ดาว ๓ สถิตภพปัตนิ
|
เป็นภพที่เกี่ยวกับคู่ครอง ดีหรือร้ายจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งของดาว ๓ ที่เข้าไปสถิตในภพนี้
|
ถ้ามีความสัมพันธ์ดีกับศุภเคราะห์ในระยะ ๖๐º , ๑๒๐º กับดาว ๖ ,๕ ,๑ ,๒ ในชะตา |
จะได้คู่ครองที่มีเกียรติ เป็นผู้กว้างขวางในสังคม ยิ่งถ้าดาว ๓ ได้ตำแหน่งมหาอุจ,เกษตร ด้วยแล้วจะดีมาก โดยเฉพาะดวงชะตาหญิง ดาว ๓ เป็นดาวที่หมายถึงสามี จะได้สามีเป็นนักธุรกิจใหญ่โต หรือมิฉะนั้นก็จะเป็นนายทหารหรือนายตำรวจที่มียศสูง |
แต่ถ้าดาว ๓ อยู่ในตำแหน่งเสื่อม ไม่ว่าจะเป็น ประ,นิจ หรือตามกฎเกณฑ์อื่นใด หรือได้กระแสสัมพันธ์ที่ไม่ดี |
จะได้คู่ครองเป็นคนเกียจคร้านและดื้อด้าน ชอบล้างผลาญ ทำตัวเป็นคนเจ้าสำราญ เป็นนักดื่ม และเป็นนักเลงทุกชนิด ทำให้เจ้าชะตาทำมาหากินไม่ขึ้น |
โบราณห้ามไว้ว่า...
|
คนที่มีดาว ๓ อยู่ในภพนี้ไม่ว่าหญิงหรือชาย และอยู่ในกฎเกณฑ์ที่ไม่ดี อย่ารีบแต่งงาน หรือไม่แต่งได้จะดีมาก เพราะถ้าแต่งไปแล้ว นอกจากจะไม่เป็นศิริมงคลแก่ชีวิตแล้ว ยังต้องเลิกร้างกันไปในไม่ช้าไม่นานด้วย |
บางโหรกล่าวว่า...
|
ถ้าแต่งงานกับคนที่มีดาว ๓ อยู่ในภพนี้ จะทำให้ต้องจากกัน ไม่จากเป็นก็ต้องจากตาย แต่ต้องจากกันแน่ๆ หรือไม่ก็มีเหตุร้ายในครอบครัว หรือครอบครัวมีความผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่ง |
ความจริงอีกประการหนึ่ง ของคนที่มีดาว ๓ ในภพที่ ๗ |
จะทำให้เป็นคนมีความรู้สึกทางเพศรุนแรงมาก ดาว ๓ เป็นดาวที่แสดงถึงความใคร่หรือความต้องการทางกามารมณ์ คู่ครองมักจะอายุน้อยไม่ฝ่ายหญิงก็ฝ่ายชาย เป็นดาวที่ทำให้เจ้าชะตาต้องแต่งงานเร็ว หรือมิฉะนั้นต้องแต่งงานมากกว่า ๑ ครั้ง เป็นคนกล้าหาญ เพราะเหตุนี้จึงทำให้ต้องเป็นผู้นำตลอดกาล |
ดวงสตรีใดมีดาว ๓ อยู่ในภพที่ ๗ และมีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ |
ท่านว่าเจ้าชะตาจะเป็นม่ายตั้งแต่ยังสาว |
โบราณกล่าวว่า....ดาว ๓ ในภพนี้
|
จะได้รับความทุกข์ทรมานจากสุขภาพที่ไม่สมบูรณ์ |
ถ้าดาว ๓ ในภพที่ ๗ เป็นภพที่มีบาปเคราะห์เป็นเจ้าเรือน หรือดาว ๓ มีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ แม้แต่เป็นเรือนเกษตรของตนเอง คือ ราศีเมษ,พิจิก |
เจ้าชะตาก็จะสูญเสียเมีย ( ถึงแม้ว่า..จะมีความสัมพันธ์ดีกับศุภเคราะห์ ภรรยาก็จะเสียชีวิตในระยะที่เจ้าชะตายังมีชีวิตอยู่ คือ ภรรยามักจะตายก่อน ) และต้องไปอยู่ในสถานที่ที่ห่างไกลจากบ้านเกิด |
ถ้าดาว ๓ ในภพที่ ๗ สถิตในเรือน มหาอุจ หรืออยู่ในเรือนของมิตร หรือในเรือนเกษตร หรือมีความสัมพันธ์กับดาวศุภเคราะห์ หรือบาปเคราะห์ |
เจ้าชะตาจะได้รับความทุกข์จากการสูญเสียภรรยา แต่ถ้าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่เกิดขึ้น เจ้าชะตาจะมีความสัมพันธ์ทางเพศอย่างลับๆกับผู้หญิงที่มีบุคลิกลักษณะต่ำ แล้วก็จะสนุกสนานอยู่กับการมีพฤติกรรมวิตถารทางเพศ จะมีความสุขอยู่กับการดื่มสุรายาเมา |
ถ้าดาว ๓ มีความสัมพันธ์กับดาว ๗
|
เจ้าชะตาจะมีความสุขทางเพศแบบโอรัลเซ็กส์ |
ถ้าดาว ๓ มีความสัมพันธ์กับดาว ๙
|
เจ้าชะตาจะไม่สนใจกับการสมสู่กับผู้หญิงที่มีประจำเดือน |
ถ้าดาว ๓ มีความสัมพันธ์กับดาวที่ไม่เป็นมิตร |
จะมีความทุกข์โศรกกับการสูญเสียเมียอยู่เรื่อยๆ |
ดาว ๓ จะเตือนเจ้าชะตาว่า..
