ดาวพุธ เทพเจ้าผู้ชาญฉลาด
ดาวพุธ เทพเจ้าผู้ชาญฉลาด
เจ้าชะตาจะเป็นคนมีการศึกษา จะแต่งงานตั้งแต่ยังอายุน้อย จะเอาใจใส่ในคัมภีร์และความรู้ทางด้านศาสนาและสิ่งศักดิ์สิทธ์ ชอบท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่างๆ จะมีความสามารถช่วยเหลือผู้คนให้พ้นจากอิทธิพลของภูติผีปีศาจ จะเป็นคนพูดเสียงเบา รู้จักให้อภัย มีจิตใจเมตตากรุณา เมื่ออายุ ๒๗ ปีจะออกจาริกแสวงบุญ จะมั่งมีทรัพย์สินเงินทอง จะประสบความสำเร็จทางด้านวิชาการที่ทำให้มีชื่อเสียง |
ถ้าดาว ๔ กุมด้วยบาปเคราะห์ หรือสถิตในเรือนของบาปเคราะห์
|
จะเป็นโรคเกี่ยวกับผิวหนัง ถุงน้ำดี เบาหวาน |
ถ้าดาว ๔ มีความสัมพันธ์ดีกับศุภเคราะห์ หรือสถิตในเรือนดาวศุภเคราะห์
|
จะเป็นคนมีสุขภาพดี ร่างกายจะมีสีสันอิ่มเอิบ จะสนใจในวิชาโหราศาสตร์ อวัยวะแขน,ขา อาจจะไม่สมประกอบ จะมีโรคเกี่ยวกับตา อายุ ๑๗ ปี จะมีเรื่องไม่ถูกกันกับน้องชาย และจะถูกหลอกลวงเอาด้วย |
ถ้าดาว ๔ สถิตในราศีมหาอุจ คือ ราศีกันย์ หรือราศีที่ดาว ๔ เป็นเจ้าเรือน คือ ราศีมิถุน |
จะได้รับความสุขเกี่ยวกับพี่ๆน้องๆ เมื่อตายไปก็จะได้ไปสวรรค์ |
ถ้าดาว ๔ มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ หรือเข้าไปสถิตในเรือนนิจ คือราศีมีน |
เจ้าชะตาจะตกนรกหลังจากตายไปแล้ว จะหมดความสุขทางกามารมณ์ และจะให้ความสนใจในเรื่องอำนาจจิตวิญญาณที่ชั่วร้าย ไสยดำ |
ถ้าดาว ๔ มีความสัมพันธ์ร้ายกับดาว ๗
|
ตาซ้ายจะมองไม่เห็น |
ถ้าดาว ๔ มีความสัมพันธ์กับดาวเจ้าเรือนอริ หรือดาวที่เป็นนิจ
|
จะมีปัญหาเกี่ยวกับตา จะทำแต่บาปกรรม จะใช้จ่ายเงินทองให้กับบุคคลที่ไม่เหมาะสม |
ถ้าดาว ๔ มีความสัมพันธ์กับศุภเคราะห์
|
จะเป็นคนมั่งคั่งและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยข้าวปลาอาหาร มีจิตใจฝักใฝ่ธรรมมะและศาสนา จะมีความชำนาญในการใช้อาวุธ ทางคณิตศาสตร์ จะมีความสุข รูปร่างอ้วนล่ำ |
ดาว ๔ หมายถึง
|
การพูด การเขียน การติดต่อ การศึกษา การเดินทางในระยะใกล้ๆ สติปํญญา ประสาทและสมอง |
ภพที่ ๑ เป็นภพแห่งการเริ่มต้นของชีวิต
|
ดาว ๔ จึงเป็นตัวการในการสร้างชีวิตตามความหมายของภพที่ ๑ ทั้งหมด เฉพาะอย่างยิ่งทางด้านประสาทและสมอง ความฉลาดไหวพริบและสติปัญญา การศึกษา ฯลฯ |
ถ้าดาว ๔ สถิตในราศีที่ดี มีความสัมพันธ์กับดาวศุภเคราะห์ดวงใดดวงหนึ่งหรือหลายดวงเป็นอย่างดี |
