ดาวอาทิตย์ ราชาแห่งจักรวาล
ดาวอาทิตย์ ราชาแห่งจักรวาล
ข้อมูลในบทความโค้ทลับแห่งจักรวาล ผมได้ประมวลมาจากตำราของอาจารย์หลายท่าน บางข้อมูลมาจากคัมภีร์โหราศาสตร์ของอินเดียหลายคัมภีร์ ซึ่งคัมภีร์โหราศาสตร์ของอินเดีน จะไม่มีข้อมูลของดาวเกตุและดาวมฤตยู
ดาวอาทิตย์กุมลัคน์ในราศีต่างๆ
|
(ดาว ๑ เสื่อม ไร้ศักดิ์ศรี ไม่มีเกียรติยศใดๆ)
|
อธิบายดาวเคราะห์เสื่อม
๑. เป็นกาลกิณี
๒. ไม่เป็นกาลกิณี แต่เกาะภินทฤกษ์
๓. ไม่เป็นกาลกิณี แต่สถิตทุสถานะภพ
๔. ไม่เป็นกาลกิณี แต่สถิตในราศีเสื่อม เป็น นิจ,ประ
๕. ถูก โยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ |
ดาว ๑ กุมลัคน์ ถ้ามีองศาใกล้เคียงกับลัคนา ท่านเปรียบ..เหมือนน้ำบนภูเขา ยามเมื่อมีฝนตกน้ำก็มาก พอฝนหยุดน้ำก็ไหลลงสู่ที่ลุ่มหมด "ถ้าทำงานหนักก็มีทรัพย์มาก ถ้าขี้เกียจทำงานก็ไม่มีทรัพย์" ถ้าเกิดตอนอาทิตย์อุทัย ท่านว่า..ทรัพย์ร้อน ใช้เงินเก่ง
ชะตาใดมีดาว ๑ กุมลัคน์ ย่อมบันดาลวิถีชีวิตให้บรรลุถึงความเป็นผู้มีเกียรติ ทั้งจะเป็นสิ่งคอยช่วยเหลือให้ตั้งมั่นอยู่ได้เมื่อมีอุปสรรครุมเร้า จะได้รับการยกย่องนับถือจากบุคคลทั่วไป จะได้รับตำแหน่งปกครองคน และเจริญในหน้าที่การงานตามคุณวุฒิ
|
ดาว ๑ กุมลัคน์ในราศีเมษ
..........................................
|
มีชื่อเสียงและมีความรู้ดี ไม่ชอบอยู่ใต้บังคับบัญชาของใคร มั่งมีทรัพย์สิน ใจคอโอบอ้อมอารี เลื่อมในศรัทธาในศาสนา "แต่ให้พึงระวังดาวบาปเคราะห์ โดยเฉพาะดาว ๗ เพราะเป็น นิจ ถ้าเข้าไปร่วมหรือเป็นโยคเกณฑ์ร้าย จะทำให้ผลดีกลายเป็นผลร้ายไป นอกจากมีศุภเคราะห์เข้าช่วยอย่างแข็งขันเท่านั้น พอจะบรรเทาผลร้ายลงได้" |
ดาว ๑ กุมลัคน์ในราศีพฤษภ
|
เจ้าชะตาจะได้รับความช่วยเหลือจากมารดา ทั้งๆที่ไม่พอใจความช่วยจากใคร มีหลักฐานที่ดิน มีความหวังที่จะก้าวหน้า มีความสุขกับการทำอุตสาหกรรมในครอบครัว มีแนวคิดเห็นผิดเป็นชอบ เนื่องจากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ก็พยายามทำตัวเป็นผู้รู้ |
ดาว ๑ กุมลัคน์ในราศีมิถุน
|
มีความสามารถในการทำงาน ได้รับการสนับสนุนจากพี่น้อง เข้าใจในการใช้คำพูด ได้คู่ครองและคนร่วมมือประกอบอาชีพดี |
ดาว ๑ กุมลัคน์ในราศีกรกฎ
|
เจ้าชะตาจะมั่งมีทรัพย์สินเงินทอง มีความสามารถหาทางออกเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ต่างๆ เป็นผู้มีอิทธิพล กิจการงานและการเงินจะประสบความสำเร็จมากน้อยขึ้นอยู่กับตนเองทั้งสิ้น หาผลดีจากคู่ครองและผู้ร่วมมือในการงานได้ยาก |
ดาว ๑ กุมลัคน์ในราศีสิงห์
|
เจ้าชะตาจะเป็นคนมีเกียรติ มีชื่อเสียง มีความปรารถนาเพื่อความก้าวหน้า เป็นคนมีความเชื่อมั่นและเชื่อในความคิดอ่านของตนเอง มีความสุขทางกายและทางด้านจิตใจดี มักมีอุปสรรคในเรื่องคู่ครองตั้งแต่เป็นวัยรุ่น จะประสบความสำเร็จในภายหลัง |
ดาว ๑ กุมลัคน์ในราศีกันย์
|
เจ้าชะตามีรายจ่ายสูงมาก ร่างกายอ่อนแอ ต้องทำงานหนักแบบตรากตรำ นิสัยเย่อหยิ่งอวดดีไปในทางที่ผิด ชีวิตการครองคู่ไม่ปกติสุข (นอกจากจะได้โยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์ จะช่วยให้จิตใจดีขึ้น รู้จักความรับผิดชอบและทำให้สุขภาพสมบูรณ์ขึ้น) |
ดาว ๑ กุมลัคน์ในราศีตุลย์
|
เจ้าชะตามักจะอาภัพในเรื่องยศศักดิ์ จะทำการสิ่งใดมักมีอุปสรรค จะได้รับผลตอบแทนไม่คุ้มค่าเหนื่อย สุขภาพอ่อนแอ |
ดาว ๑ กุมลัคน์ในราศีพิจิก
|
เป็นคนมีทิษฐิมาก โทสะจริตรุนแรง แต่เป็นพักๆ ชอบทำงานใหญ่ มีความฉลาดและความสามารถพิเศษ ที่จะปฎิบัติภาระกิจหน้าที่ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยตนเอง และมีวิธีชักจูงบุคคลที่อยู่เหนือกว่าตน ให้มาสนับสนุนการงานของตนเองได้ จนบรรลุถึงเป้าหมาย รู้จักการแต่งตัวเข้ากับกาลเทศะ |
ดาว ๑ กุมลัคน์ในราศีธนู
|
ราศีถูกแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน " ถ้าดาว ๑ มีสมผุส ๑๕º แล้วกุมลัคนา เจ้าชะตาจะมีคู่ครองตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไป" ผู้ใดมีดาว ๑ กุมลัคน์ในราศีธนู จะเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ให้ความคุ้มครองอยู่เสมอ ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ มีความเจริญในหน้าที่การงาน และความผาสุขในครอบครัว จะเป็นคนมีชื่อเสียงเกียรติคุณ จะไปทางไหนก็มีคนนับหน้าถือตา กระทำการสิ่งใดย่อมประสบผลสำเร็จทั้งสิ้น |
ดาว ๑ กุมลัคน์ในราศีมังกร
|
จะเป็นผู้มีร่างกายทรุดโทรม เพราะตรากตรำทำงานหนัก ชีวิตหาความสุขที่แท้จริงได้ยาก มักมีโรคภัยเบียดเบียน จะทำสิ่งใดให้ได้ผลดี ต้องทำแบบปิดบังซ่อนเร้น ต้องประสบความยุ่งยากใจเสมอในชีวิต และมักจะเป็นโรคหัวใจ |
ดาว ๑ กุมลัคน์ในราศีกุมภ์
|
ความสำคัญของเจ้าชะตาขึ้นอยู่กับครอบครัว มีความยุ่งยากในเรื่องคู่ เพราะคู่ครองทำตนมีอำนาจเหนือกว่า ทำให้เจ้าชะตากลายเป็นคนมีปมด้อย การประกอบกิจการได้ผลดี แต่ทำงานใหญ่ไม่ได้ |
ดาว ๑ กุมลัคน์ในราศีมีน
|
เป็นบุคคลที่สนใจในเพศตรงข้าม มีสิ่งจูงใจให้เพศตรงข้ามมาทอดสะพานให้ ชีวิตเป็นคนเจ้าสำราญ |
ดาว ๑ สถิตภพตนุ
|
ภพที่ ๑ หมายถึง ลัคนาเกิด คือ รูปร่างหน้าตา ท่าทางสุขภาพ ความสำเร็จ เกียรติยศชื่อเสียงและการต่อสู้ชีวิต ความเป็นอยู่ที่สมบูรณ์ทุกอย่าง
|
ดาว ๑ สถิตในภพนี้
|
เจ้าชะตาจะมีสุขภาพสมบูรณ์ แต่จะเป็นคนเจ้าอารมณ์ หรือโมโหร้าย และมีโรคเกี่ยวตา เป็นคนเฉลียวฉลาดและมีความประพฤติดี มักจะเป็นโรคเนื่องจากกรดในกระเพราะอาหาร พูดน้อย ชอบท่องเที่ยวไปไกลจากถิ่นที่เกิด แต่จะมีชีวิตที่มีความสุข |
ถ้าดาว ๑ สถิตราศีเมษ
|
ซึ่งเป็นเรือนมหาอุจ จะประสบความสำเร็จในด้านเกียรติยศชื่อเสียง ถ้าได้โยคเกณฑ์ดีกับศุภเคราะห์ จะเป็นคนมีการศึกษาสูง |
ถ้าดาว ๑ สถิตราศีตุลย์
.....................