|
อย่าใช้ชีวิตอย่างบ้าบิ่น หรือองอาจเหิมเกริมใดๆเป็นอันขาด เพราะทางรอดหรือทางที่ได้กำไรไม่มีเลย เตือนให้เรารู้ว่า....คนเราเกิดมามีกรรมเวร มีเรื่องที่จะต้องหลีกเลี่ยงและต้องควบคุม ไม่ใช่เอาแต่ใจปล่อยเลยตามเลย ดาว ๓ บอกให้เจ้าชะตาทราบถึงกรรมเก่าและเวรกรรมที่จะต้องเผชิญ เพราะฉะนั้น เจ้าชะตาจะไม่ต้องปล่อยชีวิตให้เป็นไปโดยไม่มีการควบคุม และไม่มีสติสัมปชัญญะเป็นอันขาด |
ภพที่ ๗ หมายถึง
|
คู่ครอง หรือหุ้นส่วนในชีวิต หุ้นส่วนทางธุรกิจ และคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน หรือคนที่กำลังคบหาสมาคมอยู่กับเจ้าชะตา หมายถึง คู่ความ คู่คดีที่มีข้อพิพาทกันในศาล หมายถึงคู่ต่อสู้,คู่แข่งขันในทุกรูปแบบ จะมีชีวิตที่มีชื่อเสียงและอิทธิพลในต่างประเทศ |
ดาว ๓ ในภพที่ ๗ เป็นดาวที่ทุกคนจะต้องรู้ต้องเข้าใจให้มากที่สุดในอิทธิพลและคุณสมบัติของมัน
|
ประการแรก ต้องพิจารณาว่า..ภพที่ ๗ ที่ดาว ๓ เข้าไปสถิตอยู่นั้นไม่ได้เป็นเจ้าเรือนทุสถานะภพ การเข้าไปอยู่ในภพที่ ๗ ของดาว ๓ ก็ทำให้สบายใจได้ว่า..ไม่มีโทษรุนแรงอะไรมากนัก
ประการต่อมา ต้องดูที่กลุ่มดาวฤกษ์,นวางค์,ตรียางค์ที่ดาว ๓ เข้าไปสถิตอยู่ ว่า ให้คุณหรือไม่ให้คุณ ถ้าให้คุณ ก็ถือได้ว่า..ถ้าดาว ๓ จะให้โทษแก่ดวงชะตา ก็จะเป็นโทษที่ไม่รุนแรงหรือแก้ไขได้ หรืออาจจะให้คุณแก่ดวงชะตา ถ้าดาว ๓ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับศุภเคราะห์ในดวงเดิม และโยคเกณฑ์ที่ดีจากศุภเคราะห์ในดวงจร
ประการสุดท้าย คือ ดาว ๓ มีบาปเคราะห์มากุม,เล็ง หรือมีความสัมพันธ์อย่างหนึ่งอย่างใดหรือเปล่า |
แต่อย่างไรก็ตาม ภพที่ ๗ เป็นภพที่หมายถึง คู่ครอง |
ดาว ๓ เข้าไปสถิตในตำแหน่งนี้ ดาว ๓ จึงหมายถึง การมีคู่ครองของเจ้าชะตา (ในฐานะที่ดาว ๓ เป็นดาวที่มีความแตกหักรุนแรง เป็นดาวที่บอกถึงการเอาแต่ใจตนเอง โดดเดี่ยวและพลัดพราก ) เพราะฉะนั้น ดวงชะตาใดมีดาว ๓ เล็งเป็น ๑๘๐ ํ ต่อลัคนาเกิด จะต้องระวังอย่างมากในเรื่องของการแตกแยกในครอบครัว หรือการหย่าร้าง หรือการพลัดพรากจากกันไม่ว่าเป็นหรือตาย ซึ่งต้องพิจารณาจากดาวบาปเคราะห์ที่เข้าไปรบกวนหรือเบียนเป็นโยคเกณฑ์ร้าย หรือเข้าไปร่วมหรือเล็งกับดาว ๓ อยู่ |
ในยามที่ดาว ๓ ได้รับโยคเกณฑ์ร้าย
|