ทุกอย่างตามความหมายของดาว ๔ ที่มีอยู่ ก็สามารถพยากรณ์ออกไปได้อย่างไม่ต้องกลัวผิดได้ทุกๆเรื่องไปเลย ดาว ๔ นอกจากจะให้คุณครบถ้วนในทุกความหมายแล้ว ดาว ๔ ในตำแหน่งที่ดีสามารถระงับปัญหาและอุปสรรค รวมถึงโรคภัยไข้เจ็บที่เกี่ยวดาว ๔ ทุกชนิดในชีวิตเจ้าชะตาอีกด้วย |
EX. ถ้าใช้ดาว ๔ ทำนายถึงความร่ำรวยหรือการมีฐานะ หรือการมีชื่อเสียงในการพูด การเขียน หรือการติดต่อใดๆก็ตาม ถ้าภพที่ ๑ เป็นราศีสิงห์,พฤษภ และมีดาว ๔ กุมลัคน์ |
ให้ทายไปได้เลยว่า....เจ้าชะตาจะต้องทำมาหากินอย่างสบาย และจะร่ำรวยมหาศาลทีเดี่ยว เพราะดาว ๔ เป็นเจ้าเรือนทรัพย์กุมลัคน์ แต่ดาว ๔ จะมีตำแหน่งดีก็เฉพาะในราศีสิงห์เท่านั้นเอง ส่วนดาว ๔ กุมลัคน์ในราศีพฤษภ ก็คงจะร่ำรวยระดับปานกลาง เพราะไม่มีตำแหน่งรองรับ ราศีพฤษภนอกจากดาว ๔ เป็นดาวเจ้าเรือนกฎุมพะแล้ว ยังเป็นเจ้าเรือนปุตตะอีกด้วย ท่านว่า...ในฐานะที่ดาว ๔ เป็นเจ้าเรือนของภพเหล่านี้ ไม่มีอะไรที่จะต้องสงสัยว่า เจ้าชะตาจะทำมาหากินไม่ได้ และจะประสบความร่ำรวยไม่ได้ ( ดูด้วยว่ามีบาปเคราะห์เบียนหรือเปล่า) |
ถ้าหากดาว ๔ เป็นเจ้าเรือนทุสถานะภพ แล้วเข้าไปกุมลัคนา |
ดาว ๔ จะทำให้เสียหายมาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหรืออุปสรรคทุกด้านในชีวิต การทำมาหากิน ความมีศีลธรรม สติปํญญา โรคภัยไข้เจ็บล้วนเกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น จะให้โทษมากเพียงใดต้องพิจารณาว่ามีดาวบาปเคราะห์เบียนถึงหรือเปล่า แต่ที่สำคัญที่สุด ดาว ๔ ดวงนี้จะต้องไม่มีดาว ๑ เข้าไปกุมอยู่ด้วย หรือห่างจากดาว ๑ ไม่เกิน ๘º๓๐´ และจากดาว ๑ ไปแล้วไม่น้อยกว่า ๑๒º เพราะถ้าดาว ๔ ยังอยู่ในรัศมีแรงเอื้อมของดาว ๑ (หน้า ๑๒º, หลัง ๘º๓๐´) เรียกว่า "ดาวดับ" |
ดาว ๔ ดับ
|
จะทำให้เจ้าชะตามีอุปนิสัยสันดานไปอีกอย่างหนึ่ง ตรงข้ามกับดาว ๔ ที่ให้คุณ
ถ้าเป็นเรื่องความเฉลียวฉลาด ก็จะเป็นความเฉลียวฉลาดแบบกระล่อน โกหกพกลม เจ้าเล่ห์เจ้าเหลี่ยมร้อยแปด
ถ้าเป็นเรื่องการงาน หรือการดำเนินชีวิต ก็จะเป็นไปทางด้านไม่สุจริตทุกอย่างที่จะทำได้ มีปัญหาและอุปสรรคในการทำมาหากิน
ในด้านการติดต่อกับผู้อื่น สติปัญญา แทนที่จะนำมาใช้เพื่อเป็นประโยชน์ หรือเพื่อความสุขความเจริญ ก็จะเป็นเรื่องของการนำมาทำลายตัวเอง
