ReadyPlanet.com
dot dot
bulletHorasaadRevision.com
dot
ห้องโหรแว่นทิพย์
dot
bulletWelcome to foreigners
bulletกำเนิดจักรราศี*
bulletประวัติของวิชาโหราศาสตร์*
bulletวิชาโหราศาสตร์ไทยเบื้องต้น*
bulletกฎเกณฑ์วิชาโหราศาสตร์ไทย*
bulletอันโตนาที*
bulletอายนางศ์*
bulletวิธีคำนวนสมผุสลัคนา*
bulletนัยยะแห่งเรือนราศี*
bulletนัยยะแห่งเรือนชะตา*
bulletนัยยะแห่งดวงดาว*
bulletนัยยะแห่งตำแหน่งดาว*
bulletทิศาพยากรณ์*
bulletโรคาพยากรณ์*
bulletทักษาพยากรณ์*
bullet๑๐๘นวางค์รอบจักรวาล*
bulletวรโคตรนวางค์*
bulletตรียางค์พิษ*
bulletโหรปัตนิและดาวพระศุกร์*
bulletนานาปกรณ์เกี่ยวกับฤกษ์*
bulletเกร็ดโหราศาสตร์*
bulletเคล็ดวิชาต่างๆ*
bulletการทำนายฝันและเคล็ดลับการแก้ฝัน*
bulletพระพุทธรูปบูชาประจำวันเกิด พร้อมคาถาบูชา*
bulletพระคาถาชินบัญชร*
dot
โหราศาสตร์ไทย ฉบับหอมรดกไทย
dot
bulletตำนานดาวพระเคราะห์
bulletการแบ่งจักรราศี
bulletตำรามหาทักษา
bulletคัมภีร์กาลโยค
bulletลัคนากับดวงชะตา
bulletมาตรฐานดาวเคราะห์
dot
หน้าแบบฟอร์มต่างๆของเว็บไซด์
dot
bulletแบบฟอร์มตั้งชื่อ-นามสกุล
bulletแบบฟอร์มฤกษ์พิธีมงคลต่างๆ
bulletแบบฟอร์มฤกษ์คลอดบุตร
bulletแบบฟอร์มฤกษ์มงคลสมรส
bulletแบบฟอร์มฤกษ์เปลี่ยนชื่อ
bulletแบบฟอร์มห้องเรียนโหร
bulletสมุดเยี่ยม
dot
เกร็ดพยากรณ์..เพื่อความบันเทิง
dot
bulletนิสัยสาว 12 ราศี
bulletทายนิสัยจากเดือนเกิด
bulletจุดร้อนตามราศี
bulletความรักตามวันเกิด
bulletทายนิสัยจากการใส่แหวน
bulletผลไม้ทายนิสัย
bulletความรักตามกรุ๊ปเลือด
bulletอ่านใจหนุ่ม 12 ราศี
bulletผู้ชายเพอร์เฟค
bulletน้ำหอมกับราศี
bulletวิธีมัดใจหนุ่ม-สาวราศีต่างๆ
bulletพยากรณ์ ช-ญ ตามวันเกิด
bulletวันเกิดบอกนิสัยเนื้อคู่ ช-ญ
bulletทำนายเซ็กส์กับราศี
bulletความลับบนเตียง 12 ราศี
bulletเคล็ดลับดูไฝบนกายสาว
bulletทำนายผู้เกิดใน 12 นักษัตร
bulletคู่แต่ง คู่รัก คู่ขา?
bulletทายนิสัยคนใกล้ตัว 17 เรื่อง
bulletดวงของผู้หญิงตามวันเกิด
bulletดู ตัวตน,ชอบ,ยี้ หนุ่มสาว
bulletต้นไม้มงคลกับราศีเกิด
dot
เว็บวาไรตี้ยอดนิยม
dot
bulletwww.sanook.com
bulletwww.kapook.com
bulletwww.mthai.com
bulletwww.ragnarog.in.th
bulletwww.hunsa.com
bulletwww.teenee.com
bulletwww.365jukebox.com
bulletwww.dek-d.com
bulletwww.zuzaa.com
bulletwww.wanjai.com
bulletwww.narak.com
bulletwww.jorjae.com
bulletwww.aromdee.com
bulletwww.deedeejang.com
bulletwww.funwhan.com
bulletwww.saranair.com
bulletwww.madoo.com
dot
หนังสือพิมพ์ไทย-เทศ
dot
bulletกรุงเทพธุรกิจ
bulletข่าวสด
bulletคม ชัด ลึก
bulletฐานเศรษฐกิจ
bulletเดลินิวส์
bulletไทยรัฐ
bulletไทยโพสท์
bulletแนวหน้า
bulletประชาชาติธุรกิจ
bulletผู้จัดการ
bulletมติชน
bulletโพสท์ทูเดย์
bulletสยามธุรกิจ
bulletสยามกีฬา
bulletสยามรัฐ
bulletBangkok Post
bulletThe Nation
bulletVoice of America
bulletBBC Thai
dot
Foreign newspaper
dot
bulletNew Straits Time MY
bulletThe Straits Time SG
bulletVientiane Times LAOS
bulletNew Light of Myanmar
bulletThe Daily Tribune PH
bulletThe Manila Times PH
bulletThe Jakarta Post
bulletS. China Morning Post
bulletChina Daily CN
bulletTaipei Times TW
bulletYomiuri Shimbun JP
bulletThe Asahi Shimbun JP
bulletThe times of India
bulletAl Jazeera
bulletThe Guardian UK
bulletThe Times UK
bulletBBC News UK
bulletLe Monde FR
bulletDie Welt DE
bulletLa Nacion Line AR
bulletThe New York Time
bullet USA today
bulletThe Washington Post
bulletThe wall street Journal
bulletOnline Newspaper Di.tory
dot
ธนาคารต่างๆ
dot
bulletธ.กรุงเทพ
bulletธ.กรุงไทย
bulletธ.กรุงไทย ชาริอะฮ์
bulletธ.กรุงศรีอยุธยา
bulletธ.กสิกรไทย
bulletธ.ซิติ้แบงค์
bulletธ.ดีบีเอส ไทยทนุ
bulletธ.ทหารไทย
bulletธ.ธนชาต
bulletธ.นครหลวงไทย
bulletธ.ยูโอบี รัตนสิน
bulletธ.สแตนดาร์ด ช. นครธน
bulletธ.อิสลามแห่งประเทศไทย
bulletธ.เอเซีย
bulletธ.ไทยธนาคาร
bulletธ.ไทยพาณิชย์
bulletพระคาถาชินบัญชร*
bulletพระพุทธรูปบูชาประจำวันเกิด พร้อมคาถาบูชา*