จะต้องระมัดระวังให้มากในการใช้ความคิด อารมณ์ ความมีเหตุผลให้มาก ทุกอย่างจะเปราะบางมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในระยะที่ดาว ๗ ,๘ โคจรเข้าไปร่วม หรือ เล็ง หรือแม้แต่ดาว ๓ "จร" เข้าไปร่วมหรือเล็งอยู่ก็ตาม เป็นระยะที่ประมาทไม่ได้ แม้แต่อุบัติเหตุจากการเดินทาง ไม่ว่าใกล้หรือไกล การถูกฟ้องร้องดำเนินคดีที่ร้ายแรง การผ่าตัดใหญ่ มีทางเกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น (ดาว ๓ จะให้ผลร้ายที่สุดก็คือ ในระยะที่เข้ามาเป็นดาวเสวยอายุในระบบวิมโสตรีทศา) |
นักโหราศาสตร์บางคนเชื่อว่า....
|
เจ้าชะตาที่มีดาว ๓ ในภพที่ ๗ มักจะได้เมียเด็กหรือมีคู่ครองเอ๊าะๆ และทำให้เจ้าชะตาแต่งงานเร็ว แต่ในยามที่มีบาปเคราะห์เข้ามาเป็นโยคเกณฑ์ร้าย ตัวเอ๊าะๆนั่นแหละจะหักอกและทรยศเอาได้อย่างเจ็บแสบ |
นอกจากมีความหมายที่เกี่ยวกับคู่ครองแล้ว |
ดาว ๓ ในภพนี้ ยังมีความหมายถึงความวิปริตทางเพศด้วย เพราะฉะนั้น ในกรณีที่ดาว ๓ อยู่ในตำแหน่งที่เป็นโทษ โอกาสที่จะพิจารณาความผิดปกติทางเพศย่อมเป็นไปได้มาก |
ปัญหาความร้ายกาจของดาว ๓
|
คือ ความมุทะลุ เอาแต่ใจตนเอง ความเหิมเกริม อวดกำแหง การยอมไม่ได้ การต่อสู้ที่ไม่มีวันยอมแพ้ การทะเลาะเบาะแว้ง การมีปากเสียง คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ดาว ๓ กลายเป็๋นอาชญากร เป็นโจรเป็นขโมย เหี้ยมโหด ถ้าดาว ๓ อยู่ในตำแหน่งเสีย และถูกรุมจากบาปเคราะห์ นั่นเป็นสาเหตุอีกอย่างหนึ่งสำหรับนักธุรกิจที่มีดาว ๓ อยู่ในภพที่ ๗ การแตกหัก การทรยศหักหลัง ความไม่ซื่อสัตย์ต่อกันทั้ง ๒ ฝ่าย ย่อมมีได้ ซึ่งจะนำไปสู่ความล้มเหลวในที่สุด |
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปีใดที่มีดาว ๗ ,๘ จรเข้าไปทับดาว ๓ |
ปีนั้น ระยะนั้น ให้ระวังอุบัติเหตุฉับพลัน การผ่าตัดใหญ่ ไฟไหม้บ้านหรือทรัพย์สิน ถูกโกงหรือถูกหักหลัง ถูกปล้นถูกขโมยจะต้องระวังให้มาก ไม่อย่างบใดก็อย่างหนึ่งเกิดขึ้นแน่นอน |
โบราณว่า...ดวงชะตาที่มีดาวบาปเคราะห์ประเภทนี้เข้าไป "ทับ" ไป "เล็ง" |
ท่านว่า...ให้เข้าวัดเข้าวา หรือไปบวชเสีย เป็นการแก้เคล็ด เพื่อให้ตัดขาดจากปัญหาที่จะต้องมีคู่ครอง การมีธุรกิจหรือการคบหากับผู้คน เพื่อไม่ให้เกิดผลร้ายต่อเจ้าชะตา หรือเรื่องความเป็นความตายที่อาจเกิดขึ้นได้ พูดง่ายๆ คือ ให้ไปตัดกิเลส คือ ความรัก,โลภ,โกรธ,หลง ออกไปเสียจากชีวิต จะได้หมดเวรหมดกรรม |