|
เป็น นิจ จะถูกทำให้เสียเกียรติ จะเป็นคนที่ไม่ได้รับการศึกษา ไม่มีอำนาจอิทธิพล และจะตาบอด แต่ถ้ามีโยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์ โดยเฉพาะดาว ๕ หรือดาว ๖ และสถิตในฤกษ์ นวางค์ ตรียางค์ที่ดี คำนายดังกล่าวจะเปลี่ยนไป ตรงกันข้าม จะทำให้เจ้าชะตาประสบความสำเร็จสูงในการต่อสู้ชีวิต ไม่ว่า..ทางด้านโชคลาภ หรือการศึกษา |
ถ้าดาว ๑ สถิตราศีสิงห์
|
หรือนวางค์ราศีสิงห์ จะมีโอกาสได้เป็นเจ้าของที่ดิน |
ถ้าดาว ๑ สถิตราศีกรกฎ
|
จะเป็นคนรอบรู้ |
ถ้าดาว ๑ สถิตราศีมังกร
|
จะได้รับความทรมานจากโรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี |
ถ้าดาว ๑ สถิตราศีมีน
|
จะเป็นโรคเกี่ยวหัวใจ (แต่ไม่เสมอไป) |
ถ้าดาว ๑ สถิตราศีกันย์
|
จะอ่อนน้อมยอมจำนนต่อผู้หญิง จะมีบุตรเป็นผู้หญิง จะเสียเมีย และเป็นคนที่ไม่นึกถึงบุญคุณคน |
ถ้าดาว ๑ สถิตในราศีสิงห์
|
เป็นเกษตร จะเป็นคนที่มีสุขภาพสมบูรณ์ |
แต่ถ้าหากดาว ๑ มีโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ หรืออยู่ในเรือนของศัตรู หรือมีตำแหน่งเป็น นิจ จะเจ็บไข้ได้ป่วยรุนแรงตั้งแต่เป็นเด็ก แต่คำทำนายที่ไม่ดีทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้น ถ้าดาว ๑ ไม่มีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ หรือได้รับโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ |
เรื่องดาว ๑ สถิตราศีตุลย์
|
เป็น นิจ ในตำราต่างๆส่วนมากจะบอกว่า...เป็นดาว ๑ ที่หมดคุณค่า แต่อย่าได้เชื่อถือเป็นอันขาด ขอให้ไปให้ความสำคัญในเรื่องฤกษ์ นวางค์ และตรียางค์ ดูว่า..ให้คุณดีหรือเปล่า เพราะว่า..ในบริเวณ ๓๐º ของราศีตุลย์ มีตรียางคและนวางค์ที่ดีของดาว ๑ อยู่หลายจุด ถ้าดาว ๑ สถิตในนวางค์และตรียางค์ที่ดีเหล่านี้ ดาว ๑ จะให้คุณสูงมาก คนที่มีดาว ๑ ในราศีตุลย์ที่มีเงินเป็นพันล้านบาทก็มี ในขณะเดียวกันเป็นคนที่มีการศึกษาสูงเป็นจำนวนมาก บ้างก็เป็นแพทย์ บ้างก็เป็นนักภาษาศาสตร์ บ้างก็มีประกาศนียบัตรและปริญญาบัตรคนละหลายๆใบ จบด็อกเตอร์เยอะแยะ ถ้าอ่านแต่ดวงราศีจักร จะไม่สามารถทราบได้เลยว่า...เจ้าของดวงบางคนจบแพทย์ศาสตร์จากต่างประเทศ ทั้งๆที่ดาว ๑ เป็นนิจ |
ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ต้องคำนึงให้มากด้วยว่า...นวางค์ที่ดาว ๑ เข้าไปสถิตอยู่ เจ้านวางค์ได้ตำแหน่งอะไรในดวงชะตา สถิตในราศีที่ดีหรือเปล่า เป็นศุภเคราะห์หรือบาปเคราะห์ เป็นดาวที่ให้คุณกับดาว ๑ หรือเปล่า น่าจะมีอิทธิพลกับดาว ๑ ที่สถิตภายใต้ราศีตุลย์ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นนิจ ไม่ใช่ดูแต่พิกัดของดาว ๑ แต่เพียงส่วนเดียว ว่าพิกัดอยู่ในตำแหน่งที่เข้มแข็งหรือเปล่า พิกัดของดาว ๑ มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการพยากรณ์บุคคลที่มีดาว ๑ ราศีตุลย์ แต่ก็ต้องคำนึงถึง ฤกษ์ ดาวเจ้านวางค์และเจ้าตรียางค์ในดวงชะตาด้วย (เจ้านวางค์น่าจะมีความสำคัญกว่าเจ้าตรียางค์ เพราะว่า..ดูได้ละเอียดกว่า เนื่องจากมีระยะพิกัดน้อยกว่า) |
ดาว ๑ มีพิกัด ๒๐º- ๒๓º๓๐' จะอยู่ในนวางค์ดาว ๓ เจ้าเรือนราศีเมษ ดาว ๑ ราศีนี้ได้ตำแหน่งมหาอุจ ทำให้เจ้าชะตาเป็นคนมีความรู้ มีการศึกษา มีรูปร่างเป็นที่ต้องตาคน และที่สำคัญคือเรียนหนังสือเก่ง เพียงแต่ว่า...คนที่มีดาว ๑ ในตำแหน่งเหล่านี้จะมีความลำบากพอสมควร ในตอนแรกๆของชีวิต คือ ในวัยเด็กหรือวัยหนุ่ม แต่หลังจากนั้น คนที่มีดาว ๑ ในตำแหน่งนี้จะประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งทุกอย่าง ถ้าหากดาวอื่นๆในดวงชะตาไม่เลวร้ายจนเกินไป |
ดาว ๑ ถ้าอยู่ในตำแหน่งที่ดี ไม่ว่าอยู่ภพไหนก็ตาม จะให้คุณสูงทั้งนั้น โดยเฉพาะในด้านความสำเร็จ เกียรติยศชื่อเสียง ตำแหน่งหน้าที่ การศึกษา ความมีโชคดี และถ้าดาว ๑ สถิตในราศีธาตุไฟ คือ เมษ สิงห์ ธนู ไม่เป็นเจ้าเรือนทุสถานะภพ ไม่สถิตในเรือนทุสถานะภพ ถึงจะเป็นคนยากจนขนาดไหนก็ไม่ต้องเป็นห่วง สามารถเอาดีได้ ถึงจะมีอุปสรรคมากมายอย่างไรก็สามารถผ่านพ้นอุปสรรคและความทุกข์ยากต่างๆได้ |
ดาว ๑ สถิตภพกดุมพะ
|
ดาว ๑ ในภพที่ ๒
|
ต้องระวังค่าใช้จ่ายให้มาก ถ้าหากดาว ๑ สถิตในราศีที่เป็นตำแหน่งเสื่อม เช่น เป็น นิจ,ประ หรือราศีที่เป็นศัตรู หรือเจ้าเรือนที่ดาว ๑ สถิตอยู่ ไปครองในราศีเสื่อมราศีใดราศีหนึ่ง "หรือไม่ก็ดาวเคราะห์อื่นไม่ว่าเป็นศุภเคราะห์หรือบาปเคราะห์ มีกระแสเป็นโยคเกณฑ์เป็นเชิงมุม ๓๐º, ๙๐º, ๑๘๐º จะทำให้การเงินหมดเปลืองมาก" (ถ้าดาว ๑ สถิตราศี เมษ,สิงห์,ธนู (ธาตุไฟ) และมีดาวศุภเคราะห์ใดๆก็ตามทำมุม ๖๐º, ๑๒๐º จะทำให้การเงินของเจ้าชะตารุ่งเรืองมาก) |
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีดาว ๓ ส่งกระแสในมุม ๙๐º, ๑๘๐º กับดาว ๑ แล้ว เจ้าชะตาจะมีชีวิตอยู่ด้วยการใช้จ่ายเงินทองอย่างสิ้นเปลือง โดยถูกฉ้อโกง หรือมีกรณีพิพาทฟ้องร้อง |
ถ้าดาว ๑ ในภพที่ ๒
|
ได้ตำแหน่ง มหาอุจ,เกษตรในดวงชะตา เจ้าชะตาจะมีทรัพย์สินมาก มีความรู้กว้างขวาง มีความสุข เข้าใจในการใช้คำพูด |
ถ้าดาว ๑ อยู่กับดาว ๔
|
จะทำให้เป็นคนพูดตะกุกตะกัก องศาต้องใกล้ชิดกันด้วย (เป็นที่น่าสังเกตุว่า...เมื่อดาว ๔ โคจรเข้าใกล้ดาว ๑ ในระยะที่เรียกว่า...ดับ คือถูกแสงอาทิตย์ครอบงำเสียหมด ระยะที่จะเข้าสู่จุดดับ คือ ๘ ํ) |
แต่ถ้าเจ้าเรือนภพที่ ๒ สถิตในเรือนของตัวเอง |
หมายถีงเป็น เกษตร หรือได้ตำแหน่งมหาอุจ เจ้าชะตาจะเป็นคนที่พูดได้ชัดเจน ชัดแจ้ง และจะพูดน้อย จะเป็นคนที่รอบรู้เรื่องราวเก่าแก่ของสังคมและบ้านเมืองเป็นอย่างดี จะเป็นคนที่มีความรู้รอบด้าน สายตาจะดีมาก จะประสบความสำเร็จทางด้านเกียรติยศชื่อเสียงและความมั่งคั่ง |
ภพนี้จะให้ผลดีหรือร้ายต่อเจ้าชะตาอย่างไร ขึ้นอยู่กับราศีอะไร ราศีประเภทไหน ดาว ๑ ที่โคจรเข้าไปสถิตในภพนี้ไปอยู่ในตำแหน่งนวางค์ตรียางค์และกลุ่มดาวฤกษ์ที่ดีประการใด มีความสัมพันธ์ที่ดีกับดาวเคราะห์อื่นหรือไม่ ถ้ามีและไม่มีบาปเคราะห์มาบ่อนเบียน ก็สามารถทายได้ว่า...จะให้ผลดีในทุกเรื่อง แต่ถ้าดาว ๑ โคจรเข้าไปสถิตในตำแหน่งที่ไม่ดี และได้รับความสัมพันธ์ที่ไม่ดีจากบาปเคราะห์ ก็ทายเป็นร้ายหรือไม่ให้ผลดีไปได้เลย |
EX.
|
เมื่อดาว ๗ หรือดาว ๘ เข้าไปทับดาว ๑ ในภพกฎุมพะแล้ว ทายได้เลยว่า...เรื่องดีๆที่หวังเกี่ยวกับเงินๆทองๆและความสำเร็จใดๆในระยะนั้น จะไม่มีเป็นอันขาด นอกจากจะเสียไปท่าเดียว เฉพาะดาว ๘ แล้ว เป็นตำแหน่งที่เรียกว่า..ราหูค้นทรัพย์ เมื่อเข้าไปทับดาว ๑ โอกาสจะหมดเนื้อหมดตัว หรือเสียเกียรติเสียชื่อเสียงนั้นรับรองได้ว่าต้องมีแน่ โหรต้องบอกให้เจ้าของดวงชะตาทราบไว้ก่อน ให้ระมัดระวังตัวและรอคอยจนกว่าดาวร้ายเหล่านี้จะโคจรผ่านไป |
และที่แน่นอนที่สุดอีกอย่างหนึ่งที่จะต้องทาย ก็คือว่า...เจ้าชะตาที่ดาว ๑ ในภพที่ ๒ จะเป็นคนที่หาเงินคล่องและใช้คล่องเช่นเดียวกัน ถึงจะไม่ร่ำรวยมาก แต่เงินก็จะหาได้ง่ายไม่ขาดมือ จะมีคนให้ความช่วยเหลือและอุปถัมภ์ค้ำชู การที่จะถึงกับอดอยากปากแห้งเป็นไม่มี |
ถ้าดาว ๑ ได้รับโยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์
|
เช่น ดาว ๕ หรือดาว ๖ ก็เชื่อขนมกินได้เลยว่า..จะเป็นคนมีเงิน หาเงินง่าย ไม่มีวันอดอยาก ยากจนขนาดไหนก็มีคนช่วยเหลือ ท่าน อ.ยอดธงรับรองได้ |
ดาว ๑ สถิตภพสหัชชะ
|
ภพสหัชชะ
|
หมายถึง สภาพจิตใจ ความสามารถ สติปัญญาและความต้องการศึกษาเล่าเรียน ความกล้าหาญ ความเฉลียวฉลาด ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน การเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัย การเดินทางในระยะสั้น |
ถ้าภพที่ ๓ เป็นจรราศี
.....................