แม้แต่โรคภัยไข้เจ็บหนัก ที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและท้องมีได้ทั้งนั้น
ถ้ายิ่งในยามใดมีดาวบาปเคราะห์เข้ามามีความสัมพันธ์เข้าด้วยแล้ว จะให้โทษมาก
ดาว ๔ ในลักษณะนี้ มีทางที่จะทำให้เจ้าชะตาใฝ่ต่ำ และติดการพนันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น และโอกาสที่เข้าคุกก็มีได้ด้วย |
ดาว ๔ ในด้านร้ายในภพที่ ๑
|
จึงห้ามไม่ให้ทำนิติกรรมใดๆกับใคร หรือเซ็นชื่อในเอกสารสัญญาใดๆกับใคร แม้ว่า...ทุกอย่างจะทำด้วยความสุจริตใจเพียงใดก็ตาม และในยามที่ดาว ๔ ถุกทำลายโดยบาปเคราะห์ และหรือได้รับโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ อันตรายที่จะเกิดจากดาว ๔ มีได้ง่ายมาก |
หลักเกณฑ์พื้นฐานของวิชาโหราศาสตร์ ที่โหรต้องพึงสังวรไว้เสมอ ได้แก่
|
๑..จะต้องทำความเข้าใจคุณสมบัติและหน้าที่ของดาวแต่ละดวง ในด้านการให้คุณและให้โทษแก่ดวงชะตาให้ชัดเจนเป็นหลักเอาไว้เป็นเบื้องต้น เช่น เมื่อพูดถึงดาว ๔ ในแต่ละภพ ก็จะต้องแน่ใจว่า..ดาว ๔ หมายถึงอะไรบ้าง และมีคุณสมบัติประการใด? ดาว ๔ ให้คุณและให้โทษเพราะอะไร หรืออยู่ในลักษณะไหน?
|
๒..ราศีที่ดาว ๔ เข้าไปสถิต แต่ละราศีมีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน ให้คุณและโทษแก่ดาวแต่ละดวงไม่เหมือนกัน ( ราศีแต่ละราศีจะมีธาตุไม่เหมือนกัน แต่ละราศีจะมีคุณสมบัติหรือให้คุณให้โทษตามลักษณะของธาตุ )
ดาว ๔ เป็นเจ้าเรือนธาตุลม (มิถุน) และธาติดิน (กันย์) ดาว ๔ จะให้คุณให้โทษแตกต่างกันไป จากดาว ๔ สถิตในราศีธาตุไฟหรือธาตุน้ำ |
๓..ดาวทุกดวงที่สถิตในแต่ละราศีนั้น จะต้องพิจารณาดี,ร้าย ตรงลูกนวางค์,ตรียางค์และกลุ่มดาวฤกษ์ที่เข้าไปสถิต ที่ตรงนั้นจะชี้ขาดว่า...ดาวแต่ละดวงจะให้คุณหรือให้โทษ แม้แต่ดาว ๔ ซึ่งเป็นดาวศุภเคราะห์ที่ถือว่าให้คุณ แต่ถ้าหากว่าไปสถิตตรียางค์,นวางค์และกลุ่มดาวฤกษ์ที่เป็นโทษแล้ว การให้โทษต้องมีแน่นอน อาจจะน้อยหรือมาก หรือในระยะเวลาหนึ่งเวลาใดก็ย่อมเป็นไปได้ |
๔..ดาวทุกดวงรวมถึงดาว ๔ จะต้องโคจรห่างจากดาว ๑ ไม่เกิน ๘º๓๐´ ก่อนที่จะเข้ากุมดวงอาทิตย์และจะต้องพ้นจากดวงอาทิตย์ไม่น้อยกว่า ๑๒º ไม่ว่าดาว ๔ หรือดาวทุกดวง ถ้าหากโคจรเข้าไปกุมดาว ๑ หรือดาว ๑ โคจรเข้าไปกุมถือว่า..เป็นดาวดับ ดาวที่สถิตในตำแหน่งนี้ ไม่ว่าจะสถิตในภพไหนก็ตาม ให้โทษทั้งสิ้น |
