีกครั้งให้แน่ใจทั้งขีดกาทักษาตรวจโดยละเอียด ท่านศึกษาฯวิเชียรใจร้อนจึงชิงอธิบายตามที่ตนเห็น 

“เมื่อลัคนาฤกษ์อยู่ราศีตุลย์ ลัคนาฤกษ์ก็เป็นมรณะกับลัคนาเดิมของเจ้าชะตาจันทร์จรซึ่งเป็นเจ้าการฟกษ์ที่ สำคัญก็อยู่ในตำแหน่งมรณะกับลัคนาฤกษ์ในปีนี้เจ้าชะตาอายุย่าง ๒๓ เกิดวันจันทร์ ภูมิจรตกพฤหัส เสาร์จรอันเป็นกาฬกิณีประจำปี ก็จะเล็งลัคนาฤกษ์ทำให้เป็นฤกษ์พินทุบาทว์และให้ผลชั่วแก่เรือนปัตนิของ ลัคนาฤกษ์ด้วย ทั้งวันฤกษ์เป็นวันศุกร์ กาฬกิณีของวันคือราหูจร ซึ่งกำลังทับลัคนาเดิมอยู่ ผมไม่เข้าใจว่าท่านให้ฤกษ์มงคลเช่นนี้มาได้อย่างไร ทั้งๆที่มีจุดเสียหายร้ายแรงทุกสถาน การมันเป็นเช่นนี้ ผมจึงไม่ยอมให้ลูกสาวผมแต่งในฤกษ์นี้เป็นอันขาดไม่ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร”

“ก็เมื่ออะไรๆ ท่านศึกษาก็รู้ดีแจ่มแจ้งหมดแล้ว อะไรๆก็ตั้งใจและตัดสินใจมาแล้วจะต้องมาหาอาตมาอีกเพื่ออะไร เพราะอาตมาจะมีความเห็นอย่างไรก็ไร้ประโยชน์” 

หลวงตาพูดเสียงต่ำๆ บอกถึงความรู้สึกไม่พึงใจในคำสุดท้ายของศิษย์กิติมศักดิ์ ศึกษาฯวิเชียรได้สติกรางหลวงตาชื้นซึ่งเป็นอาจารย์ที่เคยเคารพจะขุ่นเคือง และเข้ามจผิดเพราะอารมณ์ฉุนเฉียวของตน จึงก้มลงกราบแทบตัก 

“กระผมขออภัยที่พูดจาแรงไปขอรับ แต่มิได้มีเจตนาจะลบหลู่หลวงตาผู้มีพระคุณมิได้ ที่มาหาหลวงตาก็เพราะเคารพหวังจะพึ่งในความคิดและสติปัญญาของหลวงตาในทางแก้ไขผ่อนปรนเพราะใจแท้ผมเองยังไม่ปรารถนาจะขัดขวางความสุขของลูก”

“ก็น่านน่าซี...” 

หลวงตาหายเคือง 

“ถ้าใช้ทิฐิของผู้ใหญ่การแต่งมันก็ล้มเหลวลง ลูกสาวมันเกิดหาฤกษ์หอบผ้าตามเขาไปมันมิเดือดร้อนยิ่งไปกว่าหรอกหรือ”

ท่านศึกษาฯ อดดื่อมิได้ 

“ลูกสาวผมคงจะเชื่อคำพ่อมั่งหรอก”

“ฟังน๊ะ...ท่านศึกษาฯ คุณก็ได้ศึกษาเรียนรู้โหราศาสตร์ไว้มากมาย อย่าเอาโทสะจิตเข้าครอบงำปัญญาให้มืดมัว” 

หลวงตาเตือนสติและชี้กระดานโหรตรงหน้า 

“จงพิจารณาดวงดาวเขาให้ดีตามที่อาตมาเคยสอนไว้ จงดูดาวเดิมดาวจรประกอบกันว่าลูกสาวเรามันถึงคราวจะมีสามีหรือหาไม่ ถ้ามันถึงคราวแล้วมนุษย์เราๆจะขัดขืนฝ่าฝืนดวงดาวเขาได้หรือไม่”