|
(เมษ,กรกฎ,ตุลย์,มังกร) จะทำให้เจ้าชะตาต้องเดินทางบ่อยๆเกี่ยวกับธุรกิจ มีความสนใจในการศึกษา มีโอกาสเข้าศึกษาในสถาบันชั้นสูง หรือเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ จะได้รับความอุปการะจากญาติพี่น้อง และจะเป็นผู้อุ้มชูญาติพี่น้องด้วย จะเป็นผู้มีชื่อเสียงในสังคม มีธุรกิจติดต่อกับคนระดับผู้นำชั้นแนวหน้า เจ้าของหรือผู้มียศศักดิ์ที่มีความสำคัญมากๆ จะเป็นผู้มีความรอบรู้ มีคุณวุฒิพิเศษ เเหมาะสมกับตำแหน่งที่จะได้รับ จะเป็นตัวแทนผู้มีเกียรติ และถ้าจับงานด้านการเขียน,การพิมพ์ จะทำให้ชีวิตรุ่งเรืองและประสบความสำเร็จมาก จะมีผลดีหรือร้าย ต้องขึ้นอยู่กับโยคเกณฑ์ดี,ร้ายจากศุภเคราะห์และบาปเคราะห์เป็นสำคัญ |
ถ้าดาว ๑
ได้ตำแหน่งดี
|
มีความสัมพันธ์ดีกับดาวเคราะห์อื่นๆ จะทำให้เกิดความเจริญแก่ญาติพี่น้อง |
ถ้าดาว ๑ ได้ตำแหน่งเสื่อม
|
และมีบาปเคราะห์โยคเกณฑ์ถึงแล้ว จะทำให้เกิดผลร้าย กลายเป็นคนไม่มีศีลธรรม ชอบทำงานที่ผิดกฎหมาย ดาว ๑ เป็นบาปเคราะห์ที่มีอิทธพลรุนแรงกว่าดาวอื่นๆ จึงกล่าวกันว่า....เจ้าชะตาจะเป็นคนที่ค่อนข้างจะโหดอยู่ไม่น้อยในการกระทำต่างๆ อาจจะเรียกว่า..เป็นคนใจเด็ดก็ได้ ไม่ค่อยชอบประนีประนอมนั่นเอง |
ถ้าดาว ๑ มีโยคเกณฑ์ร้ายกับบาปเคราะห์
|
ทายว่า...เป็นคนที่ชอบทำอะไรที่เป็นความรุนแรงและเหี้ยมเกรียม จะเป็นคนที่มี ๒ แม่ ครอบครัวจะมีปัญหาและประสบความยุ่งยาก การที่ทำนายเป็นอย่างนี้ก็เพราะว่า...ภพที่ ๓ เป็นภพที่ ๑๒ ของภพพันธุ ซึ่งหมายถึงแม่ (และภพที่ ๓ เป็นภพที่ ๒ ของภพกฎุมพะ ซึ่งมีความหมายว่าครอบครัว) จะเป็นเหตุให้เจ้าชะตาต้องเสียแม่ไป ทำให้พ่อต้องแต่งงานใหม่ จึงทำให้เจ้าชะตามีแม่คนที่ ๒ ถ้าหากภพที่ ๓ มีบาปเคราะห์เกี่ยวของอยู่ แม่ของเจ้าชะตาจะเสียชีวิต หรือเลิกร้างกับพ่อ และพ่อจะแต่งงานใหม่ บาปเคราะห์ในภพนี้ถือว่า...เป็นภพที่ทำลายครอบครัว (ดาว ๑ จัดเป็นบาปเคราะห์) |
ถ้าเจ้าเรือนภพที่ ๓ เข้มแข็ง
|
จะเป็นนักต่อสู้ที่กล้าหาญ จะมีชื่อเสียงในทางดี น้องชายจะมีอายุยืน |
ถ้าดาว ๑ มีโยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์
|
ครอบครัวจะใหญ่และเจริญก้าวหน้า จะมั่งคั่งร่ำรวย จะมีชีวิตที่ประสบความสำเร็จ มีความสุขและมีชีวิตที่ดี ในชีวิตจะได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง ในการมีชีวิตอยู่และการทำมาหากิน ดาว ๑ ยังทำให้เป็นคนมีร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ทางด้านการศึกษา ไม่เพียงแต่จบมัธยมศึกษาอย่างดีเท่านั้น แต่จะหมายถึงการเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยจนจบได้ด้วย |
ดาว ๑ สถิตภพพันธุ
|
ในปัจจุบัน ภพที่ ๔
หมายถึง
|
มารดา บ้านเกิด ที่อยู่อาศัย สิ่งแวดล้อมบริเวณที่อยู่อาศัย ชีวิตส่วนตัว ยานพาหนะ ที่ดิน ทรัพย์สิน อาคาร ทิษฐิมานะ นิสัยสันดาน |
ภพที่ ๔ เป็นภพที่ต่ำที่สุดในดวงชะตา เพราะฉะนั้น กว่าที่ดาว ๑ ในภพนี้จะบันดาลผลคุณให้ก็ต่อเมื่อบั้นปลายของชีวิต ไม่ว่า..จะเป็นการเงิน,การงานและเกียรติยศชื่อเสียง ถ้าจะมีก็ต้องเป็นระยะบั้นปลายของชีวิตเป็นส่วนมาก อาชีพที่เหมาะสม คือ การค้า หรือ งานเกษตรกรรม ถ้าจะรับราชการหรืองานรับจ้างอื่นๆ มักจะทำตัวลึกลับ มีเบื้องหลังของชีวิตที่ต้องปกปิด |
ดาว ๑ ในภพที่ ๔
.............
|
จะต้องตรงกับราศีธาตุไฟ และจะต้องไม่มีดาวบาปเคราะห์เป็นโยคเกณฑ์ร้าย ถ้าดาว ๑ ในภพนี้สถิตในราศีดี และมีโยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์ จะทำให้เจ้าชะตาประสบความรุ่งเรืองและมีฐานะดีมาก เฉพาะระยะเชิงมุม ๖๐º, ๑๒๐º
ตำราว่า..แขนขาจะผิดปกติ จะเป็นคนทนงในตนเอง มีอารมณ์ร้อน อายุ ๓๒ ปี จะได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี จะได้รับความเคารพนับถือ จะประสบความสำเร็จ จะได้รับการศึกษาเล่าเรียนอย่างดี จะมียศตำแหน่งสูง เป็นคนกล้าคิดกล้าตัดสินใจ แต่ทางฐานะจะไม่ค่อยดีมากนัก |
ถ้าเจ้าเรือนภพที่ ๔ เข้มแข็ง
|
เป็นเกษตร,มหาอุจ หรือสถิตในเรือนจตุเกณฑ์ หรือสถิตในเรือนตรีโกณ จะมีโอกาสเป็นเจ้าของรถยนต์ราคาแพง |
แต่ถ้าเจ้าเรือนภพที่ ๔ มีความสัมพันธ์หรือได้รับโยคเกณฑ์จากบาปเคราะห์
|
หรือสถิตในภพที่ ๓ , ๖ , ๘ , ๑๒ ภพใดภพหนึ่ง จะมีรถยนต์สำหรับคนชั้นต่ำ จะไม่มีโอกาสมีที่ดินเป็นของตนเอง แต่จะต้องอาศัยบ้านของคนอื่นอยู่ |
ตำราเก่ากล่าวว่า...จะให้ผลดีหรือผลร้ายอย่างไร ขึ้นอยู่กับดาว ๑ ว่า สถิตในตำแหน่งที่เสื่อมหรือไม่ เสื่อมอย่างใด ได้รับโยคเกณฑ์จากดาวเคราะห์ดีหรือไม่ดีอย่างไร ถ้าดีก็ทายในทางดี ถ้าไม่ดีก็ทายในทางร้าย
ต่อมาก็ดูว่า ดาว ๑ ในภพที่ ๔ นั้น เจ้าเรือนภพที่ ๔ โคจรไปสถิตในภพไหน เป็นคุณหรือโทษอย่างไร ใช้กฎเกณฑ์เดียวกันกับดาว ๑ สถิตในภพอื่นๆนั่นเอง |
มีพิเศษอีกอย่างหนึ่ง คือว่า...ภพที่ ๔ หมายถึงการมีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขหรือไม่เป็นสุข จะต้องดูที่ดาว ๒ ในดวงเดิมว่า..สถิตในตำแหน่งดีหรือร้ายประการใดด้วย เพราะการมีชีวิตอยู่ที่เป็นสุขเป็นทุกข์ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ดีและไม่ดีของดาว ๒ อีกสถานหนึ่ง |
อย่างไรก็ตามดาว ๑ ในภพที่ ๔ หมายถึง |
ชีวิตในครอบครัวและสภาพของครอบครัวเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะอ่านได้ชัดเจนมากกว่าเรื่องอื่นๆ |
ดาว ๑ ในภพนี้ ส่วนมากจะมีปัญหาในครอบครัว
|
เฉพาะปัญหาที่เกี่ยวกับพ่อแม่ โดยมาจะแยกกัน หรือการทอดทิ้ง หรือไม่ก็ตายจากกัน ส่วนมากจะไม่ได้พึ่งพ่อแม่ หรือพ่อแม่เป็นที่พึ่งไม่ได้ ไม่พ่อหรือแม่จะทอดทิ้งเจ้าชะตาอย่างไม่แยแส หรือไม่มีความรับผิดชอบใดๆ นั่นหมายถึงว่า...ดาว ๑ ในภพที่ ๔ จะต้องสถิตในตำแหน่งไม่ดี ในราศีไม่ดี ในนวางค์ตรียางค์และฤกษ์ไม่ดี และได้รับการสัมพันธ์ร้ายจากดาวเคราะห์อื่นๆ อาจทายได้เลยว่า...ชีวิตครอบครัวเป็นชีวิตที่ทำให้เจ้าชะตาต้องประสบกับความผิดหวังและได้รับความทุกข์ทรมานที่สุด |
ดาว ๑ ในภพนี้จะทายในทางดีได้ ต้องเป็นดาว ๑ ที่สะอาด เด่น
|
ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งหรือโยคเกณฑ์ ถ้าดีหมดทายว่าจะให้คุณอย่างมาก ฐานะความเป็นอยู่จะดำเนินไปอย่างราบรื่น ทรัพย์สมบัติไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือที่ดิน ไม่ว่าจะยากจนหรือมองแทบไม่เห็นทางว่าจะได้เลย ก็สามารถมีได้ในวันหนึ่งด้วยความมานะพยายามของตนเอง ไม่ว่าครอบครัวเดิมของเจ้าชะตา คือพ่อแม่พี่น้อง จะอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข หรือครอบครัวของเจ้าชะตาเอง ก็จะเป็นครอบครัวที่สามารถดำเนินไปได้ด้วยดี ดาว ๑ ในตำแหน่งที่ดี จะทำให้เป็นคนมีความรับผิดชอบสูง |
ภพที่ ๔ เป็นภพที่เกี่ยวกับสัญชาตญาณและสามัญสำนึก
|
ดาว ๑ จะบันดาลให้มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีโดยไม่ต้องให้ใครมาโขกสับ สามารถเข้าใจอะไรต่อมิอะไรได้ และทำให้มีความเชื่อมั่นในตนเอง และกล้าคิดกล้าตัดสินใจโดยไม่ต้องพึ่งใคร และยังพิจารณาถึง สันดานอ่อนแอ หรือแข็งกระด้างมากน้อยประการใดหรือไม่อีกด้วย คาถาศักดิ์สิทธ์ของนักโหราศาสตร์ที่ดี คือ |
๑. สถิตในราศีที่ดีหรือไม่ หมายถึง ได้ตำแหน่งเป็นอย่างไร
๒. มีความสัมพันธ์ที่ดีกับดาวศุภเคราะห์หรือไม่..ในดวงเดิม
๓. สถิตในทุสถานะภพหรือไม่ ถ้าสถิตทายภพเสื่อม
๔. มีโยคเกณฑ์ที่ดีจากดาวศุภเคราะห์หรือไม่..ในดวงจร
๕. เจ้าเรือนของภพที่ดาวเคราะห์สถิตไปอยู่ที่ไหน...ในดวงเดิม มีความสัมพันธ์กับศุภเคราะห์หรือไม่
๖. เจ้าเรือนของภพที่ดาวเคราะห์สถิตโคจรอยู่ที่ไหน...ในดวงจร มีโยคเกณฑ์กับศุภเคราะห์หรือไม่
๗. ณ.เวลาเกิดดาวเคราะห์มีพิกัดที่ตัวมันเองเข้มแข็งหรืออ่อนแอ ดูวัยต้นและวัยปลาย
๘. ฤกษ์,นวางค์,ตรียางค์ ดีหรือไม่ ดาวเด่นฤกษ์เสีย..ทอนความดี ดาวเสื่อมฤกษ์ดี..พอคุ้มโทษ |
ดาว ๑ สถิตภพปุตตะ
|
ภพปุตตะ หมายถึง ชื่อเสียง เป็นภพที่เกี่ยวกับการลงทุนทำมาหากิน การเสี่ยงโชคจากการพนัน นอกจากนี้ยังหมายถึงความสำเร็จ ความสนุกสนานร่าเริง ความรัก การแต่งงาน ปฎิภาณไหวพริบ ความเฉลียวฉลาด และยังหมายถึง บุตร การตั้งครรภ์ การมีรสนิยมทางศิลปะ การได้เสียกันโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายและประเพณี หรือการลักลอบได้เสียกัน |
ตำราโบราณกล่าวว่า
คนที่ดาว ๑ ในภพที่ ๕
|
จะเป็นคนยากจน รูปร่างอ้วน เมื่ออายุ ๑๗ ปี พ่อจะเสียชีวิต เจ็บป่วยหนักหรือมีโชคร้าย |
ถ้าเจ้าเรือนปุตตะ
มีความเข้มแข็ง
|
บุตรจะไม่อายุสั้น |