เชิญค่ะ


 ดูหนังสือ สอบถาม
 สั่งซื้อ

eXTReMe Tracker

 ชาติ                                           

นานาทรรศนะ 
เสนอร่างรัฐธรรมนูญ
ปกิณกะ
เหตุการณ์ในอดีต 
เรื่องของไทยในอดีต 
เรื่องของชนชาติไทย
ภูมิศาสตร์ของไทย 
ก่อนสมัยสุโขทัย 
กรุงสุโขทัย
กรุงศรีอยุธยา
กรุงเทพมหานคร
นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
อุทยานประวัติศาสตร์
เมืองเก่าของไทย
ทำเนียบหัวเมือง
การทหารของไทย
ธงชัยเฉลิมพล
ทหารรักษาพระองค์
ทหารอาสาต่างชาติ 
รู้เรื่องเมืองสยาม 
ประเทศเพื่อนบ้านของไทย()
ความสัมพันธ์ไทย-อเมริกัน 
เหตุการณ์ปี ร.ศ.๑๑๒
เหตุการณ์ปี ๒๔๗๕
กรณีพิพาทอินโดจีน
การรบที่กาะช้าง
สงครามมหาเอเซียบูรพา
สงครามเกาหลี 
สงครามเวียตนาม 
กรณีปราสาทพระวิหาร
กรณีโรฮิงยา
ความไม่สงบชายแดนภาคใต้
อนุสาวรีย์วีรชน 
สารานุกรมฉบับย่อ()
ตัวหนังสือไทย
เรียนหนังสือไทยสมัยก่อน 
รามเกียรติ์ 
ขุนช้าง ขุนแผน
พระอภัยมณี
นิราศ
กาพย์เห่เรือ
สุภาษิตไทย
ธรรมเนียมประเพณีไทย 
โหราศาสตร์ไทย 
เพลงไทยให้สาระ
เงินตราไทย
เครื่องดนตรีไทย
หมากรุกไทย
มวยไทย
สมุนไพรไทย
พันธุ์ไม้ดอกไทย
นกในประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติ
 
ทางบก
 ทางทะเล
เที่ยวทั่วไทย 
เที่ยวไปชมไป

 ศาสนา                                     

การบริหารคณะสงฆ์
การศึกษาพระปริยัติธรรม
กฎหมายพระสงฆ์ของไทย
สมเด็จพระสังฆราช
ทำเนียบสมณศักดิ์
พัดยศสมณศักดิ์
คณะสงฆ์จีนนิกาย
คณะสงฆ์อนัมนิกาย
พระพุทธรูปสมัยต่างๆ
พระพุทธรูปสำคัญ
พระพุทธรูปปางต่างๆ
พระพุทธรูปประจำวัน
พระธาตุเจดีย์
พระพุทธบาท
พระแท่น
พระไตรปิฎก
การแสดงธรรมของพระพุทธเจ้า
การบัญญัติพระวินัย
โสพัสปัญหา
พุทธประวัติ
พระอสีติมหาสาวก
พุทธศาสนสุภาษิต
พุทธานุวัตร
วันสำคัญในพระพุทธศาสนา
พุทธศาสนพิธี
พระป่าและวัดป่า
พุทธศาสนาในปัจจุบัน
ภัยแห่งพุทธศาสนา
ศาสนาต่างๆในไทย)

  พระมหากษัตริย์                      

พระมหากษัตริย์สมัยสุโขทัย
พระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยา
พระมหากษัตริย์สมัยธนบุรี
พระบรมราชจักรีวงศ์
พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาล
พระราชลัญจกร
เครื่องราชกกุธภัณฑ์
ธงในองค์พระมหากษัตริย์
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
น้ำอภิเษก
พระราชพิธีสิบสองเดือน
พระราชานุกิจ
จอมทัพไทย
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
เหรียญอันเนื่องจากการรบ
พระบรมมหาราชวัง
ประชุมพงศาวดาร
ราชการสงครามฯ
งานกู้ชาติฯ
ประชุมพระราชปุจฉา
พระราชหัตถเลขา ใน ร.๔
พระบรมราโชบายฯ ร.๕
พระราชดำรัส ใน ร.๕
พระราชนิพนธ์ ใน ร.๖
ร.๖ กับการป้องกันประเทศ
พระราชดำริใน ร.๗
พระบรมราโชวาท

 มุมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทย์และเทคโน
ศูนย์เทคโนอีเลคทรอนิกส์และคอมแห่งชาติ
เว็บการเรียนรู้วิทย์และเทคโนร.ร.ในชนบท
ดาราศาสตร์สำหรับคนไทย
ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีแห่งชาติ
แหล่งความรู้วิศวโยธา,เครื่องกลและขนส่ง
โครงการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ[lesa]
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนแห่งไทย
องค์การพิพธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ดูดาวดอทคอม
รวมบทความด้านวิทยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา
นิยายวิทยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์น่ารู้

 

 มุมศาสนาต่างๆ                      

สำนักข่าวชาวพุทธ
มุสลิมไทยไซเบอร์เน็ต
หนังสือธรรมะออนไลน์
ธรรมะไทย
มุสลิมแคมปัสดอทคอม
โบสถ์คริสเตียนไทยอเมริกา
กัลยาณมิตร
เสขิยธรรม
มหาวิทยาลัยสงฆ์ไทย
อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
หลวงตามหาบัว
พุทธทาสศึกษา
พระรัตนตรัย
เครือข่ายสาระธรรมอิสลาม
มูลนิธิศุภนิมิตไทย
พระคริสตธรรมไทย

 10 อันดับเว็บข้อมูล อ้างอิง        

 www.google.co.th สุดยอดเว็บในการหาข้อมูล
 
www.glo.or.th สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
 
www.siamguru.com บริการค้นหาข้อมูลต่างๆ
 
www.truehits.net เว็บแสดงสถิติการเยี่ยมชม
 
lexitron.nectec.or.th ดิกชันนารีออนไลน์
 
www.yellowpages.co.th สมุดหน้าเหลืองออนไลน์
 
www.police.go.th สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
 
phonebook.tot.or.th ค้นหาหมายเลขโทรศัพท์
 
www.trainingthai.com ข่าว,ข้อมูลการฝึกอบรมสัมมนาต่างๆ
 
www.khonthai.com แหล่งข้อมูลด้านทะเบียนราษฎร์ต่างๆ



ดวงชาวเกาะ อ.หมอเถา (วัลย์)
 บุษบามีคู่  ยามอัฏฐกาล  กฎแห่งกรรม
 ตั้งชื่อเด็ก  ยามกาลชะตา  ดาวคู่มิตร-คู่ธาตุ
 ห้ามฤกษ์  จับโจร  บุพพกรรมแห่งดาว
 เรียนโหราศาสตร์  ทักษาประสมเรือน  พินทุบาทว์
 ลัคเน  อ่านดาว  ดวงพระ
 ชีวิตโหรเก่าที่ผมรู้จัก  นามนี้ ดีไฉน  จุดคราสในดวงชะตา
 ทักษาสมเด็จ  พระเคราะห์ถ่ายเรือน  ดาวบุพพกรรม
 ดาวลอย  ดาวแฝงแสง  ฤกษ์งาม ยามดี
 ดาวสองชั้น  บุตรสุดที่รัก  ทนายโหราศาสตร์
 ดวงชาวเกาะ    

