ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช วิจารณ์ดวงชะตาของท่านเอง ใน นสพ.สยามรัฐ
ฉบับวันอังคาร ที่ 29 ต.ค. 2519 คอลัมน์ "ข้าวไกลนา"
วันนี้ ก็จะได้เขียนเรื่อง ดังที่ได้ขู่ไว้แล้วเมื่อวานนี้ ในการเขียนเรื่องนี้ผมจะเขียนจากความสังเกตของผมเอง ไม่ใช่ตำราโหร และไม่ใช้ภาษาโหร เป็นความสังเกตพฤติกรรมของดาวนพเคราะห์แต่ละดวงที่มีต่อผมเอง เพื่อประกอบการพิจารณาของโหรานุโหรจำนวนมากที่ชอบมาดูดวงผมโดยที่ผมมิได้ขอร้อง แล้วก็ทำนายทายทักไปต่างๆนาๆ
ถ้าหากว่าเรื่องที่ผมจะพูดเกี่ยวกับดาวนพเคราะห์กับตัวผมต่อไปนี้ ไม่ตรงกับตำราของใครหรือไม่ตรงกับความเห็นของใคร ก็ขอได้โปรดเผาตำราของท่านได้ หรือเปลี่ยนความเห็นของท่านได้ " หรือเลิกเป็นโหรเสียได้เลยก็ยิ่งดี " เพราะข้อสังเกตของผมนั้นได้ทำมาช้านาน โดยพิจารณาดวงดาวประกอบกับเหตุการณ์ที่เกิดกับชีวิตของผมเองโดยเฉพาะ ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าผม
ผมเกิดวันพฤหัสบดี แรม 7 ค่ำ เดือน 5 ปีกุน จ.ศ.1273 ตรงกับวันที่ 20 เม.ย. พ.ศ. 2454 เวลา 7.10 น. ในเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ใต้วัดเสือข้าม ตำบลชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ชื่อที่เกิดก็น่ารักเป็นบ้าอยู่แล้ว
คนเมืองสิงห์โปรดรับทราบไว้ด้วย เผื่อว่าอีก 16 ปีข้างหน้าไปสมัครผู้แทนที่นั่น เมื่ออายุ 81 จะได้ช่วยกันเลือก ดวงชะตาผมเป็นอย่างที่เห็นในภาพนี้
ผูกดวงด้วยปฎิทินดาราศาสตร์ ตามคำภีร์สุริยยาตร์ ลัคนาสถิตราศีเมษ
จรวันที่ 8 พ.ย.2531 ได้รับพระราชยศเป็นนายพลตรี
ภาพดวงจากโปรแกรมโฮ๋ราสาด จัดจำหน่ายโดยคุณวิชิต เตชะเกษม www.horawej.com

ผูกดวงด้วยปฎิทินดาราศาสตร์ขององค์การนาซ่า โปรแกรม Astrolog 32 ระบบนิรายนะ

ดวงวันพระราชทานยศเป็นพลตรีแห่งกองทัพบก 8 พ.ย. 2531

จะเห็นได้ว่า ลัคนาสถิตราศีเมษ ทำให้เกิดดังเป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์อยู่เรื่อยๆ ถึงขนาดรถไปติดตามสี่แยก เด็กขายหนังสือพิมพ์ จะวิ่งเข้ามาที่รถชูหนังสือพิมพ์ให้ดูถ้ามีชื่อ ถ้าวันไหนไม่มีก็จะวิ่งเข้ามาบอกว่า " วันนี้ไม่มีครับ "
มีข้อสังเกตว่า ดังลมๆแล้งๆไปอย่างนั้นเอง เพราะข่าวที่ทำให้ดังนั้น ส่วนมากไม่จริงทั้งนั้น นพเคราะห์ที่อยู่ร่วมลัคนานั้น มีอาทิตย์ ราหู เสาร์และพุธ จะพูดถึงดาวเหล่านี้ก่อน ที่เข้าตำราที่สุดก็คือ อาทิตย์ เพราะตรงตามที่โหรเก่าๆ ท่านวางกฎเกณฑ์กันไว้ว่า
" อาทิตย์ร่วมลัคนาในราศี
ว่ามากชู้หลายเมียไม่เสียที
ปัญญามี ทรัพย์ร้อนไม่ยืนยาว "