ถ้ามีความสัมพันธ์กับดาว ๘ ,๙
|
จะทำให้สูญเสียบุตรชาย เนื่องจากไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธ์ |
ถ้าดาว ๑ กุมดาว ๓
|
ก็จะเสียบุตรเนื่องจากศัตรู |
หากดาวเหล่านี้ได้รับความสัมพันธ์ดีหรือได้รับโยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์ โดยเฉพาะดาว ๕ ,๖ ความเสียดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น และถ้าดาว ๑ เข้มแข็งพอ ก็จะทำให้เป็นคนเคร่งครัดในศีลธรรม ขณะเดียวลูกหลานก็จะร่ำรวย |
การได้มาหรือการสูญเสียของลูกหลาน อยู่ที่ดาว ๑
|
จะต้องสถิตในตำแหน่งที่ดี ถ้าดาว ๑ สถิตในตำแหน่งดีเสียอย่างเดียวเท่านั้น นอกจากเรื่องร้ายๆต่างๆที่เกี่ยวกับภพที่ ๕จะไม่มีแล้ว กลับจะส่งผลดีให้แก่ภพที่ ๕ ทุกด้านด้วย |
ถ้าจะดูถึงเรื่องโชคลาภและความสำเร็จต่างๆของชีวิต ต้องดูที่ภพที่ ๕ ภพที่ ๙ ภพที่ ๑๑ ภพที่ ๕ จะมีความสัมพันธ์กับภพที่ ๙ ในทางตรีโกณ และสัมพันธ์กับภพที่ ๑๑ โดยเล็งกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว จะหาดวงชะตาที่มีดาวอยู่ในทั้ง ๓ ภพมีน้อยมาก ก็จะต้องดูแต่เพียงดาวที่สถิตในภพที่ ๕ จากนั้นต้องดูว่าเจ้าเรือนภพที่ ๕ไปอยู่ที่ไหน เจ้าเรือนภพที่ ๙ และ ๑๑ ไปอยู่ที่ไหน เข้มแข็งหรืออ่อนแอ และถูกกฎเกณฑ์อย่างไรบ้าง และเมื่อเวลาดาว ๑ โคจรเข้าไปสถิตในภพที่ ๕ ของดวงชะตาแล้ว ดาว ๑ ให้โยคเกณฑ์กับดาวเหล่านั้นอย่างไร ถ้ามีโยคเกณฑ์ดีและถูกต้องตามกฎเกณฑ์ ก็ทำนายในด้านดีไปเลย
ถ้าหากดาว ๑ มีโยคเกณฑ์ร้ายต่อดาวเคราะห์เหล่านั้น ก็ต้องทายในทางที่มีอุปสรรคและมีปัญหา หรือไม่ราบรื่นเกี่ยวกับความหมายของภพนั้นๆ |
ถ้าหากภพที่ ๕ , ๙ มีดาวบาปเคราะห์สถิตอยู่
|
ก็ให้ระวังว่า...ความสัมพันธ์ทางเพศที่ไม่ยี่หระต่อประเพณี จะทำให้เกิดปัญหาทางด้านร้ายหลายอย่าง ตั้งแต่เป็นโรคหรือเกิดอัปมงคลต่างๆ |
ภพที่ ๕ เป็นภพที่เกี่ยวกับความคิดอ่านและสติปัญญา ความเฉลียวฉลาด การวางแผนการทำมาหากิน และการดำเนินชีวิตที่สอดคล้องกับภพที่ ๙ และภพที่ ๑๑ การที่ดาว ๑ โคจรเข้าไปสถิตในภพนั้น จึงไม่มีปัญหาว่า...จะช่วยทำให้เจ้าชะตามีความคิดใหม่ มีความคิดริเริ่ม คิดที่จะทำมาหากิน หรือการพัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้ากว่าที่เป็นอยู่ |
ภพที่ ๕ มีความหมายที่สำคัญอีกความหมายหนึ่งสำหรับสังคมปัจจุบัน คือ การเสี่ยงโชคหรือการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนประเภทใด ตั้งแต่การพนัน ล็อตเตอร์รี่ การเล่นหุ้น เป็นต้น จะดีหรือเลว ได้ผลหรือไม่ได้ผล จะต้องพิจารณาและตัดสินใจจากภพที่ ๕ นี้ด้วย โดยเฉพาะในขณะที่ดาว ๑ สถิตอยู่ทั้งดวงเดิมและดวงจร เป็นจังหวะที่จะต้องเริ่มต้น |
ถ้าเป็นการลงทุนในระยะยาว จะต้องพิจารณาดาวบาปเคราะห์ส่วนใหญ่ในดวงชะตาว่า...เป็นอุปสรรคหรือไม่เป็นอุปสรรค เมื่อดาว ๑ โคจรเข้าไปในวันใด ถ้ามีดาว ๖ , ๕ เข้าร่วมอยู่ในภพที่ ๕ ด้วย ก็๋ให้หวังได้เลยว่า...ไม่ว่าจะเสี่ยงโชคหรือลงทุนอะไรก็ตาม เรื่องเจ๊งเป็นไม่มี นอกจากรวยลูกเดียว |
บางตำรากล่าวว่า...ภพที่ ๕ เป็นภพที่เกี่ยวกับการคบหาสมาคมและการสังคมกับผู้อื่น
|
เจ้าชะตามีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้คนเป็นจำนวนมาก หรือกับคนที่ไม่เคยสังคมกันมาก่อน เมื่อดาว ๑ โคจรเข้าภพที่ ๕ ถ้าไม่มีบาปเคราะห์ใดๆให้โทษ ดาว ๑ ในภพนี้จะให้ประโยชน์อย่างน่าพอใจทีเดียวในด้านนี้ เพราะเป็นภพแห่งการเริ่มต้น เริ่มคิดและวางแผน การกำหนดเป้าหมายที่จะก้าวไปข้างหน้า หลังจากที่ตัดสินใจไม่ได้และรอคอยมานาน |
ผลดีที่จะเกิดขึ้นจากดาว ๑ ในภพที่ ๕ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ดาว ๑ สถิต และโยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์ ถ้าดาว ๑ มีสัมพันธ์ดีกับศุภเคราะห์ ความหมายทั้งหมดของภพที่ ๕ ทายไปในทางดีได้เลย โดยไม่ต้องกลัวว่าจะผิด |
ดาว ๑ สถิตภพอริ
|
เป็นที่รู้และสั่งสอนกันมาว่า ภพอริ หมายถึง ศัตรู ความเจ็บไข้ได้ป่วย ยังรวมถึงความหมาย การรักษาพยาบาล อาหารการกิน การรับใช้บริการ ลูกจ้าง ผู้สนับสนุน หนี้สิน ความทุกข์ยาก การฟ้องร้อง |
ดาว ๑ ในภพที่ ๖
|
หมายถึง คนวรรณะต่ำ หรือคนชั้นต่ำ เจ้าชะตามีศัตรูมาก แต่จะมีฐานะการเงินดี ชอบท่องเที่ยวตามธรรมชาติ เพื่อแสวงหาความสัณโดษ จะมีชื่อเสียง แต่มีวิตกกังวล |
ถ้าดาว ๑ มีความสัมพันธ์กับศุภเคราะห์
|
จะเป็นคนมีสุขภาพดี มีความสัมพันธ์กับคนหมู่มาก และมีศัตรูมาก |
ถ้าเจ้าเรือนภพที่ ๖ ไม่มีกำลัง
|
ศัตรูต่างๆจะถูกทำลาย |
เรื่องโรคภัยไข้เจ็บไม่ได้ดูที่ภพที่ ๖ แต่ภพเดียว ต้องดูหลายภพ โดยเฉพาะลัคนาเกิดสถิตในฤกษ์,นวางค์,ตรียางค์ที่ดีหรือไม่ ถ้าไม่ดี นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่จะยืนยันว่า...เจ้าชะตาจะต้องเกิดมามีโรคภัยไข้เจ็บประจำตัว |
ดาว ๒ ในดวงกำเนิด ถ้าสถิตในตำแหน่งที่ไม่ดีตามกฎเกณฑ์ ก็เป็นดาวที่ยืนยันได้ว่า...โรคภัยไข้เจ็บจะเกิดกับเจ้าชะตาไม่ระยะใดก็ระยะหนึ่ง เพราะดาว ๒ เป็นดาวที่บอกถึงภูมิคุ้มกันต่างๆ ไม่ว่า..จะเป็นโรคภัยหรือศัตรู |
ภพที่ ๖ น่าจะใช้เป็นภพที่เกี่ยวกับการทำหากิน หรือการทำงานที่ต้องใช้แรงงานและสติปัญญา มากกว่าอื่น ภพที่ ๖ จะมีความสัมพันธ์กับภพที่เป็นตรีโกณต่อกัน คือ ภพที่ ๑๐ และภพที่ ๒ |
ภพที่ ๑๐ หมายถึง
|
การทำมาหากินและการงานของเจ้าชะตา |
ภพที่ ๒ หมายถึง
|
การเงิน การทำมาหาได้ |
ถ้าเอาความหมาย ๒ ภพนี้มารวมกัน
........................
|
จะชี้ให้เห็นว่า...งานหรือกิจการของเจ้าชะตา คือ อะไร? สามารถทำเงินให้แก่เจ้าชะตาได้มากน้อยเพียงไร? หรืออย่างไร? เพราะว่าภพทั้ง ๒ เกี่ยวพันกันอยู่เป็นตรีโกณร่วมธาตุ ส่งเสริมและสนับสนุนซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้น ภพที่ ๖ ซึ่งเป็นตรีโกณร่วมธาตุ น่าจะต้องมีความสัมพันธ์ถึงการทำมาหากิน รายได้ และที่มาของเงินของเจ้าชะตา แล้วแต่ชะตากรรมของแต่ละบุคคล หรือแล้วแต่อิทธิพลของภพที่ ๒ และ ๑๐ ว่า..มีหรือไม่มีดาวดีดาวร้ายสถิตอยู่ |
ถ้ามีดาวดีให้คุณ
|
ภพที่ ๖ ก็จะให้ความสำเร็จทางการงานการทำมาหากิน และความสมหวังในธุรกิจการงาน |
ถ้าภพที่ ๖ มีบาปเคราะห์สถิตอยู่
|
ก็ย่อมให้โทษ ทำให้เกิดปัญหาหรืออุปสรรคอย่างใดอย่างหนึ่ง |
ดาว ๑ ในภพนี้
|
ต้องระวังความสัมพันธ์กับดาวบาปเคราะห์ให้มากเป็นพิเศษ ถ้ามีโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ จะก่อให้เกิดผลร้ายแก่ดาว ๑ ในภพนี้มาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาว ๗ เชิงมุม ๙๐º, ๑๘๐º หรือกุมกันสนิทองศา คือ ๐º สุขภาพของเจ้าชะตาจะไม่สมบูรณ์ จะถูกโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียนอย่างหนัก
ถ้าดาว ๓ เป็นโยคเกณฑ์ร้าย มักจะเกิดอุบัติเหตุ จะเกิดเจ็บป่วยอย่างรุนแรงและรวดเร็ว หรือเสียชีวิตทันทีทันใด
ถ้ามีโยคเกณฑ์ร้ายจากดาว ๕ จะเป็นโรคเกี่ยวกับตับ โรคลมปัจจุบันทันด่วน โรคเกี่ยวกับเส้นโลหิตและเส้นสมองแตก
ถ้าหากเป็นดาว ๒ จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ
ถ้าดาว ๑ มีโยคเกณฑ์ร้ายกับทั้งดาว ๗ และดาว ๓ สถานภาพและอิทธิพลของดาว ๓ คือ เป็นดาวที่หมายถึงพลังงาน เมื่อถูกดาว ๗ และดาว ๑ เสียกระหนาบเข้าแบบนั้น จะทำให้เจ้าชะตามีร่างกายทรุดโทรม ในบั้นปลายชีวิตเจ้าชะตาจะพบกับอุบัติเหตุถึงความตายอย่างปัจจุบันทันด่วน |
ภพที่ ๖ เป็นภพที่เกี่ยวกับการรับใช้,บริการ,งานประเภทนี้ทุกชนิด ดาว ๑ ในภพที่ ๖ จะช่วยส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จได้มาก "ถ้าดาว ๑ มีโยคเกณฑ์ร้ายกับบาปเคราะห์ " งานประเภทนี้จะล้มเหลว ลูกน้อง,บริวารจะหักหลังและสร้างความยุ่งยากให้ และที่สำคัญที่สุด คือ ตำแหน่งหน้าที่การงานจะได้รับการกระทบกระเทือน |
ดาว ๑ สถิตภพปัตนิ
|
ภพปัตนิ หมายถึง ภพคู่ครอง ชีวิตครอบครัว การมีครอบครัว ชีวิตทางด้านกามารมณ์ ดวงชะตาที่มีดาว ๑ สถิตในภพที่ ๗ ถ้าไม่มีโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ ถือว่า..เจ้าชะตาจะได้เนื้อคู่หรือคู่ครองที่เพียบพร้อมไปด้วยความรู้และฐานะ เป็นคนที่มั่นคงอยู่ในคุณธรรมความดี ยิ่งถ้าดาว ๑ มีตำแหน่งที่ดี และมีดาว ๕,๖,๒ เข้ามามีกระแสสัมพันธ์เป็นโยคเกณฑ์ที่ดี มีเชิงมุม ๖๐º, ๑๒๐º กับดาว ๑ ให้มั่นใจได้เลยว่า.. เจ้าชะตาจะได้รับการเสริมให้ดำเนินชีวิตไปในทางที่ดีงาม และได้รับประโยชน์จากการสมรส การงานและการเงิน |
ตำราโบราณกล่าวว่า
ดาว ๑ สถิตภพที่ ๗
........................