ขอขอบคุณ คุณนริศรา ที่เอื้อเฟื้อหนังสือ

 

ดวงชาวเกาะ

.อรุณ ลำเพ็ญ - หมอเถา(วัลย์) 

 

วันสุดท้ายในกรุงเทพมหานคร

หลวงตาชื้นและศิษย์เป็นวันว่าง ธุระที่ตั้งใจมาสำเร็จเรียบร้อยแล้ว และตั้งใจว่าวันรุ่งขึ้นก็จะออกเดินทางกลับวัดในต่างจังหวัด

ตั้งแต่ฉันท์เช้าเสร็จ พอเสียงระฆังย่ำเหง่งหง่าง หลวงตาและมาหาครื้นก็พากันลงจากกุฏิไปลงอุโบสถเพราะเป็นวันพระ ครูก้อนก็ถือโอกาสไปเยี่ยมเพื่อนฝูงที่เคยรู้จักมักคุ้นเก่าๆครั้งยังรับ ราชการครูมาด้วยกัน และมามีถิ่นฐานอยู่ในกรุงเทพฯ ชวนหมอเถาชมพระนครไปด้วยกัน หมอเถาก็ปฏิเสธ เพราะตั้งใจจะไปกราบพระแก้วมรกตและเจ้าพ่อหลักเมือง ทั้งก็อยากจะไปสนามพยากรณ์โคนมะขามซึ่งเป็นของแปลกแห่งเดียวในเมืองไทย

เนื่องจากหมอเถาไม่ชินถนนหนทางในกรุงเทพฯ เพราะมิได้มาเสียนานจึงต้องมีคนนำทางซึ่งเป็นเพื่อนเก่า อายุเพิ่งเข้า ๑๖ ซึ่งห่างกันร่วม ๔ รอบ เมื่อ ๒ ปีก่อนหนีออกจากบ้านที่ชุมพรซัดเซพเนจร หมอเถาเก็บตกจากหน้าวัด พามารับความอุปการะจากหลวงตาชื้น ส่งเสียให้มาเล่าเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ โดยอาศัยอยู่กับมหาครื้นเป็นศิษย์วัดไปในตัว

หมอเถาแต่งตัวเสร็จนานแล้ว เดินหมุนไปหมุนมาอยู่หน้ากุฏิคอยผู้นำทางที่กำลังบรรจงแต่งตัว กระทั่งครูก้อนออกมาจากกุฏิถามขึ้น

“ยังไม่ไปกันอีกรื้อหมอเถา”

หมอเถาบุ้ยปากและชี้มือ ครูก้อนมองตามก็เห็นเด็กน้อยที่กำลังแตกเนื้อหนุ่มในปีนี้ กำลังจัดกลีบเสื้อกางเกงอย่างประณีตจึงร้องเตือนแทน

“เอ้า...เร็วๆ เจ้าหนุ่มน้อย นักเรียนทุนหลวงเว้ย”

หมอเถาฟังคำครูก้อนนึกดีใจ

“อ้อ...เจ้าหนูน้อยของข้า สอบได้ทุนเรียนของรัฐบาลเร๊อะเออมันเก่งแท้”

ครูก้อนกลับหัวเราะเยาะ

“โธ่...หมอเถาก็พลอยโง่ไปด้วย”

“โง่...ยังไง”  

หมอเถาเถียง

“ทุนหลวงมันก็ทุนรัฐบาลน่ะซี”

ครูก้อนใช้นิ้มจิ้มหน้าหมอเถา 

“ทุนเล่าเรียนหลวง หลวงตาว่ะ”

หมอเถาถูกนิ้วจิ้มหน้าฉุนก็ฉุนขันก็ขัน เพราะสำนวนศัพท์ครูก้อนเป็นความจริง กระทั่งเจ้าหนุ่มน้อยแต่งตัวเสร็จ ซ้ำสะพายย่ามครบชุด ทันสมัยวัยรุ่นหมอเถาพิศดูแล้วสัพยอก

“เจ้าหนูของข้านี่มันรูปหล่อนาน่ากลัวจะต้องมีเมียเยอะ”

เจ้าหนูน้อยยิ้มรับคำชม

“ต่อไปนี้ลุงหมอและลุงครูก้อนเรียกชื่อ ฉันตั้งชื่อตัวเองใหม่แล้ว”

ครูก้อนซัก 

“ชื่ออะไรล่ะ”

“ชื่อถวัลย์” 

เจ้าหนุ่มน้อยอธิบายทั้งเหตุทั้งผลเสร็จว่า

“ผู้มีพระคุณเหมือนพ่อคือลุงหมอ ที่อุตสาห์อุ้มชูฉันจากเด็กพเนจรจนได้ที่พึ่งหลวงตาชื่อ 

“เถาวัลย์” 

ฉันเลยตัด 

“สระเอา” 

เหลือแต่ตัว 

“ถ” 

เป็น 

“ถวัลย์ให้คล้องจองกัน”

หมอเถาโอบกอดเจ้าหลานชายนอกไส้ที่มีกตัญญูด้วยความรักเปี่ยมหัวใจ แต่เจ้าหลานชายนายถวัลย์กลับปิดป้องด้วยความเกรงเสื้อผ้าจะยับเสียรูป หมอเถาบรรจงนิ้วจับดูดเสื้อและกางเกงเจ้าหนุ่มน้อยดูพิจารณา

“เออสวยดี คงหลายเงิน..นี้ แต่ดูเสื้อมันหลวมโพรก เป็นปูข้างแรมว่ะ เจ้าหนูซื้อเสื้อผิดขนาดหรือเปล่า”

“นี่แหละแบบทันสมัยเปี๊ยบ ของหนุ่มกรุงเทพฯเขาละลุงหมอ เขาเรียกแฟชั่น ๕ ย”

ครูก้อนหัวเราะชอบใจ

“ย.แย่ หรือเปล่าว๊ะคุณถวัลย์”

หมอเถาว่า 

“ชื่อเป็นอักษรย่อ ยังกะเครื่องแบบทหารเขา ลองอธิบายหน่อยรึ”

เจ้าหนุ่มถวัลย์พิจารณาดูเครื่องแต่งกายด้วยความภูมิใจหนักหนา

“ย.ที่ ๑ คือ ผมต้องยาวประบ่า
ย.ที่ ๒ คือ เสื้อใหญ่
ย.ที่ ๓ ก็ต้องสวมกางเกงยีนส์
ย.ที่ ๔ นั้น ต้องสะพายย่าม
ย.ที่ ๕ นั้นก็คือ สวมรองเท้ายาง”