ท่านศึกษาฯนิ่งอึ้งไม่กล้าโต้แย้งให้ยาวความเพราะเกรงใจท่าน ด้วยรู้นิสัยหลวงตาชื้นดีว่าเวลาขัดเคืองใจขึ้นมาไม่เคยไว้หน้าใคร แม้ขนาดข้าหลวงฯท่านก็ยังเคยเชิญลงจากกุฏิมาแล้ว”

หลวงตาชื้นเห็นศึกษาฯนิ่ง ก็คิดว่าได้สำนึก จึงค่อยๆอธิบายดาวให้ฟัง เพื่อให้ความคิดความรู้แก่ศิษย์ที่นั่งอยู่ทั้งหมด

“ทางดวงเดิมของเขาเจ้าเรือนปัตนิคือพุธมาครองอยู่ภพสหัชชะอันหมายถึงคู่ครองย่อมเป็นบุคคลเคย คบหาสนิทสนมฉันท์เพื่อนมาก่อนและพุธมาสถิตร่วมราหูเล็งตนุเศษอันเป็นตัวจิตใจ ก็แสดงถึงในความรักของเธอย่อมหลงใหลขาดความยับยั้ง เพราะภพที่พุธและราหูครองนั้นเป็นเรือนศุกร์ มันอาจคิดเห็นผิดเป็นชอบไปได้ง่ายๆ”

ท่านศึกษาฯอ่านดาวตามคำหลวงตาไปด้วย และเห็นจริงแต่นิสัยดื้อก็อดติงมิได้ 

“ตนุเศษเธอคือพฤหัสน๊ะขอรับ ควรจะมั่นคงในศีลธรรมและคุณงามความดีไม่ควรหลงผิดไป”

“นี่แหละเขาถึงว่าเอาแต่ใจตน อ่านดาวให้เข้ากับความนึกคิดที่ตนอยากให้เป็นไป” 

หลวงตาใช้นิ้วเคาะกระดานตรงราศีกันย์ดังโป๊ก 

“พฤหัสที่เป็นตนุเศษนั้น เป็นพฤหัสกำเนิดเดิมตั้งแต่เกิดจนตาย มันจะยึดมั่นศีลธรรมอยู่ตลอดชีวิตได้ยังไง ดูนี่ซีตัวพฤหัสที่เคยเป็นตนุเศษขณะนี้จรอยู่ราศีกันย์เป็นประ เล็งลัคน์อยู่เห็นไม๊ ยังคิดอยู่อีกหรือว่าพฤหัสตนุเศษนั้นยังจะยึดมั่นจารีตประเพณีและคุณธรรมอยู่อีก”

เห็นได้ชัดว่าสีหน้าท่านศึกษาเผือดลงถนัด เพราะเห็นจริงตามคำที่หลวงตาชื้นชี้ให้ดู หมอเถา ครูก้อน ครูสมศักดิ์ ลืมตัวนั่งกระเถิบเข้ามาจนติดกระดาน เบียดตัวตะแคงชะโงกหน้าจ้องแต่ดวงในกระดาน ทั้งแปลกและอัศจรรย์ใจที่หลวงตาชื้นอ่านดาวเป็นว่าเล่นเหมือนอ่านหนังสือให้ฟัง หลวงตาสังเกตสีหน้าท่านศึกษาฯ ออกว่าคลายทิฐิไปมากแล้วก็เริ่มต่อไปอีก