|
จะทำให้เจ้าชะตาแต่งงานช้า เป็นคนไม่ให้ความนับถือเพศตรงข้าม เป็นคนสำส่อนทางเพศกับผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตน จะมีเมียมากกว่า ๑ คน ในการใช้ชีวิตร่วมกันกับภรรยา จะไม่ค่อยซื่อสัตย์ และไม่ไว้วางใจภรรยา เป็นคนเอารัดเอาเปรียบและคดในข้องอในกระดูกกับภรรยาของตนอยู่เสมอ เป็นคนที่มีจิตใจไม่มั่นคงและหลุกหลิก |
ถ้าดาว ๑
สถิตราศีสิงห์
|
เป็นเกษตร จะทำให้เจ้าชะตามีภรรยาเพียงคนเดียว
|
แต่ถ้าดาว ๑ มีความสัมพันธ์ร้ายกับดาวเคราะห์อื่นๆ หรือสถิตอยู่ในตำแหน่งไม่ดี
|
เจ้าชะตาจะมีเมียมาก และสำส่อนไม่มีที่สิ้นสุด |
ที่ต้องห้ามอย่างมาก คือ ดาว ๑ ในภพที่ ๗ ที่กุมด้วยดาว ๘ ,๗, ๓ และ ๐ ต้องห้ามเด็ดขาด เพราะดาวเหล่านี้จะทำลายคุณสมบัติของดาว ๑ ทุกทิศทุกทางและหลายแง่หลายมุม
ไม่ควรแต่งงานกับคนที่มีดาว ๑ อยู่ในภพที่ ๗ และมีดาวบาปเคราะห์ร่วมดังที่กล่าวมาแล้วเด็ดขาด
เช่นเดียวกัน ไม่ควรคบคนหรือร่วมทำมาหากินกับคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นนายจ้าง,ลูกจ้าง ที่มีดาว ๑ ในลักษณะดังกล่าว จะต้องระมัดระวังให้มากในท่าทีและพฤติกรรมการหลอกลวงและความไม่จริงใจจะมีมากอย่างคาดไม่ถึง |
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ว่าชะตาใด หญิงหรือชาย ถ้ามีดาว ๗ , ๘ , ๓ , ๐ สถิตอยู่ในภพที่ ๗
|
ให้ทายไปได้เลยว่า...เจ้าชะตาจะมีเคราะห์กรรมอย่างมากในชีวิตคู่ อาจจะไม่ได้แต่งงาน หรือได้แต่งงานช้า ได้แต่งกับคนที่ไม่พึงประสงค์ ถูกหลอกลวง นำโชคร้ายต่างๆมาสู่ชีวิต ได้แล้วต้องเลิกร้างหรืออยู่ด้วยกันไม่ได้ ให้ถือว่า..เป็นกรรมเก่า อย่าได้คิดมาก หรือจริงจังเกินไปกับชีวิตคู่ ถ้าไม่ปลงตก มันจะเจ็บปวดและทุกข์ทรมานถึงขนาดฆ่าตัวตายได้ทีเดียว |
เฉพาะดาว ๑ , ๒ , ๕ ขอให้สถิตในภพที่ ๗
|
การแต่งงานหรือชีวิตคู่จะไม่ผิดฝาผิดตัวเป็นอันขาด อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขและสมหวังทุกประการ ยังทำให้การมาหากินราบรื่น ประสบความสำเร็จรุ่งเรืองไปถึงลูกหลาน |
ดาว ๖ เป็นศุภเคราะห์ แต่โบราณว่า..
"ศุกร์เจ็ดอาจารย์เจ้าว่าร้อนนิรันดร์"
|
น่าจะพอให้ผลดีถึงแม้ว่าจะเป็นคนเจ้าชู้มากไปสักหน่อย คิดว่าโบราณคงจะหมายถึงอย่างนี้ละมั้ง |
ในการพิจารณาการพยาการณ์ภพที่ ๗ ถ้ามีศุภเคราะห์สถิตในภพนี้แล้ว ล้วนแต่หมายถึงคู่ครองในทางที่ดีทั้งสิ้น
|
ถ้ามีบาปเคราะห์สถิตในภพนี้
|
ก็ทายไปได้เลยว่า..การมีคู่ครองของเจ้า ชะตามีปัญหา มีอุปสรรค มีโชคร้ายเกิดขึ้น หรืออย่างน้อยที่สุด ก็จะไม่ประสบความสมหวังไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกัน |
ดูภพที่ ๑๑ ด้วย เพราะเป็นภพตรีโกณกับภพที่ ๗
|
ถ้าภพที่ ๑๑ มีบาปเคราะห์หรือมีดาวอันบ่งบอกถึงอุปสรรคสถิตอยู่ การจะทำนายเรื่องคู่ครอง ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะภพที่ ๑๑ หมายถึง การได้ เมื่อมีดาวบางดวงที่บ่งบอกถึงอุปสรรคและการไม่ได้สถิตอยู่ ให้แน่ใจได้ว่า...เรื่องคู่ครองมีปัญหา การแต่งงานต้องมีอุปสรรคแน่นอน |
ปัจจุบันนี้ภพที่ ๗ ไม่ได้หมายถึงภพที่เกี่ยวกับคู่ครองแต่เพียงอย่างเดียว
|
แต่จะใช้ทำนายถึงการคบหาสมาคม การร่วมมือกับผู้อื่น หุ้นส่วนหรือคนที่จะมาลงทุนทำมาหากินร่วมกัน หรือการพบกับผู้คนที่ไปมาหาสู่กัน อาจจะกล่าวได้ว่า คนที่จะเข้ามาในชีวิตของเจ้าชะตาในแต่ละวัน คนเหล่านี้จะมาดีมาร้าย มาให้ประโยชน์หรือมาทำลาย รวมไปถึงคดีความที่มีการฟ้องร้องและพิพาทกัน ไม่ว่าแพ่งหรืออาญา ความหมายต่างๆจะดีหรือไม่ดี จะให้คุณหรือโทษ ต้องดูที่คาถาศักดิ์สิทธ์ของนักโหราศาสตร์ รับรองว่า...ไม่ผิดหวังแน่นอน ถ้าเก่งทางคาถาอาคมของโหร อย่างน้อยก็สร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวของโหรเอง เพราะว่าได้ใช้กฎเกณฑ์ครบถ้วนทุกกระบวนความแล้ว ไม่ว่าผลของการพยากรณ์จะออกมาถูกต้องหรือเปล่า ถูกผิดมากน้อยขนาดไหนก็ตาม |
ดาว ๑ ในภพนี้ต้องไม่เป็นเจ้าเรือนทุสถานะภพ
|
ถ้าเกิดเป็น จะต้องระมัดระวังการทำนายเอาไว้ก่อน เพราะดาว ๑ เจ้าของภพที่กล่าวจะไม่ให้ผลดีตลอดไป อาจจะดีไปได้สักระยะหนึ่ง อาจจะเสียได้ระยะหนึ่ง การให้คุณและให้โทษของดาว ๑ มีอยู่ ๒ กฎเกณฑ์ คือ
๑. เมื่อมีบาปเคราะห์จรเข้ามาทับหรือเล็ง หรือมีโยคเกณฑ์ร้าย ระยะนั้นดาว ๑ จะให้โทษ
แต่ถ้าดาว ๑ มีโยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์ หรือมีศุภเคราะห์เข้ามาทับหรือเล็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาว ๕ ก็ให้ทายได้เลยว่า...ความสำเร็จที่ต้องการ หรือธุรกิจการงานที่กำลังกระทำอยู่ จะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน
๒. ในระยะที่ดาว ๑ เป็นเจ้าการเสวยอายุหรือแทรก ในระบบวิมโสตรีทศา |
ดาว ๑ สถิตภพมรณะ
|
ถ้าสถิตในราศีที่ให้ผลดีกับดาว ๑
.................