ทั้งครูก้อนและหมอเถามัวคิดตามและตกตะลึกไปครู่ใหญ่กว่าจะหัวร่อออก เลยชัดเสียก๊ากใหญ่ และก่อนที่ครูก้อนจะแยกจากไปด้วยความเป็นห่วงเพื่อน จึงยัดเยียดเงินจำนวนหนึ่งใส่กระเป๋าเสื้อหมอเถาไว้ให้เป็นทุนเที่ยวชมเมือง

หมอเถาและมัคคุเทศน์ ออกจากวัดโดยไม่ยอมขึ้นรถขึ้นรา กลับเดินเลียบชมตึกร้านบ้านช่องไปตามท้องถนน เป็นการทัศนศึกษาในตัวเจ้าหลานชายถวัลย์ต้อยคอยฉุดคอยลากให้เดินต่อไปเสมอ เพราะหมอเถาคอยแต่จะหยุดชมสินค้าในตู้โชว์ไปหมดทุกๆ ร้านไม่เว้น จะข้ามถนนแต่ละแห่งต้องฉุดต้องจูงกันละล้าละลัง เพราะความตื่นกรุงตื่นรถยนต์ที่แล่นขวักไขว่ไม่หยุดยั้ง

หมอเถาเดินไปบ่นไปตลอดทางว่าเข็ดแล้วเมืองกรุงบางกอกอันศิวิลัย เพราะมีอันตรายรอบตัวยิ่งกว่าเดินทางในป่า เดินป่านั้นคอยระแวงระวัง แต่สัตว์ร้ายจะขบกัดทำร้ายและก็มีน้อยตัวหลีกหลบก็ง่าย

แต่เดินในเมืองหลวงนี้ไหนจะคอยระวังรถยนต์สวยๆที่มีมากยังกะมด จะมาคร่าชีวิตแล้วยังต้องคอยระวังคนด้วยกันหน้าสวยๆจะคอยเล่นงานที่โดนมา แล้วจนหมดตัวเมื่อวันลงจากรถไฟ

ลุงและหลานนอกไส้จูงมือกันลัดเลี้ยว มาหลายถนน จนถึงวัดพระแก้วตามที่ตั้งใจมา หมอเถาเงยหน้าชมยอดเจดีย์ทองสุกอร่ามเป็นประกายอยู่กลางแดด ทั้งช่อฟ้าใบระกาอันสวยงามด้งสวรรค์ จนเจ้าหลานต้องฉุดให้เดินต่ออีกเพราะมายืนชมอยู่กลางถนน

เป็นวันอาทิตย์ผู้คนจึงหลายหลากมากมายเข้าสู่วัดพระแก้ว ทั้งพ่อค้าขายนกปล่อยและดอกไม้ธูปเทียน ต่างเบียดเสียดกันตรงทางเข้าประตู เจ้าหลานถวัลย์จูงมือหมอเถาไว้กันหลง

ทางเดินเบียดไปตามกระแสฝูงคน พอถึงธรณีประตู ก็ถูกหมอเถากระตุกมือให้หยุดชะงักอยู่กับที่เจ้าหลานถวัลย์สงสัยเหลียวมาถาม

“หยุดทำไมอีกล่ะลุงหมอ คนกำลังแน่นรีบเข้าไปเร็วๆ เถอะ”

“เดี๋ยวซีว๊ะ”

หมอเถายั้งกายให้ตัวตรง เพราะถูกคนเบียดหลั่งไหลจะเข้าประตูจนต้องหลีกหลบเข้าพิงกำแพงข้างประตู

“จะก้าวข้ามประตูเข้าไปมันต้องเคารพวิญญาณผู้เฝ้าประตูเขาเสียก่อน”

“ปัดโธ่ลุง”

“ไม่ปัดละว๊ะ เอ็งมันเด็กบ้านนอกไม่รู้อะไร”

หมอเถาพูดเสียงขึงขังและชี้นิ้วลงหน้าธรณีประตู

“เมื่อตอนเขาสร้างเมืองกรุงเทพฯนี้เขาขุดหลุมฝัง ทั้งเป็นนายอิน นายจัน นายมั่น นายคง เอาไว้ใต้ธรณีประตูเมืองให้เป็นคนเฝ้าประตู จะข้ามเข้าไปมันต้องเคารพกราบเขาเสียก่อน”

“เอาซีถ้าลุงก้มลงกราบ เดียวนี้ คงได้เป็นผีเฝ้าประตูแน่ เพราะผู้คนก็จะเหยียบติดแผ่นดินอยู่นี่แหละ แล้วถ้าเขาจะฝังจริงมันตั้งเป็นร้อยๆปีมาแล้วประตูไหนก็ไม่รู้ประตูออกรอบวัง”

“ชั่งเถอะว๊ะ กราบที่ประตูนี้มันถึงกันเองทุกประตู”

หมอเถาคันข้างเข้าถูกับเด็ก

“งั้นกราบตรงนี้ก็ได้ว๊ะ”

หมอเถากราบฝากไว้ข้างกำแพงประตูทั้งยังบังคับขู่เข็ญเจ้าหลานถวัลย์ ให้กราบตามตนจนได้มิใยคนข้างๆจะมองอย่างสงสัยในสติสัมปรัญญะของหมอเถา

พ้นประตูแรกเข้ามาแล้ว เมื่อผ่านประตูที่สองเข้าสู่ลานพระอุโบสถพระแก้วมรกต หมอเถาเหลียวดูรูปปั้นสูงใหญ่ทั้งคู่ที่ยืนถือตระบองเฝ้าประตูอยู่ หมอเถาก็ยกมือพนมไหว้นอบน้อม เจ้าหลานถวัลย์หัวเราะเยาะเอานิ้วจี้สีข้างลุงหมอจนสะดุ้งตัวโก่ง

“ลุงไปใหญ่แล้วไหว้กระทั่งรูปยักษ์เฝ้าประตูวัดก็ไหว้”

“เขาถึงว่า คนโง่มันไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ”

หมอเถาพูดหน้าบึ้งๆ

“นี่แหละว่าเทพยดา เอ็งรู้ไว้เถอะ”

เจ้าหลานหัวร่อรวน แหงนดูรูปปั้น

“เทวดา เขี้ยวโง้งเชียวน๊ะ”

“ข้าจะอธิบายให้ฟัง เอ็งไหว้ท่านเสียก่อนซิ”

หมอเถาออกคำสั่งอีก

“ไม่เอา”  

..เจ้าหลานต่อรอง

“ลุงอธิบายก่อน ถ้ามีเหตุผลดีน่าเชื่อ ผมถึงจะยอมไหว้”