“ดวงเดิมของเธอราหูเดิมตัวดาวลอยนั้นเล็งพฤหัสตนุเศษ และตนุลัคน์อยู่ก่อน และบัดนี้ราหูจรทับลัคน์และเล็งพฤหัสจร ตามเกณฑ์เดิมของเธอ มันจะแคล้วคลาดกันไปได้ยังไง ซ้ำราหูจรทับศุกร์เดิมในเรือนลัคน์ดาวคู่นี้มันหลงใหลมัวเมา ขาดความยั้งคิดเสมอในเรื่องความแสน่หา และพฤหัสจรซึ่งเป็นตนุลัคน์มาเป็นประเสียอีก ลองคิดกันเล่นๆถ้ามันเกิดแต่งกันเองเข้าแล้วก่อนฤกษ์ที่มัวมาทะเลาะกันอยู่นี้ เขาจะเลิกกันตามใจพ่อหรือ”

หลวงตาชื้นเหลียวดูหน้าท่านพ่อตาศึกษาเห็นนิ่งขึงอยู่ ก็รำพึงไปตามอารมณ์เจ้าบทเจ้ากลอนของท่าน

“ความรัดดั่งโคถึก กำลังคึกผิขังไว้ ก็จะโลดจากคอกไปบ่มิคิดถึงเจ็บตน”

เมื่อสิ้นเสียงหลวงตาชื้นทุกคนก็ได้แต่นิ่งและคิดไปต่างๆกัน ท่านศึกษาฯนั้นเห็นจริงไปทุกสิ่งสิ้นข้อสงสัย ความขุ่นเคืองและดื้อดึงลดลงมา กลายเป็นความวิตกกังวลใจ อย่างเป็นทุกข์ตามภาวะของดาวในดวงลูกสาวที่เห็นๆอยู่ ข้างหมอเถาและครูก้อนนั้นจ้อง แต่จะดูแล้วก็จดจำมิให้หายหกตกหล่นไปเลยสักคำ เพื่อเก็บเอาไว้ใช้ในโอกาสที่ตนจะพยากรณ์ ส่วนครูสมศักดิ์นั้นมีประสบการณ์ผ่านวงการโหราศาสตร์อื่นๆมาก่อน เมื่อมาได้ยินได้ฟังการอ่านดาวเดิมผสมดาวจรได้แนบเนียนและตรงเป้าหมายชีวิต ของหลวงตาเข้าก็เกิดความศรัทธาเต็มเปี่ยมหัวใจ ข้างคุณประวัติและคุณศรีไม่มีความรู้ทางโหราศาสตร์ ก็ได้แต่ฟังและคิดว่าหลวงตาชื้นท่านช่วยพูดกล่อมให้พ่อเจ้าสาวใจอ่อนลง

หมอเถามัวฟังเพลินจนลืมกิจวัตร์ที่เคยปฏิบัติมา ต่อเมื่อถูกหลวงตาขอน้ำชา จึงรีบรินถวาย หลวงตาชื้นจิบน้ำชาไปนิ่งไปมองดูหน้าท่านศึกษาฯไป เหมือนอ่านให้ลึกเข้าไปถึงจิตใจ กำลังคิดอยู่และคิดตามประสาคนแก่ว่าจะต้องถอนเอาทิฐิมานะออกเสีย ให้หมดก่อน แล้วจึงค่อยพูดจากันให้รู้เรื่อง

“อันว่าฤกษ์ คือ คราวอันเหมาะ” 

หลวงตาชื้นเอ่ยอ้อมๆ ไป 

“ผู้ใช้ฤกษ์มักยึดมั่นผิดๆ จนเกินความหมายฤกษ์ไปมากเช่นเปิดร้านค้าขาย ก็หาฤกษ์ที่ร่ำรวยและอุดมด้วยลาภผลเงินทองและยึดถือว่าการค้าของตนจะต้อง อุดมสมบูรณ์รำรวยไปตลอดชาติ ครั้นถึงคราวชะตาดีชะตาร้ายเกิดขาดทุนหรือเสียหายก็โทษฤกษ์ไม่ดี ชีวิตคนเรากำเนิดมาด้วยบุญและกรรมที่บัญชาชีวิตให้มาเกิด ย่อมต้องมาใช้หนี้บุญหนี้กรรมที่บัญชาชีวิตให้มาเกิด ย่อมต้องมาใช้หนี้บุญหนี้กรรมของตนไปชั่วชีวิต ฤกษ์วิเศษใดๆเล่าจะเปลี่ยนแปลงฤกษ์กำเนิดแห่งชีวิตของเขาแต่เดิมได้”