|
เช่น เมษ,สิงห์,ธนู หรือได้ตำแหน่ง มหาอุจ,เกษตร มีดาวศุภเคราะห์เป็นโยคเกณฑ์ หรือมีดาวเคราะห์เข้าไปส่งกระแสสัมพันธ์ถึงในเชิงมุมที่เป็นโยคเกณฑ์ดี คือ ๖๐ ํ,๑๒๐ ํ เจ้าชะตาจะได้รับผลดีทางการเงิน โดยเฉพาะมรดกหรือพินัยกรรมจากผู้สูงศักดิ์ มีอำนาจหรือมีเกียรติ หรือมรดกจากญาติพี่น้องที่มั่งคั่ง จะได้รับประโยชน์จากเงินปันผลจากการลงทุนกับหุ้นส่วนหรือมิตรสหาย และได้รับผลดีทางการเงินเนื่องมาจากการแต่งงาน
ดาว ๑ ตำแหน่งนี้ ถ้าได้รับโยคเกณฑ์ดีหรือสถิตในราศีที่ดี จะช่วยให้เจ้าชะตาสามารถหาเงินได้คล่องมากในทุกกรณี นอกเหนือไปจากรายได้ที่ทำมาหากินอยู่เป็นประจำ การตายของเจ้าชะตาจะเป็นการตายอย่างมีเกียรติ |
ถ้าดาว ๑ ในภพนี้เกิดสถิตในราศีที่ไม่ดี
|
ได้ตำแหน่งไม่ดี ไม่มีโยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์ และถูกเบียนจากบาปเคราะห์ ดาว ๑ ดวงนี้จะให้ผลร้ายมากในทุกด้าน จะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นประการแรก ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่หรือมีชื่อเสียงขนาดไหนก็ตาม จะขาดคนไว้เนื้อเชื่อใจไปจนวันตาย จะตายด้วยความอาภัพคับแค้นใจเต็มทน ดาว ๑ ในภพนี้ให้ระวังจะเสียชีวิตในวัยกลางคน |
ถ้าหากต้องการดูให้แน่ว่า ดาว ๑ ดวงนี้ให้ผลร้ายขนาดไหน
|
๑. ก็ต้องดูที่ดาว ๑ เดิม เมื่อบาปเคราะห์จรเข้าไปทับไปเล็ง หรือมีความสัมพันธ์เป็นโยคเกณฑ์ร้ายในระยะ ๙๐º, ๑๘๐º
ให้ใช้เวลาที่ดาว ๑ เข้าเสวยอายุในตำราตรีวัย แล้วหาดาวที่เป็นอริ,มรณะ,วินาศ เข้าไปเสวยอายุ
๒. ให้ใช้ระยะเวลาที่ดาว ๑ เข้าเสวยอายุและแทรกตามระบบวิมโสตรีทศา ถ้าเมื่อใดที่ดาว ๑ เข้าเสวยอายุ และมีดาวจากทุสถานะภพเข้าแทรก ก็ต้องเอาระยะที่ว่านี้ เป็นระยะที่ดาว ๑ ในภพที่ ๘ จะให้อิทธิพลร้ายแก่ดวงชะตาอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ง่ายๆ นอกจากต้องยอมรับกรรมที่พึงเกิดขึ้น |
โดยทั่วไปแล้ว ภพมรณะ หมายถึง ความตาย ความสูญเสีย เป็นภพแห่งความผิดหวัง พูดได้ว่า..เป็นภพที่เลวร้ายที่สุดสำหรับดวงชะตาของมนุษย์ทุกคน แต่เมื่อศึกษาให้ลึกลงไป จะทราบได้ว่า..ทุกภพมีทั้งให้คุณและโทษ เช่นเดียวกับดาวเคราะห์ทุกดวงไม่ว่า..ศุภเคราะห์หรือบาปเคราะห์จะให้ทั้งผลดีและร้ายได้เท่าๆกัน |
ปัจจุบันนี้ ภพที่ ๘ ไม่ได้หมายความแต่ในทางไม่ดีเท่านั้น
|
ยังหมายถึง การมีชีวิตที่ยืนยาว การรับมรดก เงินประกันชีวิตและประกันภัย บำเหน็จบำนาญ เรื่องเกี่ยวกับทางเพศ เรื่องลึกลับดำมืดต่างๆ ซึ่งบางครั้งก็ยากที่จะอธิบายได้ |
บางตำรายืนยันว่า...ภพที่ ๘ เป็นภพกฎุมพะของภพที่ ๗ |
ซึ่งหมายถึง หุ้นส่วนชีวิตหรือหุ้นส่วนทางธุรกิจ ยังสามารถให้คำทำนายเกี่ยวกับคนที่จะเข้ามาเป็นคู่ครอง หรือเข้ามาเป็นหุ้นส่วนร่วมทุนกับเจ้าชะตาว่า...มีฐานะทางการเงินเป็นอย่างไรอีกด้วย |
ถ้าภพที่ ๘ ไม่มีดาวสถิต หรือโคจรเข้าไป หรือมีความสัมพันธ์อย่างหนึ่งอย่างใดกับดาวใดๆ เหตุการณ์ที่ว่าดีหรือร้ายก็จะไม่เกิด |
ดาว ๗ สถิตภพที่ ๘
|
จะทำให้อายุยืน |
ดาว ๘ สถิตภพที่ ๘
|
จะทำให้ไม่เป็นคนมัวเมาลุ่มหลงในอบายมุข |
บางท่านว่า...ภพที่ ๘ เป็นภพปัตนิของภพที่ ๒
|
เพราะทำมุมเล็งกัน ความหมายทางด้านดี คือ เรื่องเกี่ยวกับเงิน และทางที่ได้เงินหรือผลประโยชน์ใดๆมาจากคนอื่น การเข้าหุ้น การร่วมงาน การลงทุน หรือมรดก ดังนั้นทั้งภพที่ ๒ และที่ ๘ จึงมีความหมายที่สำคัญแน่นอนอย่างหนึ่ง คือ เป็นภพที่เกี่ยวกับการเงินและการทำมาหาได้ของเจ้าชะตา รวมถึงค่าใช่จ่าย เพราะภพที่ ๘ เป็นตรีโกณกับภพที่ ๑๒ ซึ่งหมายถึงภพที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายและการสูญเสียทรัพย์สินของเจ้าชะตาด้วย |
ถ้าตราบใดดาว ๑ ในภพที่ ๘ ไม่มีบาปเคราะห์อื่นจรเข้ามาเบียนแล้ว
|
จะบอกได้ว่า..ชีวิตความเป็นอยู่และการทำมาหากิน ไม่ว่า..จะเป็นการทำธุรกิจเองหรือการร่วมทุนกับผู้อื่น จะประสบความสำเร็จทั้งสิ้น ถ้าดาว ๑ ในภพนี้มีศุภเคราะห์ เช่น ดาว ๕ , ๖ โคจรเข้ามาทับแล้ว ให้ทายไปได้เลยว่า...แม้นอนอยู่เฉยๆไม่ต้องคิดอ่านทำอะไรก็ร่ำรวย และมีความสุขความเจริญตามอัตภาพอย่างไม่มีปัญหา |
แต่ถ้าดาว ๑ ถูกดาว ๗ , ๘ โคจรเข้าไปทับแล้ว
|
อย่าได้คิดอ่านลงทุนอะไร หรืออย่าไปหวังพึ่งอะไรกับใครเป็นอันขาด ทรัพย์สินที่มีอยู่ก็ต้องระวังให้ดี และมีความรอบคอบที่สุดในการใช้จ่ายทุกด้าน และเตรียมหาโรงพยาบาลเอาไว้ด้วย เผื่อว่าจะมีการเจ็บไข้ได้ป่วยเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน |
สรุปแล้วดาว ๑ สถิตในภพนี้ให้คุณแน่นอน ชีวิตจะไม่มีวันตกต่ำ ขอแต่อย่าให้มีดาว ๗ , ๘ ,๐ กุมอยู่ด้วยเท่านั้น |
(พิจารณาด้วยว่า...ดาวเจ้าเรือนทุสถานะภพสถิตเรือนในดวงเดิมจะไม่ให้คุณและโทษที่แน่นอน ต้องรอดาวจรเข้ามาทำปฎิกิริยา มีบาปเคราะห์หรือศุภเคราะห์โคจรเป็นโยคเกณฑ์ดีหรือร้าย กับดาวเคราะห์ที่สถิตเรือนในดวงเดิมดังกล่าว จึงจะให้คุณหรือโทษ) |
ดาว ๑ สถิตภพศุภะ
|
ความหมายของภพที่ ๙
|
คือ ความศรัทธา ความเฉลียวฉลาด ความมั่นคง ความเชื่อในศาสนา ปณิธานและปรัชญาของชีวิต ใจบุญใจกุศล ธรรมมะธรรมโม ความฝัน พ่อหรือปู่ |
ในตำราสมัยใหม่ ภพที่๙
|
เป็นภพที่หมายถึง การศึกษาชั้นสูง การเดินทางไปต่างประเทศ การค้าระหว่างประเทศ การศาสนา กฎหมายทั่วไป การเจริญเติบโตทางธุรกิจและการทำมาหากิน |
ภพนี้เป็นภพที่ให้คุณภพหนึ่งสำหรับดาว ๑ (บอกถึงความสำเร็จในชีวิต และบุญวาสนาว่า..เจ้าชะตาจะมีมากน้อยเพียงใด) ถ้าอยู่ในราศีที่ดี อยู่ในเรือนของตัวเองหรืออยู่ในเรือนมหาอุจ จะช่วยเจ้าชะตาได้อย่างมาก เฉพาะความสำเร็จของครอบครัว มีลูกและคู่ครองที่ดี พ่อจะมีอายุยืน จะมีฐานะร่ำรวย และได้โยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์ เช่น ดาว ๕ มีเชิงมุมเป็น ๓ , ๑๑, ๕ ,๙ , หรือเชิงมุม ๖๐º, ๑๒๐º ชีวิตจะมีแต่ความสุขสบาย และจะรุ่งโรจน์มาก ในตอนที่ดาว ๑ เป็นดาวเสวยอายุ โบราณว่า..ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม ชื่อเสียงเกียรติยศจะไม่ไปไหนเสีย ถ้าบวชเป็นพระจะได้สมณศักดิ์สูง ถ้าเป็นฆราวาสก็จะได้เข้าศึกษาในสถาบันชั้นสูง การศึกษาต่อต่างประเทศ การศึกษาของคนที่มีดาว ๑ ในภพที่ ๙ คือ กฎหมาย ปรัชญา อักษรศาสตร์ การต่างประเทศ จิตวิทยา จะเป็นคนที่มีความรอบรู้ทางจิตศาสตร์และศาสนาอย่างลึกซึ้ง เป็นผู้ที่มีอุดมคติสูง มองโลกและช๊วิตในแง่ดี งานที่สำคัญ คือ งานเกี่ยวกับการต่างประเทศ |
ถ้าดาว ๑ ไม่บริสุทธ์
|
เพราะมีโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ หรือศุภเคราะห์ที่เป็นโยคเกณฑ์ร้ายก็ดี คำพยากรณ์จะผิดจากหน้ามือเป็นหลังมือจากที่กล่าวไว้ข้างต้น |
ถ้าดาว ๑ สถิตในตำแหน่งร้าย
..............................
|
เช่น ในนวางค์ของดาว ๖ ราศีตุลย์ ดาว ๑ เป็นนิจ หรืออยู่ในกลุ่มดาวฤกษ์ที่ให้โทษ หรือเกาะนวางค์ที่เป็นพิษ ความสำเร็จของดาว ๑ ก็จะไม่ราบรื่น หรือต้องมีการต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคมากหน่อย หรือถ้าได้มาก็อาจจะเกิดอันตรายหรือทำให้มีเรื่องมีราวไม่ดีได้ในภายหลัง จะทำให้สูญเสียพ่อ จะไม่มีโชคลาภทางการเงินมากนัก และจะไม่ถูกกับพ่อ |
ถ้ามีคนมาดูหมอถามโหรว่า...เจ้าของชะตาจะเจริญรุ่งเรืองแค่ไหน จะประสบความล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จหรือไม่ประการใด ต้องดูจากภพที่ ๙
|
นักโหราศาสตร์รุ่นเก่ายืนยันว่า
|
ภพศุภะ เป็นภพที่แสดงถึงบุพกรรมการทำดีทำชั่วมาแต่ชาติปางก่อน ถ้าทำบุพกรรมดีเอาไว้ ในดวงของเจ้าชะตา จะมีดาวสถิตในราศีที่ดี และมีความสัมพันธ์ดีจากดาวที่ให้คุณ |
แต่ในทางตรงกันข้าม
|
ถ้าบุคคลใดได้วิญญาณที่ทำบุพกรรมไม่ดีแต่ชาติปางก่อนมาจุติ ก็จะมีดาวร้ายสถิตอยู่ในภพนี้ หรือดาวเหล่านั้นจะได้รับความสัมพันธ์ร้ายจากบาปเคราะห์ หรือเป็นราศีที่ไม่ให้คุณมากนัก และภพเองก็จะได้รับโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ |
ให้สังเกตุว่า...ภพที่ ๙ จะเป็นตรีโกณกับภพที่ ๑(ลัคนา) และภพที่ ๕ ถ้าภพทั้ง ๓ ภพนี้มีดาวศุภเคราะห์สถิต และต้องไม่ใช่ดาวเจ้าเรือนทุสถานะภพสถิตอยู่แล้ว ขอให้มั่นใจในการทำนายได้เลยว่า...เจ้าชะตาจะเป็นคนมีบุญ จะประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ว่าการทำมาหากิน ฐานะการเงิน ความเป็นอยู่ ไม่ว่า..จะยากจนเข็ญใจมาอย่างไร ไม่ต้องคำนึงถึง จะประสบความสำเร็จแน่นอน เชื่อเทวดาเถอะ แล้วจะดีเอง |
ภพนี้เป็นผลของ "ปุพเพกะตะบุญญะตา"
|
ดาว ๑ สถิตภพกัมมะ
|
เป็นภพสูงสุดของดวงชะตาที่สำคัญที่สุด
|
จากผลการคำนวณทางดาราศาสตร์ยืนยันว่า..ในขณะที่มนุษย์ทุกคนเกิดนั้น ดาว ๑ มีกำลังแสงเต็มที่ในภพที่ ๑๐ ดาว ๑ ในภพนี้ ความหมายโดยเฉพาะ คือ ตำแหน่งที่เกี่ยวหน้าที่การงานและความสำเร็จในชีวิต การงานและเกียรติยศ จึงมีคำทำนายว่า...ดาว ๑ ในภพนี้จะส่งเสริมให้เจ้าชะตามีชีวิตรุ่งโรจน์ในหน้าที่การงาน จะได้รับเกียรติยศชื่อเสียง และมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าคน มีตำแหน่งหน้าที่สูงในทางราชการหรือเป็นนักการเมือง |
ดาว ๑ ของใคร
ปรากฎอยู่ในภพที่ ๑๐
|
คนผู้นั้นจะเหมาะสมกับงานในหน้าที่และเป็นนายคน จะไม่มีโอกาสอยู่ใต้บังคับบัญชาผู้อื่น เหมาะกับงานรับราชการ จะอำนวยผลให้กับดวงชะตามาก |
ดาวเคราะห์ทุกดวงแทบไม่มีโอกาสที่จะเป็นดาวที่บริสุทธ์ได้เลย โดยไม่ถูกรบกวนจากดาวที่ให้โทษ ระวัง!! โยคเกณฑ์ดีจากบาปเคราะห์ และโยคเกณฑ์ร้ายจากศุภเคราะห์ ตำแหน่งของดาว ๑ ในราศี ฤกษ์ นวางค์ ตรียางค์ หากผิดกฎเกณฑ์ที่ว่าไว้ อาจทำให้ดาว ๑ ให้โทษก็เป็นได้ หรือไม่ก็สร้างอุปสรรคและปัญหาให้กับเจ้าของดวงชะตาได้ทุกเมื่อ |
ตำราโหราศาสตร์บางเล่มเขียนไว้ว่า
|
เป็นภพที่บอกถึงการงานหรือสภาพของแม่ แต่ความสำคัญของภพที่ ๑๐ เป็นภพที่บอกถึงความสำเร็จในชีวิตของเจ้าชะตา ว่า...จะประสบความสำเร็จมากน้อยขนาดไหนเพียงใด |
ดาว ๑ ในภพนี้
|
หมายถึง การโคจรของดาว ๑ ที่กำลังโคจรอยู่เหนือศรีษะของเจ้าชะตา (เป็นการคำนวนจากการที่โลกหมุนรอบตัวเองผ่านราศีต่างๆในขณะที่เจ้าชะตาเกิด เมื่อเจ้าชะตาเกิดแล้ว ก็จะมีลัคนาและภพเรือนชะตาเกิดขึ้น ถ้าเจ้าชะตาเกิดหลัง ๑๒.๐๐น. ดาว ๑ จะสถิตอยู่ ณ.ภพที่ ๑๐ ของลัคนา) ดาว ๑ จึงให้คุณสูงสุดแก่เจ้าชะตาตามหลักคำนวน ไม่ทราบเทวดามีความคิดเห็นว่าอย่างไร? ใครก็ตามมีดาว ๑ สถิตในภพนี้ ต้องประสบความสำเร็จในชีวิตแน่นอน ถ้าดาว ๑ ไม่มีความสัมพันธ์ร้ายกับดาวร้ายดวงอื่น สถิตในราศีที่ดี ทายไปได้เลยว่า..จะประสบความสำเร็จทุกประการ |
แต่ถ้าดาว ๑ มีบาปเคราะห์เบียน
.............................