หมอเถายึดอกอย่างภาคภูมิอธิบายเสียงดังๆ

“สถานที่นี้ ท่านสร้างเป็นเมืองชั้นในเป็นพระราชวังที่ประทับของพระมหากษัตริย์ซึ่งท่าน สมมติเป็นเมืองฟ้าเมืองสวรรค์ ดูซิที่ประทับท่านก็ตั้งเป็นชื่อสวรรค์ชั้นสุดของภพเทวดา เช่นพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพราะฉะนั้นสวรรค์ชั้นบนเมืองมนุษย์นี้ ก็ต้องมีเทพยาดารักษาประตูทั้ง ๔ ทิศ เหมือนกับสวรรค์ชั้นฟ้ามหาจักรวาฬ ที่มีคัมภีร์กล่าวว่าเบี้ยองบรรพทิศนั้นท้าวธตรฐราชเป็นผู้ดูแลรักษา เบื้องปัจฉิมทิศนั้นท้าววิรูปักขราชเป็นผู้รักษา เบื้องอุดรนั้นท้าวไพศพมหาราชเป็นผู้รักษา เบื้องทักษิณท่านท้าววิรุฬหกราชรักษา ทั้ง ๔ ท่านเป็นเทพดาจ้าวพญาแห่งยักษ์มารทั้งปวง”

เจ้าหลานผู้เยาว์กว่า ถูกอ้างคัมภีร์นรกสวรรค์และเทวดาทั้ง ๔ ทิศ ก็ยอมแพ้ยกมือไหว้เคารพโดยดี ผู้คนที่เร่เข้ามาฟังหลานกับลุงเถียงกันแต่แรกก็พลอยยกมือไหว้ยักษ์ตามกันไป ด้วย เพราะหลงเชื่อคำที่หมอเถาสอนหลาน แต่ยังมีบุรุษหนึ่งวัยคราวหมอเถา ยืนอมยิ้มสบตาอยู่ข้างๆ มิได้จากไปเหมือนคนอื่นๆ ซ้ำยังถือวิสาสะถามว่า

“พ่อลุงถ้าจะเคยมาวัดพระแก้วบ่อยๆกระมัง”

หมอเถาตอบตามตรงไม่ต้องคิด

“มาหนเดียวหลายสิบปีมาแล้ว”

“ฉันเป็นคนงานกวาดวัดพระแก้วนี้มา ตั้งแต่เป็นหนุ่ม”

แกบอกเสียงเรียบๆและชี้ไปที่ท่านฐานยักษ์

“ยักษ์พวกนี้เขาเขียนชื่อไว้ทุกตนเป็นยักษ์ในเรื่องรามเกียรติ์ทั้งหมดแหละ ประตูทิศเหนือชื่อมังกรกัณฐ์ กับวิรุฬหก ประตูทิศใต้ชื่ออินทรชิตกับสุริยาภพ ประตูทิศตะวันออกชื่อทศคีรีวันกับทศคีรีธร ประตูทิศตะวันตกมี ๓ ประตู ชื่อจักรวรรดิ์กับอัศกรรณมาลา ทศกรรณฐ์กับสหัสเดชะมัยราพณ์กับวิรุญจำบัง”

ดูเหมือนหมอเถาจะไม่ทันฟังให้จบทุกประตู เพราะรู้ว่าตนพลาดเสียแต้มไปถนัด รีบจูงมือกึ่งลากเจ้าหลานชายไปเสียให้พ้นๆ แต่เจ้าหลานถวัลย์ยังหัวเราะอยู่หันบอกหมอเถาว่า

“ถ้าใครเขาชวนลุงไปเที่ยววัดโพธิ์ อย่าไปเทียวน๊ะลุงหมอ”

หมอเถาฉงน 

“ทำไมว๊ะเจ้าหนู”

“ระเบียงวัดโพธิ์ พระพุทธรูปเรียงเป็นพระอันดับรอบโบสถ์เป็นร้อยๆองค์ ลุงหมอต้องไหว้ตั้งแต่องค์แรกพอถึงองค์สุดท้ายก็แขนบวม”

“เช๊อะ...ข้าไม่โง่จนแขนบวมหรอกว่ะ ใช้วิธีพนมมือจบขึ้นเหนือหัว หมุนตัวกวาดรอบทั้ง ๔ ทิศ แบบนักมวยไหว้ก็ได้ว๊ะ”

หมอเถาหัวเราะแล้วก็จูงข้อมือหลานชายแหวกผู้คนขึ้นสู่พระอุโบสถ จุดธูปเทียนปักหน้าโบสถ์แล้วคลานเข้าไปกราบพระแก้วมรกตซึ่งสถิตอยู่บนบุษบก ทองคำสูงจนต้องแหงนหน้ามอง และเมื่อกลับออกมาหัวใจเต้มเปี่ยมไปด้วยความปิติในกุศลกรรมที่ตนกระทำ

สองลุงหลานชวนกันเลียบระเบียงโบสถ์ชมภาพรามเกียรติ์ตามผนัง จนออกประตูหลังเข้าเขตพระบรมมหาราชวัง หมอเถาและเจ้าหนุ่มถวัลย์เดินชมความสวยงามอันโอฬาร ตั้งแต่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทวกอ้ออมไปชมพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระที่นั่งบรมพิมาน และพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาททุกพระที่นั่งหมอเถาจะต้องเคารพนบไหว้อ่อน น้อม แม้กระทั่งพลับพลาจตุรมุข พระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท และแถมบังคับเจ้าหลานชายให้ไหว้ตามด้วย

ขากลับออกมาแห่งสุดท้ายที่ ตั้งใจมาก็คือศาลเจ้าพ่อหลักเมืองที่ผู้คนเบียด กันสักการะแน่นขนัดอยู่ตลอดเวลา ทั้งอึกกระทึกครึกโครม เสียงกลองละครชาตรีแก้บนที่แสดงติดต่อกัน มาเป็นแรมเดือนแรมปีไม่ขาด หมอเถาเบียดเข้าไปจุดธูปเทียน และถวายทองปิดตามประเพณีและกราบขอสิริมงคล และขอพรให้ตนเองจงรุ่งเรืองในวิชาโหราศาสตร์ที่ตนรัก และไม่อาจอยู่นานได้เพราะผู้คนทยอยเข้าออกสับสนอยู่ตลอดเวลาทั้งตกเวลาบ่างโมง เจ้าหลานถวัลย์ชวนกินข้าวกลางวันแถวๆ นั้น

กระทั่ง บ่ายแดดอ่อนลง หมอเถาและหลานหนุ่มก็ยังไม่หมดรายการท่องเที่ยว เพราะหมอเถาต้องการชมนักพยากรณ์โคนมะขามหน้าศาลแพ่ง หมอเถาเดินสำรวจยืนชมไปตั้งแต่รายแรกที่พยากรณ์ไพ่ป๊อกบ้าง ลายมือบ้าง ดวงดาวบ้าง ที่มีคนมาขอรับคำพยากรณ์ ยิ่งดูก็ยิ่งเพลิน มาจนถึงตอนกลางเป็นที่ร่มรื่นเพราะมะขามคู่ใบดกกว่าตอนอื่น หมอเถาหยุดเหม่อมองดูผู้คนเดินกันขวักไขว่เสียงใครคนหนึ่งร้องกลอนลิเกทำนองราชนิเกริงได้ยินถนัด