ท่านศึกษาฯพนมมือ ถามหลวงตาตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม 

“หลวงตาประสงค์ให้กระผมละทิฐิและยอมรับฤกษ์ที่เขาหามานี้เป็นฤกษ์แต่งลู สาวกระผมหรือขอรับ”

หลวงตาโบกมือ 

“ยังก่อน อาตมาไม่ขืนใจท่านศึกษาฯถึงเพียงนั้น อาตมาต้องการให้ท่านเห็นผิดเห็นชอบและตัดสินใจเอาเองด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง เพื่อตัวองจะได้สบายใจด้วย”

หมอเถานึกรู้ว่าวันนี้ หลวงตาต้องเทศน์กัณฑ์ใหญ่แน่จึงรินน้ำชาเพิ่มเติมถวายอีก

“มีฤกษ์สำคัญอันวิเศษสุด อยู่ฤกษ์หนึ่งเป็นฤกษ์อันยิ่งใหญ่เหนือฤกษ์ทั้งปวง” 

หลวงตาเริ่มช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ 

“เป็นฤกษ์บรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ในรัชสมัยพระปกเกล้าเจ้าอยุ่หัว รัชกาลที่ ๗ ซึ่งผู้คำนวณฤกษ์และสอบฤกษ์เป็นคณะโหรผู้สูงสุดในแผ่นดินคือกรมโหร อันมีพระยาโหราและคณะ ได้กราบถวายบังคมทูลกำหนดพระฤกษ์วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๕๘ ตรงกับวันพฤหัสบดีขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๔ ได้มหาศุภมงคลเวลา ๙ นาฬิกา กับ ๕๓ นาที และ ๕๒ วินาทีก่อนเที่ยง เสด็จขึ้นสู่พระแท่นสรง ผินพระพักตร์สู่ทิศอีสานมหามงคล พราหมณ์ถวายน้ำพระมหาสังข์ชำระพระองค์ ทรงเครื่องมุรธาภิเษก เมื่อได้เวลา ๑๐ นาฬิกา ๕๒ นาที ๕๒ วินาทีก่อนเที่ยงเป็นปฐมฤกษ์ เสด็จเถลิงสู่แท่นภัทรบิษฐ์ พระฤกษ์นี้ได้ “จัตุรงคโชค” อันเกิดชัยชำนะข้าศึกศัตรูทั้งสิบทิศ ประกอบด้วยราชาและลาภะฤกษ์ ทั้งศรีจรร่วมพระราชลัคนาและเป็นลาภะแก่พระฤกษ์ ทั้งกาฬกิณีจรเป็นมรณะ เป็นพระฤกษ์อันสมบูรณ์ดีทุกประการซึ่งจะหาวันฤกษ์ใดมาเทียบมิได้”

หลวงตาชื้นท่านหยุดไว้แต่เพียงนั้น ท่านศึกษาฯ รำพึงเหมือนบอกแก่ตนเองตามความรู้สึก 

“ต่อมาอีก ๗ ปี พระองค์ท่านก็ทรงสละราชสมบัติ และดำรงพระชนม์ชีพในต่างประเทศจนเด็จสู่สวรรคต”

ทุกคนมีความรู้สึกสำนึกโดยไม่ต้องมีคำอธิบายอะไรอื่นๆ คือ ท่านศึกษาฯยิ่งคิดทบทวนไปตามถ้อยคำของหลวงตามาตั้งแต่ต้นก็ยิ่งเห็นเหตุและ ผลของชีวิตยิ่งขึ้นและเมื่อคำนึงถึงว่าหลวงตาท่านแตกฉานในโหราศาสตร์มากกว่า ตนซึ่งเป็นศิษย์ ย่อมเห็นถูกผิดชั่วดีได้ถ่อยแท้กว่าและท่านย่อมปรารถนาดีแก่ตนและบุตรสาวแน่นอน จึงตัดสินใจบอกหลวงตา