หรือสถิตในราศีที่ไม่ดี
|
คำทำนายต้องเป็นตรงกันข้าม ซึ่งแล้วแต่ดาวบาปเคราะห์ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนมากจะเป็นเกี่ยวกับอุปสรรคต่างๆในการดำเนินชีวิตและงาน การขาดทุนและการสูญเสีย การถูกทำลาย การเสียเกียรติยศและเสียตำแหน่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเจ้าเรือนทุสถานะภพ สถิตร่วมภพเดียวกัน หรือโคจรเข้ามาร่วมในระยะใดระยะหนึ่ง ระวังดาว ๗ และดาว ๘ โคจรเข้ามาทับ ในระยะใด? ปีใด? เมื่อไร? ต้องระวังว่า...เรื่องร้ายๆจะเกิดขึ้นได้ในชีวิต |
ดาว ๑ สถิตภพลาภะ
|
เป็นภพที่นำมาซึ่งลาภผลและการทำมาหาได้ ภพของมิตรสหายที่ดี ภพของโชคลาภที่มีอยู่อย่างไม่ขาดสาย ถ้าหากดาว ๑ ในภพนี้เป็นดาว ๑ ที่ดีตามกฎเกณฑ์แล้ว วางใจได้เลยว่า..เรื่องที่จะทำให้ผิดหวังหรือขาดทุนเป็นไม่มี
|
ดาว ๑ ในภพนี้
..............................
|
ช่วยให้เจ้าชะตาเป็นคนกว้างขวางในสังคม มีเพื่อนฝูงที่มีฐานะดีและมีเกียรติ เพื่อนฝูงทุกๆคนจะให้ความช่วยเหลือและให้คำแนะนำแก่เจ้าชะตาทุกครั้งและทุกโอกาสที่เจ้าชะตาร้องขอ ช่วยให้เป็นคนมีพรสวรรค์ในการสร้างหลักฐานฐานะให้ประสบความสำเร็จดังที่ตั้งความปรารถนาไว้ทุกประการ |
ไม่ว่าดวงชะตาใดก็ตาม ถ้าในภพที่ ๑๑ มีดาวศุภเคราะห์ที่ไม่ใช่เจ้าเรือนทุสถานะภพสถิตอยู่
|
และสถิตในตำแหน่งที่ดี ไม่ว่า..จะเป็นราศี,นวางค์,ตรียางค์และฤกษ์ ไม่มีดาวบาปเคราะห์ใดๆเข้าไปกุมไปทับหรือไปเล็งและให้โยคเกณฑ์ที่ร้ายแล้ว ก็สามารถทายไปได้ว่า... ชีวิตของเจ้าชะตานั้นๆจะไม่มีปัญหาใดๆในการทำมาหากิน การแสวงหาความร่ำรวย หรือโชคลาภ และความสำเร็จทุกอย่างตามที่ใจปรารถนา |
เว้นแต่ว่า...ภพที่ ๑๑ จะมีบาปเคราะห์ หรือเจ้าเรือนทุสถานะภพสถิตอยู่หรือสถิตในราศีที่ไม่ให้คุณ และมีโยคเกณฑ์ร้ายกับดาวเคราะห์ดวงอื่น
|
จะต้องยับยั้งการทำนายในแง่ดีเอาไว้ก่อน เพราะในลักษณะนี้ จะทำให้เกิดมีอุปสรรคและปัญหา โชคร้ายหรือความล้มเหลวประการต่างๆตามความหมายของภพที่ ๑๑ ได้อย่างมาก หรืออย่างน้อยก็จะเป็นระยะใดระยะหนึ่งแน่นอน ภพที่ ๑๑ เป็นตรีโกณกับภพที่ ๗
เมื่อภพที่ ๑๑ มีปัญหาเช่นนี้ ย่อมส่งกระแสสัมพันธ์ร้ายไปยังภพที่ ๗ ด้วย เมื่อมีดาวบ่งบอกว่าภพที่ ๑๑ มีอุปสรรค การทำนายเกี่ยวกับคู่ครองหรือการแต่งงาน ต้องประสบกับความผิดหวังแน่นอน |
การวิเคราะห์ดวงชะตาทุกครั้ง ต้องวิเคราะห์ทั้งดวงเดิมและดวงจรควบคู่ไปด้วยทุกครั้งไป เพราะตำราเกือบทุกเล่ม มักจะไม่ระบุว่า...เป็นดวงเดิมหรือดวงจร เป็นที่งุนงงมาก บางคนดวงเดิมดีและเข้มแข็งมาก แต่ในบางระยะเวลา มีบาปเคราะห์โคจรเป็นโยคเกณฑ์ร้ายให้โทษ ช่วงระยะเวลานั้นมักจะทำให้ดวงไม่ดี แต่ก็เป็นระยะใดระยะหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่ตลอดชีวิต จากการวิเคราะห์..ถ้าดวงเดิมดีดวงจรก็มักจะดีด้วย จะไม่ดีก็เป็นช่วงระยะใดระยะหนึ่ง |
ถ้าดวงเดิมไม่ดี
|
ดาวอะไรจรมาก็มักจะไม่ให้คุณ ทำให้เจ้าชะตาเป็นคนดวงจู๋ |
ดวงเดิมบอกให้รู้ว่าบุคคลนั้นๆ มีบุพกรรมแต่ชาติปางก่อนเป็นอย่างไร ทำบุญทำบาปมามากน้อยขนาดไหน
|
ดวงจรบอกให้รู้ถึงปัจจุบันกรรมของบุคคลนั้นๆ ว่า..เป็นอย่างไร? อดีตที่เพิ่งผ่านมาเป็นอย่างไร? ปัจจุบันเป็นอย่างไร? เมื่อไรจะมีโชคดี ในอนาคตอันใกล้เป็นอย่างไร? |
ในวิชาโหราศาสตร์ใช้ทำนายอนาคตหรืออดีตก็ตาม ต้องใช้ดาวจรทำปฎิกิริยากับดาวเดิม จึงจะบอกเป็นคำพยากรณ์ได้ ปัจจุบันจะเป็นอย่างไรต้องขึ้นอยู่กับบุพกรรมที่ทำไว้แต่ชาติก่อน ถ้าชาติก่อนสร้างบุพกรรมที่ไม่ดีเอาไว้ |
ดาวในดวงเดิมบอกได้ว่า
|
เจ้าชะตาทำบุญหรือทำบาปมามากน้อยขนาดไหน พอแก้ไขได้หรือไม่ |
(เข้าใจว่า..ต้องใช้หลักจิตวิเคราะห์เข้าช่วย ปกติการแสดงออกทางด้านความคิด,จิตใจ,อารมณ์ความรู้สึกและการแสดงออกทางกาย ก็มีการวิเคราะห์ด้วยหลักจิตวิทยาอยู่แล้ว แต่การแก้ไขต้องใช้หลักจิตวิเคราะห์)
เมื่อดาวจรโคจรมาทำปฎิกิริยา ก็จะมีทั้งดีและไม่ดี ขึ้นอยู่กับคาถาศักดิ์สิทธ์ของโหรว่า..จะวิเคราะห์ครอบคลุมได้มากน้อยขนาดไหน ส่วนมากมักจะตกหล่นหรือสะเพร่าหรือเผลอเรอเสียเป็นส่วนมาก ไม่มีโหรท่านใดในโลกนี้สามารถครอบคลุมดวงชะตาของมนุษย์ทุกคนได้แน่นอน อยู่ที่ว่าจะมากหรือน้อยเท่านั้น ถ้าโหรที่ไม่เก่งทางคาถาอาคมของวิชาโหราศาสตร์(หมายถึง กฎเกณฑ์และสถิติ) ก็ต้องเดาแบบสุ่มไปตามเรื่องตามราว ผิดบ้างถูกบ้าง ส่วนมากมักจะเป็นอย่างนี้เสียด้วย เพราะไม่ต้องปวดศรีษะมากเกินไป ตำราต่างๆที่เขียนกันขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นของโบราณหรือแปลมาจากตำราต่างประเทศ มักจะไม่ชัดเจน ๗๕% ของตำราคลุมเครือ ศัพท์โบราณมีปัญหามากในปัจจุบัน ตำราที่แปลมาจากต่างประเทศ ผู้แปลไม่มีความสันทัดในภาษานั้นๆอย่างเพียงพอ ดูแล้วประดักประเดิกยังไงก็ไม่ทราบได้ วิชานี้จึงเป็นวิชาที่เวียนวนอยู่ในเขาวงกตโดยแท้ เพราะตำราเป็นเหตุก็อาจกล่าวหาได้ ตำราวิชานี้เป็นตำราที่บ้าที่สุดในกระบวนตำราที่ใช้แสวงหาความรู้เมื่อเปรียบเทียบกับวิชาในศาสตร์อื่นๆ วกวนซ้ำซาก พิสูจน์อักษรผิดพลาด ใช้สำนวนที่ไม่ถูกต้อง มีความคลุมเครือสูงมาก แสดงความหมายไม่ชัดเจน ตีความได้ไม่ชัดเจน แปลไม่ถูกต้องกับต้นฉบับ ผลก็คือ มีแต่หมอเดากันเต็มบ้านเต็มเมือง หาคนที่เป็นนักโหราศาสตร์ที่แท้จริงสักคนหรือสองคน ช่างหายากเย็นเสียเหลือเกิน เรียนไปเรียนมาก็เป็นได้แค่หมอเดาต้มตุ๋นชาวบ้านไปวันๆหนึ่งโดยใช้ประสบการณ์และวาทะศิลป์ เจอคนที่พอจะเป็นนักโหราศาสตร์จริงๆก็มีความรู้ไม่เพียงพอในบางเรื่อง ท่านเหล่านั้นไม่สามารถครอบคลุมวิชานี้ได้ทั้งหมด เด่นเฉพาะในบางเรื่องเท่านั้น ทั้งที่บางคนใช้เวลาเรียนกันถึง ๔๐-๕๐ ปี ไม่รู้คิดกฎเกณฑ์อะไรขึ้นมามากมายก่ายกอง สติเฟื่องจริงๆเลย แต่นำไปพยากรณ์ถูกบ้างไม่ถูกบ้าง ไม่ถูกเสียส่วนมาก ไม่เข้าใจจริงเลย นักปราชญ์มากมายเรียนวิชานี้ ก็ยังไม่มีการแก้ไข คนเขียนตำราและคนแปลตำรา ดูเหมือนคนมีความรู้จริง แต่พอดูอีกทีเหมือนกับคนที่ไม่มีความรู้จริง ไม่ทราบว่ากั๊กเคล็ดวิชาไปทำไม ค่อนข้างจะสติเลอะเลือนเสียส่วนมาก
|
ดาว ๑ สถิตภพวินาศ
|
ทำให้เจ้าชะตาพบกับความอับเฉา มีความสนใจในศาสตร์ลี้ลับ ได้รับความอึดอัดคับแค้นใจไม่เหมาะกับชีวิตทางโลก มีชีวิตอยู่แบบไร้ญาติขาดมิตร เจ้านายหรือผู้บังคับบัญชามักจะมองในแง่ร้าย มักจะดำเนินชีวิตอยู่ห่างจากสถานที่เกิด จะใช้จ่ายเงินสิ้นเปลืองไปเพื่อความบันเทิงเริงใจ ชอบกระทำความชั่ว มักจะสูญเสียทรัพย์สินโดยเปล่าประโยชน์ |
ข้อความที่กล่าวมาข้างต้นไม่เป็นความจริงเสมอไป
|
ผู้ที่มีดาว ๑ อยู่ในภพนี้
........................... |
มีความรู้สูงก็มี มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่มีเกียรติก็มี โดยที่ไม่มีความยากจนหรือคับแค้นใจอย่างที่ว่า
ปัญหาจึงอยู่ที่ความสัมพันธ์ของดาว ๑ กับดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ "ดาว ๑ มีโยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์หรือไม่? สถิตในราศีที่ดีหรือเปล่า? ตำแหน่งต่างๆถูกต้องตามกฎเกณฑ์หรือไม่?"