๕..ความสัมพันธ์ของดาวทั้งบาปเคราะห์และศุภเคราะห์ จะต้องคำนึงถึงโยคเกณฑ์ที่ดี ถ้ามีเชิงมุม ๙๐º, ๑๕๐º, ๑๘๐º ต่อกัน ถือว่าเป็นระยะเชิงมุมที่ร้ายให้โทษ ในขณะที่ระยะเชิงมุม ๖๐º, ๑๒๐º เป็นระยะเชิงมุมที่ให้คุณ |
๖..ดาวแต่ละดวงที่เข้าไปสถิตในภพใดๆก็ตาม จะต้องไม่เป็นเจ้าเรือนทุสถานะภพเป็นอันขาด แม้แต่ดาวศุภเคราะห์ก็ตาม การให้โทษย่อมเกิดขึ้นได้ในบางระยะของชีวิต หรือในยามที่มีโยคเกณฑ์ร้ายกับบาปเคราะห์ที่ในบางครั้งจะต้องโคจรเข้ามาสัมพันธ์ ( เจ้าเรือนทุสถานะภพ จะให้โทษเมื่อเข้ามาเป็นดาวเสวยอายุตามระบบวิมโสตรีทศา ระยะอื่นจะไม่แสดงผลร้ายหรือมีก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น) ดาวเจ้าเรือนทุสถานะภพที่เข้าสถิตเรือนต่างๆ จะให้โทษเมื่อมีโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์โคจรเข้ามาเท่านั้น |
ดาว ๔ สถิตภพกฎุมพะ
|
เป็นภพที่ หมายถึง การเงินและสังหาริมทรัพย์ของเจ้าชะตา โดยที่ดาว ๔ เป็นดาวที่มีลักษณะเคลื่อนไหวเร็ว และเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง ฉะนั้น งานการใดๆที่จะทำให้ได้เงินนั้น จะไม่เหมาะกับงานที่ต้องใช้เวลานาน แต่ต้องเป็นงานที่ต้องการความรวดเร็ว โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวกับคำพูดและต้องใช้คำพูด เช่น อาชีพทนายความ งานที่ได้เงินจากอาชีพใดอาชีพหนึ่ง เช่น งานเขียนแบบ เขียนภาพ การประพันธ์ การพิมพ์ การขายหนังสือ เครื่องเขียนแบบเรียน เป็นต้น |
ดาว ๔ เป็นดาวที่เคลื่อนไหวเร็ว เมื่อมาสถิตในภพที่ ๒ |
แม้ว่า..การได้เงินจะได้มาเร็ว แต่ก็หมดไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน ถ้าหากมีบาปเคราะห์ เช่น ดาว ๓ , ๗ , ๘ , ๐ เข้าไปมีระยะเชิงมุมที่เป็นโยคเกณฑ์ร้าย หรือกุมกัน จะทำให้การเงินของเจ้าชะตาแปรปรวนอย่างหนัก
เว้นแต่จะมีโยคเกณฑ์ดีในระยะเชิงมุม ๖๐º, ๑๒๐º แต่ก็ต้องระวังไว้เหมือนกัน ว่า...ฐานะทางการเงินของเจ้าชะตายังต้องมีปัญหาไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง มีข้อยกเว้นว่า...ถ้าดาว ๔ มีระยะเชิงมุมดีจากศุภเคราะห์ เช่น ดาว ๖ , ๕ , ๒ ( หรือภพที่ ๒ ตรงกับราศี พฤษภ,มิถุน,กรกฎ,กันย์,ตุลย์) โดยไม่มีบาปเคราะห์เบียน ทุกอย่างจึงจะไว้ใจได้ |
ถ้าดาว ๔ มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ หรือสถิตในเรือนของบาปเคราะห์ หรือเรือนที่เป็นนิจ |