“ถ้าหลวงตาเห็นชอบกับฤกษ์นี้กระผมก็ยอมรับไม่ขัดข้องทุกประการขอรับ”

หลวงตายิ้มแย้มถูกใจแต่กลับส่ายหน้า 

“ยังก่อนถึงท่านศึกษาฯจะไม่คัดค้านขัดขวางแต่ดวงดาวตามที่ท่านศึกษาฯอ่านอยู่เมื่อ ครู่นั้นยังคัดค้านขัดขวางอยู่ไม่บังควรจะปล่อยไว้เช่นนั้น”

ทุกคนในที่นั้นยิ่งแปลกในใจอุปนิสัยของหลวงตาชื้น เพราะเหตุการณ์น่าจะลงเอยเรียบร้อยได้ แต่ท่านกลับไม่ยอม จะพิสูจน์ถึงความผิดถูกให้แจ่มชัดเจนหมดความข้องใจ ครูสมศักดิ์มองดูดวงฤกษ์แล้วเห็นจริง ตามท่านศึกษาฯและสงสัยว่าหลวงตาท่านจะพิสูจน์ความผิดให้ถูกขึ้นมาได้ทางไหน มองไม่เห็นหนทางเลยจึงคอยฟังเหตุผลของท่านต่อไป

“ผู้ให้ฤกษ์นี้เป็นพระชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งมีเกียรติคุณมากและชำนิชำนาญในการวางฤกษ์ และรอบรู้โหราศาสตร์ยิ่งกว่าอาตมาจนไม่อาจเทียบได้ ฉะนั้นท่านย่อมไม่กระทำการผิดพลาดถึงเพียงนั้น ท่านย่อมมีเหตุผลของท่าน ทางฤกษ์บนนั้นจันทร์เสวยฤกษ์เป็นหลักใหญ่ๆเหมือนๆกันทุกคัมภีร์ แต่ทางฤกษ์ล่างและฤกษ์เกร็ดนั้นมีมากมายหลายสิบคัมภีร์ล้วนแตกต่างกันในการวางฤกษ์ ตามมติของผู้ให้ฤกษ์”

หมอเถาประเคนน้ำชาส่งถ้วยที่ ๕ จนหลวงตาชื้นปัดมือเพราะดื่มจนอิ่ม แล้วท่านก็อ่านทางฤกษ์ของดวงนี้ให้ฟัง

“ฤกษ์นี้เป็นศุภฤกษ์อันสมบูรณ์ยิ่ง คือฤกษ์บนจันทร์เสวยภูมิปาโลฤกษ์ในราศีพฤษภจันทร์เป็นมหาอุจจ์ทับพุธ คู่มิตรซึ่งเป็นเจ้าเรือนปัตนิเดิมของเจ้าชะตา และเล็งพฤหัสคู่ธาตุ ซึ่งเป็นทั้งตนุลัคน์และตนุเศษ แม้ร่วมราหูบาปเคราะห์ก็เป็นคู่สมพลต่อกัน ท่านต้องการความมั่งคงถาวรและอยู่เย็นเป็นสุข และทางฤกษ์ล่างท่านใช้วันศุกร์ อันเป็นวันตามกาลโยคประจำปีเป็นวันธงไชยและอธิบดี ส่วนข้อตำหนิที่ว่ากาฬกิณีของวัน คือราหูจรทับลัคนานนั้นเมื่อมาดูทางตนุลัคน์คือพฤหัสเดิมในราศีพิจิก อังคารจรซึ่งเป็นศรีของวันและเป็นเกษตรทับตนุลัคน์ เป็นมุมแก้ราหูอยู่ย่อมไม่มีโทษ ส่วนกาฬกิณีประจำปีคือ เสาร์ ที่อยู่ภพกดุมภะ ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเงินตามดวงชะตาไม่เกี่ยวกับเรื่องคู่ครองแต่อย่าง ใด และเสาร์ก็หมดฤทธิ์ไปมากเพราะเป็นนิจหมดกำลังสถานหนึ่งและอีกสถานหนึ่งเสาร์ นี้เคยเป็นศรีเดิมเมื่อมาเป็นกาลกิณีย่อมทรงโทษไม่รุนแรงนัก”