ถ้ามีโยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์ มีเชิงมุม ๖๐º, ๑๒๐º จะทำให้เจ้าชะตาไม่มีศัตรู หรือถ้ามีก็สามารถเอาชนะได้ จะประสบความสำเร็จในการปฎิบัติธรรม มีความสุขกับการเคารพบูชาเทพ จะมีความสุขมากกับการร่วมเพศ
|
แต่ถ้าดาว ๑ มีสัมพันธ์ร้ายกับดาวอริ
|
จะได้รับความทรมานจากการเป็นโรคเรื้อน เมื่อศุภเคราะห์จรมาให้คุณจึงจะหายจากโรค |
ดาว ๑ ในภพวินาศ
|
ทำให้เจ้าชะตาชอบกระทำความชั่ว ถ้าเป็นโรคอยู่ก็จะบันดาลให้เป็นโรคหนักมากยิ่งขึ้น ถ้าหากภพที่ ๑๒ ได้รับโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ การสูญเสียต่างๆตามความหมายของภพวินาศ ที่กล่าวมาแล้วจะชัดเจนและมีความแน่นอนยิ่งขึ้น แม้มีศุภเคราะห์สถิตก็ให้ผลเสียทั้งสิ้น ยกเว้นแต่ภพที่ ๑๒ เป็นราศีสิงห์ ดาว ๑ เป็นเกษตร ถือว่าเป็นเรื่องวดีและให้ผลดีต่อเจ้าชะตา |
ถ้าดาว ๑ มีบาปเคราะห์เป็นโยคเกณฑ์ร้าย
|
คือ เชิงมุม ๐º, ๙๐º,๑๘๐º เจ้าชะตาจะมีชีวิตอยู่ด้วยความลำเค็ญหาหลักฐานใดๆมิได้ ชีวิตจะหมิ่นเหม่ต่อการถูกจำกุมคุมขังและการถูกเนรเทศ |
ถ้าเจ้าเรือนภพวินาศสถิตร่วมกับดาว ๑
|
จะได้รับความทรมานจากโรคเรื้อรัง หรือไม่ก็ต้องเจอกับอุปสรรคและศัตรูตลอดชีวิต |
สัจธรรมที่แท้จริงของวิชาโหราศาสตร์ **ทุกภพสามารถให้ผลดีและผลร้ายต่อเจ้าชะตาได้เท่ากัน ทุกภพจะให้ประโยชน์และโทษแก่เจ้าชะตาได้เหมือนๆกัน แต่ที่จะให้โทษและให้ร้ายทั้งหมดนั้นไม่มี มีบางแง่บางมุมที่ให้คุณแก่เจ้าชะตาได้เหมือนกับทุกภพในบางโอกาส หรือในยามที่ดาว ศุภเคราะห์โคจรเข้าไปสถิตอยู่ หรือมีความสัมพันธ์ดีกับดาวศุภเคราะห์ |
ดวงชะตาที่มีศุภเคราะห์เป็นวินาศลัคน์
|
มียศศักดิ์ฐานะ มีเงิน เป็นนักเรียนนอก เป็นด็อกเตอร์ เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ตาไม่เสีย ลูกก็มีทั้งหญิงและชาย และเป็นลูกที่คุณภาพอีกด้วย ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งมีเกียรติมีฐานะในการงานมากขึ้นเท่านั้น |
แต่ดาว ๑ ในภพนี้
|
มักจะเป็นคนเบื่อโลก จะปลงตกกับชีวิต เบื่อหน่ายต่อการแสวงหา ไม่ค่อยมีความทะเยอทะยาน ซึ่งก็มีผลดี เพราะทำให้ชีวิตมีเรื่องยุ่งยากน้อยลง |
ภพที่ ๑๒ ทำมุมเป็นตรีโกณกับภพที่ ๔
|
ซึ่งหมายถึง ครอบครัว ที่ดิน บ้านช่อง ยานพาหนะ รถยนต์และผู้คนในบ้าน รวมถึงฐานะของครอบครัวที่รับผิดชอบ |
จากภพที่ ๔ ก็จะเป็นภพที่ ๘ ที่ทำมุม ๑๒๐º
|
ซึ่งภพนี้หมายถึง ภพที่เกี่ยวกับรายได้ การทำมาหากินกับพรรคพวกเพื่อนฝูงหรือหุ้นส่วน เกี่ยวกับรายได้ของคู่ครอง ฐานะการเงินของคู่ครอง หรือปัญหาทางการเงินของคู่ครอง |
ที่แน่นอนที่สุด คือ ภพที่ ๑๒
|
เป็นภพแห่งการสูญเสีย ความสิ้นเปลือง ค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งความจริงไม่ได้จ่ายไปไหน ไม่ได้สูญเสียไปไหน แต่จะสูญเสียไปในเรื่องของครอบครัว คนในครอบครัว ที่อยู่อาศัย หรือมรดกรายได้ทั้งสิ้น ยกเว้นแต่ว่า....ใน ๓ ภพที่เกี่ยวโยงกันอยู่นี้ จะมีภพใดภพหนึ่งมีบาปเคราะห์ที่หนักหนาสาหัสมีความสัมพันธ์อยู่อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งผลกระทบจากความสัมพันธ์ดังกล่าว แน่นอนว่า...จะทำให้ต้องประสบความสูญเสียโดยไร้ประโยชน์ หรือมีแต่ความสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ |
ในขณะเดียวกัน ถ้าหากทั้ง ๓ ภพมีดาวศุภเคราะห์ให้คุณอยู่ การสูญเสียหรือความเสียหายใดๆที่จะเกิดขึ้น ก็จะไม่รุนแรงนัก เป็นเพียงภาระรับผิดชอบธรรมดานี่เอง แม้แต่ความเจ็บไข้ได้ป่วย ถึงขนาดต้องเข้าโรงพยาบาลเป็นเดือนๆ ก็จะปลอดภัยเมื่อมีศุภเคราะห์โคจรเข้าไปมีความสัมพันธ์หรือมีโยคเกณฑ์ถึง
|
ภพที่ ๑๒ จึงเป็นเสมือนหน้าที่รับผิดชอบและการเสียสละ เกี่ยวกับครอบครัว ตั้งแต่บ้านเรือนที่อยู่อาศัยเป็นต้นมา เป็นภาระหน้าที่ของคนที่มีดาว ๑ ในภพ ๑๒ |
ในด้านการทำมาหากินแล้ว ดาว ๑
|
หรือศุภเคราะห์อื่นๆในภพนี้ จะทำมาหากินเพื่อเลี้ยงคนอื่นมากกว่าตัวเอง |
มีความหมายอีกอย่างหนึ่งของภพที่ ๑๒
|
คือ การชำระหนี้ หรือกำหนดเวลาชำระหนี้ เมื่อดาวใดโคจรเข้าสู่ภพนี้ จะต้องถือว่า...เป็นภพที่จะต้องเสียเงิน เสียค่าใช้จ่ายหรือสูญเสียอะไรบางสิ่งบางอย่าง แต่ที่แน่ๆ คือ ต้องเสียค่าน้ำค่าไฟ หรือหนี้เก่าๆ ดอกเบี้ย ค่าผ่อนบ้านผ่อนรถ เสียค่าเล่าเรียนของบุตร และค่าอะไรต่อมิอะไรจิปาถะ เป็นเรื่องของภพที่ ๑๒ ทั้งดาวจรที่โคจรเข้าสู่ภพ ๑๒ และดาวใดๆที่มีโยคเกณฑ์ถึงภพที่ ๑๒ เป็นทายได้ทั้งสิ้น |
เฉพาะเมื่อดาว ๑ จรเข้าภพที่ ๑๒
|
จะต้องมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจเกี่ยวกับการเสียเงินที่ไม่ต้องการเสียอีกด้วย |
โบราณกล่าวว่า...ดาว ๑ ในภพที่ ๑๒
|
หมายถึง การเสียเกียรติ มีชีวิตที่ตกต่ำ การถูกเลื่อยขาเก้าอี้ หรือการออกจากงานในลักษณะที่ต้องอับอายขายหน้า เกิดขึ้นเมื่อใด? เมื่อดาว ๗ , ๘ โคจรเข้าไปทับดาว ๑ ในภพนี้ จะต้องระวังให้มากเมื่อบาปเคราะห์เหล่านี้โคจรเข้าไปทับ โดยเฉพาะเรื่องความคิด การดำเนินชีวิตที่ผิดพลาด โรคภัยไข้เจ็บถึงเข้าโรงพยาบาลจะมีแน่ในระยะที่ดาวร้ายเหล่านี้โคจรถึง |
จะเอาให้แน่ ต้องพิจารณาว่า...ในระยะนั้น มีศุภเคราะห์ เช่น ดาว ๕, ๖ เข้าไปช่วยได้ทันหรือเปล่า และที่สำคัญต้องใช้ระบบวิมโสตรีทศาเข้ามาตัดสิน ขณะนั้นดาวอะไรเสวยอายุ มีดาวอะไรเข้าแทรก แทรกเมื่อไรวันไหน ดาวดีหรือดาวร้าย ถ้าเป็นดาวร้าย ต้องถือว่า...เป็นการให้โทษของดาวที่โคจรเข้าไปในภพที่ ๑๒ นี้ค่อนข้างรุนแรงแน่ |
ถ้าเป็นศุภเคราะห์ ทำนายได้ว่า
|
สถานการณ์ทุกอย่างจะไม่รุนแรง สามารถแก้ไขได้ |
ดาวในดวงชะตากับดาวเสวยอายุและดาวแทรก
|
บางระยะของชีวิตที่มีดาวร้ายโคจรเข้าไปให้โทษแก่ดวงชะตาอย่างน่าหวาดกลัว แต่เมื่อเอาอิทธิพลของดาวเจ้าการเสวยอายุของระบบทศาเข้าไปตัดสินถ้าดาวเสวยอายุและดาวแทรกเป็นศุภเคราะห์ สามารถทำนายได้เลยว่า...โชคร้ายที่จะเกิดขึ้นอาจจะไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นแต่ไม่รุนแรง หรือแก้ไขได้ |
ในทางตรงกันข้าม บางกรณีบางระยะเราอาจทายไปว่า
|
จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่อาจจะเกิดขึ้น ถ้าดาวเสวยอายุหรือดาวเจ้าการชีวิตที่เข้ามาเสวยอายุนั้นเป็นบาปเคราะห์ที่ให้โทษในดวงชะตามาแต่เดิม |
|