“มาแลพบประสบภักตร์ เพื่อนเอ๋ยเพื่อนรักแต่ก่อนเก่า แสนยินดีปรีดาที่พบหน้า...หมอเถา”

พอลงท้ายระบุชื่อตนหมอเถาก็เหลียวขวับหาตัวผู้ร้อง เป็นนักพยากรณ์ปูเสื่ออยู่โคนมะขามและนั่งยิ้มแย้มนัยน์ตาจับจ้องอยู่ที่หมอเถา

“โอ้...หมอสุริยันนั่งเอง เออดีใจจริงที่ได้พบ”

“ไม่ได้พบกันเสียนาน ตั้งแต่คราวก่อนที่แวะไปกราบเท้าหลวงตาชื้นที่วัด ท่านกรุณาแนะมาให้บ้าง แม้จะเล็กๆน้อยๆก็เป็นประโยชน์แกผมเหลือเกิน ทำให้ทำนายทายทักได้คล่องตัวขึ้นแยะ เดี๋ยวนี้มีแขกประจำมากพอเลี้ยงตัวได้เลยไม่ต้องเร่ร่อนขึ้นเหนือลงใต้ เหมือนแต่ก่อนๆ คิดถึงหลวงตาทานเหลือเกิน”

หมอเถาอ้าปากค้าง เพราะพ่อหมอสุริยันพูดเสียคนเดียวยืดยาวตลอดเรื่องถ้าหมอเถาไม่โบกมือหมอสุริยันคงพูดต่ออีก

“หลวงตาและครูก้อนก็ลงมาด้วยกันและตั้งใจจะกลับ พรุ่งนี้แหละและเวลานี้พักอยู่กับมหาครื้น”

หมอสุริยันใจร้อนรวบเครื่องทำมาหากินนับแต่ป้ายโฆษณาดูแม่นๆและปูมโหรลงใส่กระเป๋าหนัง

“งั้นไปด้วยกันผมอยากจะไปกราบเท้าขอบพระคุณพระเจ้าตาผู้มีพระคุณบางทีอาจได้เพชรร่วงของโหราศาสตร์มาอีก”

หมอเถาขืนข้อมือที่เก็บของห้ามไว้

“จะไปก็ได้แต่ผมเดินชมวัดวาอารามตั้งแต่เช้าเมื่อยขาเหลือเกินขอพักสักครู่เดี๋ยวค่อยไปด้วยกัน”

หมอสุริยันเป็นคนช่างเจรจา คุยเล่าไปหลายเรื่องหลายราว และก้ต้องวนเวียนยกย่องชมเชยหลวงตาชื้นว่าเป็นเอกบุรุษในทางโหราศาสตร์

“หมอเถามีบุญที่ได้เป็นศิษย์เอกใกล้ชิดหลวงตา คงได้รับถ่ายทอดของดีไว้มากๆ ถ้าพ่อหมอเถามาปูเสื่อโคนมะขามที่พักเดียวต้องเอาเงินใส่ปี๊บกล้บบ้าน”

หมอเถาถูกชมชักกระดากจึงออกตัว

“บางทีผมก็นึกท้อๆในโหราศาสตร์ยิ่งเรียนรู้มากยิ่งโง่ ยิ่งใช้กฎพยากรณ์มากครูมากอาจารย์เข้ายิ่งยุ่งใหญ่ เกือบๆ จะเลิกหลายหน หนสุดท้ายพบหลวงตาของหมอเถาเข้านี่แหละค่อยมีกำลังใจขึ้น”

หมอเถาออกความเห็นว่า

“การพยากรณ์นี้ใชมากครูมากอาจารย์ไม่ดีแน่ สู้อาจารย์เดียวกฎเดียวไม่ได้เพราะไม่ปนกันเลอะเทอะ”

“อ้ายจริงน่ะก็จริงหรอก แต่ไม่รู้เหตุผลว่ามันเพราะเหตุใด”

หมอเถานึกถึงคำของหลงวงตาชื้นอาจารย์เคยเล่าไว้ก็เอามาเล่าต่อเป็นอุทธาหรณ์

“หลวงตาเคยเล่าให้ฟังว่าผู้ใหญ่บ้านที่เมืองกาญจน์คนหนึ่งแกปลูกบ้านอยู่ห่างชาวบ้าน เพราะแกเป็นคนเก่าแก่และมีญาติมากจึงไม่ใคร่เกรง โจรผู้ร้าย ตอนนั้นโจรสุพรรณกำลังชุกชุม คืนหนึ่งก็เข้าปล้นบ้านแกเข้าจนได้ แกอยุ่บ้านคนเดียว ลงจากเรียนก็ไม่กล้าเพราะเสียงปืนข้างล่างดังไม่ต่ำกว่าสิบลำยิงกราดขึ้นมา บนเรือน อีตอนตัดสินใจลงจากเรือนก็เพราะพวกโจรมันโยนคบไฟขึ้นมาบนเรือน เป็นลูกไม้โจรที่ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาเงิน เพราะเจ้าทรัพย์กลัวบ้านไหม้จะรวบรวมติดตัวโดดจากเรือนหนี ได้ครบทุกบาททุกสตางค์ ผู้ใหญ่บ้านแกอารามตกใจรวมเงิน และทองหยองใส่ย่ามและคว้าห่อพระทั้งห่อใหญ่บนหิ้งบูชาใส่ย่าม โดดหน้าต่างเรือนหนี ปืนโจรร่วม ๑๐ ลำ ยิงเข้าใส่ดังจนหูแทบดับ กระสุนปืนสักนัดเดียวก็ไม่ระคายหนัง เสื้อผ้าแกขาดกระจุยเพราะกระสุนเหลือแต่ตั้วเปล่าๆ กับย่ามเงินและพระห่อใหญ่วิ่งแก้ผ้าโทงๆ หนีโจรเข้าป่าเอาตัวรอดไปจนได้”

เจ้าหลานถวัลย์นั่งอ้าปากฟังอดออกความเห็นไม่ได้

“ลุงหมอไม่เห็นเกี่ยวกับโหราศาสตร์ตรงไหนเลย”

“เดี๋ยวซีว๊ะเจ้าหนู ขอหยุดหายใจก่อน”

หมอเถาหันไปค้อนเจ้าหลานชายที่ขัดคอกลางคัน

“ชาวบ้านลือกันทั้ง เมืองว่าแกหนังดีนัก เวลาแกมีราชการไปจับผู้ร้าย แกต้องเอาพระห่อใหญ่นั้นซึ่งมีอยู่ร่วม ๑๐๐ องค์ นั้นใส่ย่ามสะพายไหล่จนเอียงไปด้วยทุกครั้งเพราะไม่อาจเลือก รู้ได้ว่าองค์ไหนศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยชีวิตแกไว้แกก็เลยพกทั้งห่อใหญ่ตลอดมาหลายปี”