หลวงตาเว้นระยะพักเหนื่อย จ้องดูหน้าคนฟังที่นิ่งสงบและตั้งใจฟัง เหมือนฟังเทศน์แล้วท่านก็อรรถาธิบายตอนสำคัญ

“ที่สำคัญที่สุดของฤกษ์นี้ ก็คือท่านไม่ใช้ลัคนาฤกษ์อย่างที่ท่านศึกษาฯ วางไว้นั้น”

ประการอื่นๆ ที่หลวงตาอ่านฤกษ์ ท่านศึกษาฯก็เห็นด้วยทั้งหมด แต่ถึงช้อสุดท้ายก็อดแย้งมิได้

“อ้าว..หลวงตาขอรับ แล้วเขากำหนดเวลาได้อย่างไร ถ้าไม่มีลัคนาฤกษ์ และจะเอาอะไรเป็นจุดกำหนดฤกษ์เล่าขอรับ”

หลวงตานึกอยู่เสมอว่าจะถูกขัดคอ ท่านจึงยิ้มๆไม่ว่ากระไรคงพูดต่อ 

“ท่านให้ทางฤกษ์แบบเก่า คือ ถือยามแห่งดาวเป็นฤกษ์เป็นกำหนดเวลา คำโบราณที่ว่า ฤกษ์งาม-ยามดีนั้นแหละ”

ครูสมศักดิ์ขยับปากจะพูด แต่เห็นต่อหน้าแขกแปลกหน้าก็นิ่งเสีย หลวงตาเห็นเข้าก็พยักหน้าให้พูด ครูสมศักดิ์ค่อยๆเอ่ยเกรงๆใจ

“ผมเคยเห็นเขาวางดวงฤกษ์สถานที่โบราณว่ามีลัคนาเวลาที่สร้าง”

“ถูกต้องแล้ว เพราะเป็นฤกษ์กำเนิดของสถานที่แห่งนั้นและเป็นสิ่งไม่มีชีวิต จึงมีลัคนาฤกษ์เป็นลัคนากำเนิด แต่มนุษย์เกิดแล้วมีลัคนากำเนิดแล้ว อาจารย์เก่าบางท่านจึงไม่นิยมวางลัคนาฤกษ์เป็นลัคนาซ้อน ท่านจึงใช้ยามและยึดดาวเจ้ายามนั้นๆที่กำลังทำมุมอยู่ในดวงชะตา”