กลอนที่เอามาไว้ในที่นี้ ไม่มีข้อเถียงสำหรับผม โดยเฉพาะเรื่องทรัพย์แล้วจริงที่สุด เกิดมากับเขาชาติหนึ่งเหมือนลำธารที่เงินไหลผ่านเป็นน้ำ ต้นไม้ที่ขึ้นริมฝั่งลำธารก็ชุ่มชื่นไป แต่ตัวลำธารก็อย่างนั้นๆ
พุธ เท่าที่สังเกตเป็นตัวอุปสรรค จะไปไหนได้หรือไม่อยู่ที่พุธ ว่ากันตามตำราโหรก็ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ความจริงเป็นอย่างนั้น และได้เป็นมาตลอดชีวิต
เสาร์และราหู มักจะเป็นดาวที่ให้โทษตามที่โหรว่ากัน และคนกลัวกันนัก แต่สำหรับผม พระเคราะห์ทั้งสองนี้เหมือนจะให้คุณและคุ้มครองมาตลอด ทำให้อุ่นใจ
พระเสาร์นั้นเป็นพลังเงียบ หรือ ดาวที่คอยนับสนุนเป็นกำลังใจ คอยผลักดันให้ทำอะไรเพื่อประโยชน์คนอื่น และคอยระงับไม่ให้หาประโยชน์ใส่ตัว ส่วนราหูนั้นเป็นพลังมืดที่เป็นมิตร คนที่อยู่ในที่มืดๆมัวๆนอกกฎหมายหน่อยๆ รักใคร่นับถือตลอดมา ขโมยไม่ขึ้นบ้านเพราะรัก นอกจากนั้นราหูยังคอยคุ้มครอง ดับแสงดาวอื่นๆที่เบ่งส่องแสงสว่างจ้ามาทับผมให้สลัวลง ถ้าดวงไหนมาร้าย ราหูก็ทำให้จางรัศมีลงไปได้
ศุกร์ อยู่ที่ราศีพฤษภ ติดกับราศีที่ลัคนาตั้งอยู่ ไม่เคยเกิดให้คุณให้โทษอย่างไร ดูเหมือนจะอาภัพในความรัก แต่อาทิตย์ทำให้ถือตัว ใครจะรักไม่รักก็ช่าง และเสาร์กับราหูเป็นเพื่อนให้กำลังใจ อกหักมาก็ชวนกินเหล้าหรือสูบกัญชาให้สบายใจได้ ไม่เดือดร้อนในข้อนี้
ศุกร์ที่อยู่ใกล้นั้น ย่อมทำให้เกิดผลอย่างหนึ่ง คือ พูดจาน่ารัก ถ้าอยากจะพูดและเขียนหนังสือให้คนอ่านเข้าใจง่าย อังคารนั้นชอบกล โหรจะว่าเป็นอะไรก็ช่างโหร ผมรู้แต่ว่า สำหรับผมนั้นอังคารเหมือนคู่รักที่ขี้หึง ถ้าจะว่าถึงรักก็รักมากที่สุด แต่น้อยใจง่าย คอยจับผิดไม่รู้จบ และหึงไม่เป็นเรื่องเป็นราวอยู่ตลอด จึงต้องมีปากเสียงขัดใจกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งทำให้ความรักเวลาที่รักกันนั้น ดื่มด่ำมาก เพราะฉะนั้นเวลาที่อังคารโกรธจึงเพียงแต่ผลักไส ไม่ถึงเจ็บตัว แต่ถ้าเวลารักขึ้นมาก็หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้ง
จันทร์ นั้นเกือบจะไม่มีผลอะไรเลย มีอยู่นิดเดียวที่ทำให้ท้องขึ้นอืดหรือท้องเสีย เวลาพระจันทร์ขึ้นสูง ผมจึงเป็นคนท้องเสียไม่เว้นแต่ละเดือน
ผมชอบเป็นครูครับ
และเมื่อเป็นครูแล้วก็เข้ากับลูกศิษย์ได้ดีที่สุด ลูกศิษย์ลูกหารักมาก ใครเคยเป็นลูกศิษย์ผมๆก็มีความรู้สึกต่อเขา เหมือนกับว่าเขาเป็นลูกหลานหรือญาติสนิท เขาได้ดีดีใจด้วยดีใจจริงๆ เขาได้ชั่วหรือประสบเคราะห์กรรมก็เดือดร้อน บางครั้งก็เดือดร้อนจนเกินไป เดือดร้อนมากกว่าเจ้าตัวเขาเองเสียอีก