หมอสุริยันเข้าใจทันทีเพราะประสบกับตนเองมาในเชิงโหราศาสตร์

“นั่นนะซี ผมเองเวลานี้ก็ตกที่นั่งผู้ใหญ่บ้านเมืองกาญจนบุรีเหมือนกัน ทำนายใครเขาใช้กฎข้อนั้นบ้างข้อนี้บ้าง บางทีกฎนั้นถูก บางทีกฎข้อนี้ถูกผลสุดท้ายก็เลยต้องหอบเอาทุกกฎมาใช้เวลาทายเขาทุกทีจะทิ้งก็ไม่กล้า”

“ถ้าใช้พระเครื่ององค์เดียวได้เมื่อไรเมื่อนั้นเป็นนักพยากรณ์”

หมอเถารำพึงบอกหมอสุริยันและตนเองด้วย เสียงเอะอะเฮฮาดังมาจากต้นทางซึ่งเป็นทางเดิน ผู้คนหลีกหลบเป็นช่อง เป็นกลุ่มชายวัยกลางคนที่อยู่ในอาการมึนเมาสุรา โดยเฉพาะคนรูปร่างสูงใหญ่ที่ดูท่างจะเมามากกว่าคนอื่นๆ เพราะส่งเสียงเอะอะ แต่ก็ล้วนเป็นเรื่องสนุกสนานมากกว่าจะก่อเหตุวุ่นวาย และพอผ่านหน้าหมอเถาชายนั้นเหลียวดูป้ายหมอสุริยันที่เขียนตัวโตๆว่า “ดูแม่นๆ” ก็สบัดมือจากเพื่อนๆเลี้ยวขวับเข้ามานั่งแปะลงตรงหน้าหมอเถา

หมอเถาใจหายวูบไม่รู้ว่ามาดีมาร้าย แต่ก็ยังยิ้มสู้เอาไว้ก่อนตามวิสัยชายชาตรีชายนั้นเอื้อมมือคว้าป้าย

“หมอดูแม่นๆ” 

เอามาถือให้หมอเถาดูและถามจ้องหน้า

“แม่นแน่เร๊อะ...หมอฉันจะดู”

หมอเถาอึกอักเหลียวมองหน้าหมอสุริยันเจ้าของป้าย แต่หอมสุริยันพยักเพยิด

“เชิญหมอเถาเถอะ”

หมอเถาร้อง 

“อ้าว...”

“ไม่ต้องอ้าว...เรานี่แหละ”

ชายนั้นชี้หน้าหมอเถากลิ่นเหล้าคลุ้ง และควักธนบัตรใบละ ๑๐๐ บาท ออกมาชูอวด

“ถ้าทายถูกจ่ายหมดร้อย ถ้าผิดอดเลย ถ้าเป็นหมอแล้วไม่ดูก็เอาสระอาใส่ท้ายชื่อแล้วหลบไปให้พ้น”

หมอเถาถูกสบประมาทซึ่งๆ หน้า แม้คนพูดจะเมามายก็ไม่วายเลือดขึ้นหน้าจนชาความคิดแต่แรกที่จะหลบหลีกเกรงมี เรื่องก็หมดไปจากหัวใจย้อนถามเอาบ้าง

“ถ้าไม่อยากเป็นหมอสระอา ก็ต้องดูกันยังงั้นซีน๊ะ”

“ใช่แล้ว...” เขาตอบลากเสียหัวร่อร่วนกวนโมโห

เพื่อนๆ สามสี่คนที่ยืนห้อมล้อมแทนที่จะห้ามกลับเฮฮาสนับสนุนและผู้คนที่อยู่ใกล้ๆ ได้ยินเสียงเอะอะกะเร่เข้ามาล้อมฟังเป็นกลุ่มใหญ่ หมอเถาก็ชาติชายที่ติดไปตายเอาดาบหน้า เรื่องจะยอมเสียหน้าเสียศักดิ์ชายนั้นยอมไม่ได้เสียแล้วจึงตัดสินใจพยักหน้า

“เอ้าบอกวันเดือนปีมาเรื่องเงินไม่สำคัญ”

หมอสุริยันจัดแจงจดวันเดือนปีและเวลาเกิดตามที่นักเลงสุราบอก และเปิดปูมโหรคำนวณดวงดาวและวางลัคนาเสร็จ แล้ววางตรงหน้าหมอเถาและตนเองซึ่งใจคอเต้นไม่เป็นส่ำเพราะตื่นเต้นก็ชะโงกอ่านดวงช่วยอีกแรงหนึ่ง

“หลวงตาสอนให้ดูอะไรก่อน” 

หมอสุริยัน กระซิบ หมอเถาก็กระซิบตอบ 

“หลวงตาสอนให้ดูตนุลัคน์ว่าเขาเป็นอย่างไร”

หมอสุริยันเป็นคนพูดพันๆปากง่ายๆและพยายามอวดรู้

“จันทร์ธาตุดินเป็นตนุลัคน์ไปอยู่ราศีมีนธาตุน้ำ ลัคนาเองก็อยู่ราศีกรกฎธาตุน้ำ ดินอยู่ กลางน้ำ ตัวเองก็อยู่กลางน้ำ เอ๋...มันแปลกจริงๆ”

หมอเถากำลังโกรธปนกลัว ความคิดระส่ำระสาย เพราะไม่เคยตกอยู่ในภาวะเช่นนี้จึงเผลอตัวคิดดังๆ ออกมาไม่ทันยั้ง

“งั้นก็เป็นชาวเกาะแน่”

เจ้าของดวงชะตาทวนคำเสียงดังลั่นบอกเพื่อน

“เฮ้ย...เขาว่าอั๊วเป็น ชาวเกาะว่ะ”

เสียงฮาครืนจากเพื่อนๆของชายนั้น คนหนึ่งในจำนวนนั้นดัดเสียงแหลมถามกวนโทโส

“คุณพี่เขาเกิดที่อีสานแล้วมาอยู่กรุงเทพฯมีเกาะที่ไหนมิทราบ”

คนนอกที่ล้อมวงอยู่พลอยหัวเราะคิ๊กคักสนุกสนานไปด้วย หมอเถาอายจนเหงื่อแตกตัวเบาหวิวแทบจะเป็นลม นึกเสียใจตัวเองว่าไม่ควรเลย นึกถึงครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเพิ่งกราบขอพรมาเมื่อครู่ บัดดลนั้นเอง ท่ามกลางเสียงหัวเราะเฮฮาจนฟังไม่สรรพเสียงแผ่วๆเหมือนใครบอกอยู่ข้างหูว่า

“เถาเอ๋ย ดูเสาร์ปัตนิร่วมอาทิตย์กดุมภะ พฤหัสศุภะก็เล็งจันทร์”

หมอเถาขนลุกซู่ หันไปยกมือไหว้ทางศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ปัญญาสว่างแวบเหมือนได้ไฟส่องทาง