เมื่อเห็นครูสมศักดิ์และท่านศึกาฯนิ่งแสดงถึงเข้าใจแล้วท่านก็อธบายต่อ 

“จุดเด่นของฤกษ์นี้คือศุกร์ท่านกำหนดเอาวันศุกร์และเวลา ๑๕.๓๐ น.. เป็นยามศุกร์และขณะที่ดาวศุกร์กำลังจรเข้าเรือนของตนราศีพฤษภได้ตำแหน่ง เกษตรอันมั่งคง และเป็นปัตนิแก่พฤหัสอันเป็นตนุลัคน์และตนุเศษ ความต้องการของท่านผู้ให้ฤกษ์ อาตมาพอเดาได้ถูกเพราะเคยพบฤกษ์ชนิดนี้มาแล้ว ในเมื่อศุกร์คือความรักความเสน่หา ความรื่นรมย์และกามกิเลส ท่านต้องการให้คู่บ่าวสาวมันต้องใจในรสรักต่อกัน เพื่อเป็นเครื่องผูกพัน เขาจะได้รักกันดูดดื่ม ไม่ทิ้งขว้างร้างหย่ากันง่ายๆ เพราะอะไรเล่าจะผูกพันชีวิตผัวเมียไว้ได้แน่นหนาได้เท่ากับเชือกแห่งความ เสน่หาอันต้องใจและราหูจรทับศุกร์เดิมในเรือนลัคน์และศุกร์จรทับราหูเดิม ในราศีพฤษภเขาก็จะหลงใหลในความรักอย่างมากก็หึงหวงแก่กันเพราะรักกันมากเกินไป เห็นหรือยังท่านผู้ให้ฤกษ์ท่านมีอัจฉริยเพียงใด ท่านศึกษาฯ ไปลองหาฤกษ์ใหม่ดูเถิดจะดีเท่ากับที่ท่านให้ไว้นี้ไม่มีอีกแล้ว”

ท่านศึกษาฯ ก้มลงกราบโดยเต็มใจหมดทิฐิและข้อกังขาใดๆอีกแล้ว

“กระผมยอมรับฤกษ์นี้แล้วขอรับ”

หลวงตาชื้นกลับไม่ยอม ท่านจับมือเขาไว้แล้วฉุดขึ้นอีก

“ยังก่อนตัวลัคนาฤกษ์ที่อ่านไว้เมื่อกี้มันจะฝังใจหลอนไปอีก หากภายหน้าเกิดมีเหตุมีเคราะห์เกิดแก่คู่ผัวเมียเขา ใจท่านศึกษาฯก็จะเกิดระแวงถึงข้อนี้อยู่ร่ำไป ฟังอาตมาให้ดี เวลา ๑๕.๓๐ น. ที่ท่านกำหนดไว้นั้นเป็นเวลาแรกของยามศุกร์ และ ลัคนาฤกษ์ของท่านศึกษาฯ ก็อยู่ในราศีตุลย์หมิ่นราศี จะข้ามไปราศีพิจิกอยู่รอมมะร่อแล้ว อันเวลาของยามศุกร์นั้นถึง หนึ่งชั่วโมงครึ่ง ฉะนั้นก็เลื่อนเวลาไปสัก ๑๐ นาที ก็ยังอยู่ในยามศุกร์ ท่านผู้ให้ฤกษ์ท่านก็ไม่ว่ากระไร แต่อย่าให้เลยห้าโมงกว่าเพราะจันทร์จะยกจากฤกษ์ เมื่อเลื่อนเวลาได้แล้ว ลัคนาฤกษ์ก็จะไปอยู่ราศีพิจิกเป็นศุภะแก่ลัคนาเดิมและร่วมอังคารซึ่งเป็น เกษตร และเล็งศุกร์ได้ความหมายตามฤกษ์เดิมของท่านด้วย และตัวเสาร์กาฬกิณีก็ตกเป็นอริแก่ลัคนาฤกษ์ไปเสียจะพอใจหรือยังเล่า”

ท่านศึกษาฯ วิเชียรหมดพยศหมดความถือตำแหน่งราชการก้มลงกราบและกอดเท้าทั้งสอง ของอาจารย์ไว้แนบกับศีรษะพูดเสียงสั่งเครือเพราะความปิติลันหัวใจ

“ผมพ้นทุกข์แล้วเพราะพระเจ้าของกระผมองค์นี้เอง”

คุณประวัติและคุณศรีน้ำตาคลอทั้งคู่ก้มลงกราบพร้อมกับเสียงพูดปนเสียงสะอื้นเพราะความดีใจปลาบปลื้ม 

“หลวงตาโปรดสัตว์แท้ๆ ได้ช่วยให้ชีวิตเด็กทั้งสองได้ครองกัน เพราะภูมิปัญญาของหลวงตาจริงๆ ดิฉันจะไม่ลืมพระคุณของหลวงตาชั่วชีวิต”