เมื่อวันผมมาทำบุญอายุครบห้ารอบ มีลูกศิษย์มารดน้ำขอพรเป็นพันๆคน ยังปลื้มใจอยู่จนบัดนี้
เท่าที่กล่าวมาเกี่ยวกับดาวพฤหัสบดีเพียงเท่านี้ คงจะตรงกับตำราโหร แต่ขอบอกต่อไปว่า พฤหัสบดีสำคัญมากสำหรับตัวผม จะดูดีดูชั่วดูเจ็บดูตาย ก็ให้ดูที่พฤหัสบดีนี้เถิด อย่าไปดูแต่ที่อาทิตย์แบบโหรประจำวันในหน้าหนังสือพิมพ์เลย
ข้อที่โหรพึงระวังก็คือ พฤหัสบดีไม่ทำกับผมตามตำราโหร
" พฤหัสจรเข้าร่วมลัคนา จะได้ครองสวรรยาอาณาจักร "
จริงหรือครับ
ไม่จริงเลย
ผมสมัครผู้แทนสอบตกเสียมวยไปเลย นั่นปะไร
เพราะฉะนั้น ใครจะดูพฤหัสมาดีกับผม ขอให้ดูในมุมกลับเสมอไป
ถ้าพฤหัสมาร้าย ขอให้ดูเป็นดีได้ เพราะมักจะได้โชคได้ลาภ มีบุญมีวาสนาเสมอ ถ้ามาดีก็ขอให้ดูเป็นร้าย รับรองว่าไม่พลาด
ที่เป็นเช่นนี้ก็เห็นจะเป็นเพราะผมเป็นคนไม่อยากได้โชคได้ลาภ ไม่ชอบบุญวาสนา เสาร์กับราหูคอยดึงไว้ให้อยู่ในสลัม บอกว่าสบายใจดีกว่า
และก็คงจะเป็นเพราะพุธนิด จันทร์หน่อยที่ทำให้ผมเป็นคนขี้เกียจ ไม่ชอบทำงานหนัก มีตำแหน่งสูงๆ มีงานมากจึงร้อนใจ
ที่โหรว่าดีผมจึงเดือดร้อน ไม่ใช่ความผิดของดาวพฤหัส เพราะเมื่อมาร้ายก็ร้ายจริงๆสำหรับผม แต่โหรมักจะเอามาตรฐานคนอื่นมาเทียบ จึงดูกันว่าผมจะเคราะห์ร้าย จะตกต่ำ ซึ่งความจริงผมกลับเห็นว่าผมเคราะห์ดี สบายกว่าเวลาที่พฤหัสมาดีเสียอีก
เมื่อเป็นดังนี้ เวลาที่พฤหัสมาดีผมจึงเห็นว่าผมเคราะห์ร้าย ต้องวุ่นวายนับเงินแจกคน เพราะถึงทรัพย์จะเข้าเพราะพฤหัสเป็นครั้งคราว แต่อาทิตย์ก็ทำให้ไหลโจ๊กออกไปหมด เวลาพฤหัสนำบุญวาสนาเอาตำแหน่งใหญ่ๆมาให้ ผมก็ต้องเดือดร้อนทำงานหนัก เหนื่อยสายตัวแทบขาด ไม่เป็นอันกินอันนอนกันละครับ
ผมจึงชอบให้พฤหัสให้โทษ ยิ่งให้โทษโดยไม่มีพระเคราะห์ใดคอยช่วยยิ่งดี เพราะผมรู้ว่าระยะนั้นผมจะมีใจปลอดโปร่ง มีเวลาว่าง เป็นตัวของตัวเอง
ไม่ซ่าให้ใครหรือตัวเองเดือดร้อน
แต่ถ้าวันไหนพฤหัสให้คุณ ถึงขนาดได้แท่นได้ฉัตร ได้เครื่องประดับ สร้อยสนิมพิมพาภรณ์ มีผู้คนมาเคารพกราบไหว้เนืองแน่น วันนั้นขอให้ระวังกันให้ดี อย่าดูว่าดีเลยครับ
เพราะวันนั้นผมจะเข้าโกฎ ตั้งอยู่บนแท่น มีฉัตรรายรอบ มีดวงตราและสายสะพายทั้งในและทั้งต่างประเทศ ใส่พานวางหน้าโกฎกี่สิบสายกี่สิบดวงก็ไม่รู้
และคนจะมามาก ต้องติดพวงหรีดตั้งแต่ในบ้าน จะออกซอบพระพินิจ ไปจนถึงตรอกสวนพลู และออกสาธรไปเลย
วันนั้นยังอีกไกลครับ
เมื่อเร็วๆนี้ มีโหรที่ผมเคารพนับถือท่านหนึ่ง ได้เขียนจดหมายมาทำนายทายทักว่า ผมจะตายในวันที่ 23 ต.ค. จริง แต่เป็นวันที่ 23 ต.ค. พ.ศ. 2569 โน่น
คึกฤทธิ์ ปราโมช