“ใช่แล้ว...อาทิตย์เจ้าเรือนกดุมภะเป็นคู่ธาตุกับ เสาร์ในเรือนปัตนิการเงินของตนเป็นหลักฐานเพราะเมีย ซึ่งมีฐานะมั่นคง จันทร์ตนุลัคน์ไปอยู่ภพศุภะอันเป็นที่พึ่งและพฤหัสที่พึ่งมาก็มาเป็นปัตนิใช่แล้วชาวเกาะแน่ๆ”

หมอเถาแหงนหน้ามองไปรอบวงอย่างอาจหาญต่อเสียงหัวเราะเยาะและประกาศก้องว่า

“ชาวเกาะแน่ เกาะเมียกิน”

เท่านั้นเอง เสียงหัวเราะรอบๆวงล้อมกลายเป็นเสียงฮาครืนพร้อมกันเจ้าของดวงชะตาโกรธจนตาแดง ฮึดฮัดลุกขึ้นชี้หน้า

“ไอ้หมอ...แกว่าข้าเป็นผู้ชายแมงดา”

เพื่อนๆที่มาเข้ารั้งแขนกันไว้ เพราะกลัวมีเรื่องถึงขั้นทำร้ายร่างกายหมอเถาก็ลุกขึ้นยืนเช่นกันทั้งยืดอกท้าอย่างผ่าเผย

“แกสาบานต่อหน้าเจ้าพ่อหลักเมืองและพระแก้วมรกตซีว่า ข้าทายผิดข้าจะยอมให้แกเตะกินเปล่า”

“ข้าไม่สาบานใครจะทำไมว๊ะ” 

เพื่อนๆ เกรงจะขายหน้ายิ่งขึ้นและยิ่งดิ้นรนก็เลยช่วยกันฉุดลากออกไปให้พ้นๆไปเสีย แม้จะห่างออกไปก็ยังได้ยินเสียงตะโกนปฏิเสธโวยๆ ตลอดทาง

หมอเถาทรุดตัวลงนั่ง เหนื่อยเหมือนคนวิ่งมาสัก ๒๐ เส้น รำลึกถึงพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยแก้หน้าไว้ได้ ก็คุกเข่าหันหน้าไปทางศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ก้มลงกราบพอครบสามคาบจะเงยหน้าก็เห็นชายผ้าเหลืองบังอยู่ตรงหน้า เมื่อเงยขึ้นอีกก็เห็นว่าเป็นจีวรพระภิกษุพอเห็นหน้าถนัดหมอเถาตะครุบข้อเท้าไว้ดีใจ 

“หลวงตาขอรับ”

หลวงตาชื้นหัวเราะว่า 

“เออ...ข้าเองหมอเถา เห็นหายมาตั้งแต่เช้าจนบ่ายไม่กลับจึงออกมาตาม ข้ามายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เริ่มทายเขาแล้ว”

ถ้าเช่นนั้นเสียงกระซิบนั่นเป็นของหลวงตานั่นเอง

หลวงตายิ้มๆ ไม่ตอบ เพราะหันไปรับไหว้หมอสุริยันเสีย และออกปากชวนกลับวัดหมอสุริยันถือโอกาสเก็บข้าวของหอบกระเป๋าตามหลวงตาไป ด้วยอีกคนหนึ่ง

พอเริ่มออกเดินตามหลังหลวงตา เจ้าหลานชายนายถวัลย์ก็แอบเข้ามาใกล้หมอเถาส่งใบละร้อยที่นายชาวเกาะชูอวดทีแรกให้และอธิบายหัวเราะๆ

ลุงหมอทายถูกใจดำเลยโกรธ กำลังปล้ำห้ามกัน ผมก็เลยกระตุกจากมือเอามาเพราะเป็นค่าดูของลุงหมอ
 




วิถีแห่งปัญญา

เข้าสู่บทนำ ความเป็นจริงของวิชาโหราศาสตร์ article
พระคาถาชินบัญชร article
คาถาประกาศชุมนุมเทวดา article
การบูชาเทวดานพเคราะห์ article
วิธีติดตั้งโปรแกรม Astrolog32
ชีวิตโหรเก่าที่ผมรู้จัก
บุตรสุดที่รัก
ทนายโหราศาสตร์
นามนี้ ดีไฉน
ดาวแฝงแสง อ.หมอเถา (วัลย์)
พระเคราะห์ถ่ายเรือน อ.หมอเถา (วัลย์)
ยามอัฏฐกาล อ.หมอเถา (วัลย์)
ดาวสองชั้น อ.หมอเถา (วัลย์)
ดาวลอย อ.หมอเถา (วัลย์)
อ่านดาว อ.หมอเถา (วัลย์)
ดวงพระ อ.หมอเถา (วัลย์)
ฤกษ์งามยามดี อ.หมอเถา (วัลย์)
ดาวบุพกรรม อ.หมอเถา (วัลย์)
รถแคมเพอร์แวนของลุงแว่น
แบบฟอร์มดวงฤกษ์พิธีมงคลต่างๆ
เรื่องเล่าพระฤาษี article
พิธีบายศรีสู่ขวัญ article
พระฤาษีกับวิชาไสยศาสตร์ article
Tip การจัดโต๊ะหมู่บูชาพระ article
ดูดวงโหราศาสตร์กับลุงแว่น article
ว่าด้วย....เรื่องของทาน article
ว่าด้วย....เรื่องของศีล article
ดวงจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ article
คติธรรมคำสอน ของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี ) article
พระพุทธรูปบูชาประจำวันเกิด พร้อมคาถาบูชา article
วิธีบูชาพระราหู article
คึกคักเป็นพิเศษไหว้'ราหู'หวังหนีราศีซวย article
ตาทิพย์ การฝึกกสิณ 10 article
กายทิพย์ article
พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง 9 องค์ พร้อมคาถาบูชา article
พระพุทธองค์ทรงสอนวิธีสร้างความสุขที่แท้จริงให้แก่ชีวิต article
คาถายอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎก article
สัมผัสที่ 6 และโทรจิต article
จุดคราสในดวงชะตา อ.หมอเถา (วัลย์) article
ทักษาสมเด็จ อ.หมอเถา (วัลย์) article
ลัคเน อ.หมอเถา (วัลย์) article
พินทุบาทว์ อ.หมอเถา (วัลย์) article
ทักษาประสมเรือน อ.หมอเถา (วัลย์) article
จับโจร อ.หมอเถา (วัลย์) article
ห้ามฤกษ์ อ.หมอเถา (วัลย์) article
ดาวคู่มิตร-คู่ธาตุ อ.หมอเถา (วัลย์) article
ยามกาลชะตา อ.หมอเถา (วัลย์) article
ตั้งชื่อเด็ก อ.หมอเถา (วัลย์) article
เรียนโหราศาสตร์ อ.หมอเถา(วัลย์) article
บุพพกรรมแห่งดาว article
กฎแห่งกรรม อ.หมอเถา(วัลย์) article
โหราศาสตร์นอกคอก แต่ไม่นอกครู "บุษบามีคู่" อ.หมอเถา article
ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช article
พิธีกรรมทางไสยศาสตร์ article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.