ข้างหมอเถา ครูก้อน ครูสมศักดิ์ เห็นเขากราบกันก็พลอยดีใจเผลอลืมตัวกราบลงพร้อมกับเข้าบ้างทั้งสามคน ข้างหมอเถากราบไม่กราบเปล่าดันร้องอนุโมทนาออกมาเต็มเสียง "สาธุ"




วิถีแห่งปัญญา

เข้าสู่บทนำ ความเป็นจริงของวิชาโหราศาสตร์ article
พระคาถาชินบัญชร article
คาถาประกาศชุมนุมเทวดา article
การบูชาเทวดานพเคราะห์ article
วิธีติดตั้งโปรแกรม Astrolog32
ชีวิตโหรเก่าที่ผมรู้จัก
บุตรสุดที่รัก
ทนายโหราศาสตร์
นามนี้ ดีไฉน
ดาวแฝงแสง อ.หมอเถา (วัลย์)
พระเคราะห์ถ่ายเรือน อ.หมอเถา (วัลย์)
ยามอัฏฐกาล อ.หมอเถา (วัลย์)
ดวงชาวเกาะ อ.หมอเถา (วัลย์)
ดาวสองชั้น อ.หมอเถา (วัลย์)
ดาวลอย อ.หมอเถา (วัลย์)
อ่านดาว อ.หมอเถา (วัลย์)
ดวงพระ อ.หมอเถา (วัลย์)
ดาวบุพกรรม อ.หมอเถา (วัลย์)
รถแคมเพอร์แวนของลุงแว่น
แบบฟอร์มดวงฤกษ์พิธีมงคลต่างๆ
เรื่องเล่าพระฤาษี article
พิธีบายศรีสู่ขวัญ article
พระฤาษีกับวิชาไสยศาสตร์ article
Tip การจัดโต๊ะหมู่บูชาพระ article
ดูดวงโหราศาสตร์กับลุงแว่น article
ว่าด้วย....เรื่องของทาน article
ว่าด้วย....เรื่องของศีล article
ดวงจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ article
คติธรรมคำสอน ของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี ) article
พระพุทธรูปบูชาประจำวันเกิด พร้อมคาถาบูชา article
วิธีบูชาพระราหู article
คึกคักเป็นพิเศษไหว้'ราหู'หวังหนีราศีซวย article
ตาทิพย์ การฝึกกสิณ 10 article
กายทิพย์ article
พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง 9 องค์ พร้อมคาถาบูชา article
พระพุทธองค์ทรงสอนวิธีสร้างความสุขที่แท้จริงให้แก่ชีวิต article
คาถายอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎก article
สัมผัสที่ 6 และโทรจิต article
จุดคราสในดวงชะตา อ.หมอเถา (วัลย์) article
ทักษาสมเด็จ อ.หมอเถา (วัลย์) article
ลัคเน อ.หมอเถา (วัลย์) article
พินทุบาทว์ อ.หมอเถา (วัลย์) article
ทักษาประสมเรือน อ.หมอเถา (วัลย์) article
จับโจร อ.หมอเถา (วัลย์) article
ห้ามฤกษ์ อ.หมอเถา (วัลย์) article
ดาวคู่มิตร-คู่ธาตุ อ.หมอเถา (วัลย์) article
ยามกาลชะตา อ.หมอเถา (วัลย์) article
ตั้งชื่อเด็ก อ.หมอเถา (วัลย์) article
เรียนโหราศาสตร์ อ.หมอเถา(วัลย์) article
บุพพกรรมแห่งดาว article
กฎแห่งกรรม อ.หมอเถา(วัลย์) article
โหราศาสตร์นอกคอก แต่ไม่นอกครู "บุษบามีคู่" อ.หมอเถา article
ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช article
พิธีกรรมทางไสยศาสตร์ article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.