จะเป็นคนที่ไม่ได้รับการศึกษา จะมีโรคลมเป็นโรคประจำตัว |
ถ้าดาว ๔ มีความสัมพันธ์กับศุภเคราะห์
|
จะเป็นคนร่ำรวยและมีการศึกษา ถ้าดาว ๔ มีความสัมพันธ์ดีกับดาว ๕ จะมีความเชี่ยวชาญทางด้านคณิตศาสตร์ จะเป็นผู้นำทางวิชาการด้านนี้ |
ดาว ๔ในภพที่ ๒
|
การทำมาหากินของเจ้าชะตา มักจะเกิดจากความคิดอ่านของตนเอง หรือความเฉลียวฉลาด ไม่จำกัดว่าเป็นงานอะไร แล้วแต่สมองจะสั่งให้ทำ จะไม่ง้องาน หรือนั่งรองาน อะไรก็ได้ที่มีทางว่าจะได้เงิน หรือมีรายได้ ดาว ๔ ในภพนี้จะทำให้มีสติปัญญาเอามาทำเป็นงานเป็นเงินได้ทั้งสิ้น |
ถ้าดาว ๔ ในภพที่ ๒ มีตำแหน่งดี และได้รับความสัมพันธ์ที่ดีจากศุภเคราะห์ |
ก็ทายไปได้เลยว่า...นอกจากจะทำมาหากินได้แล้ว จะเป็นคนร่ำรวยอีกด้วย |
ภพที่ ๒ หมายถึง การพูด
|
ซึ่งทุกวันนี้การพูดหรือการบรรยายก็เป็นอาชีพและการหาเงินได้อีกทางหนึ่ง การที่จะใช้สติปัญญาและความรู้ความสามารถในวิชาใดๆที่ศึกษาเล่าเรียนมา ก็ทำให้มีเงินมีทองได้ หรือร่ำรวยได้ |
เพราะฉะนั้น การศึกษาของผู้ที่มีดาว ๔ ในภพที่ ๒ |
จึงควรจะเป็นวิชาทั่วๆไป โดยเฉพาะวิชาที่เกี่ยวกับการพูดการเขียน การพิมพ์และสื่อสารมวลชนทุกชนิด สามารถนำมาดัดแปลงใช้หาเงินได้ทุกกรณี |
การมีดาว ๔ ในภพที่ ๒
|
ทำให้เป็นคนโอบอ้อมอารี และมีความรับผิดชอบสูง ถึงแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายมาก อย่างไรก็ตาม จะหาเงินมาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวได้โดยไม่ต้องอนาทรร้อนใจ ได้มาใช้ไป เมื่อหมดก็หาใหม่ได้ |
โบราณว่า...ดาว ๔ ในราศีมีนเป็นนิจ
|
จะทำให้อับโชคและไม่มีการศึกษา แต่ไม่ถูกต้องเสมอไป ต้องดูพิกัดของดาว ๔ ว่าสถิตอยู่ในนวางค์,ตรียางค์และกลุ่มดาวฤกษ์ที่ดีและให้คุณหรือไม่ ถ้าสถิตในนวางค์ที่ทำให้ดาว ๔ เข้มแข็ง ดาว ๔ อาจจะทำให้มีอุปสรรคทางด้านการศึกษาเล่าเรียนจากโรงเรียนบ้างก็อาจเป็นได้ (ในวัยต้น ดาวเสื่อม) |
แต่การศึกษาหาความรู้ของคนที่มีดาว ๔ อยู่ในนวางค์,ตรียางค์,ฤกษ์ที่ทำให้ดาว ๔ เข้มแข็ง |
จะทำให้เจ้าชะตาเป็นคนมีภูมิรู้และคงแก่เรียนอย่างฉกาจในหลายๆเรื่องหลายๆวิชาทีเดียว เช่นเดียวกันกับความร่ำรวยและการทำมาหากิน ก็สามารถทำได้สารพัดขอให้สนใจและลงมือเท่านั้น เป็นได้เรื่อง |
การทำนายดาว ๔ ไม่ว่าจะราศีมีนหรือราศีใดก็ตาม |
จะให้แน่นอนจะต้องพิจารณาจากความสัมพันธ์ที่ดีกับศุภเคราะห์ ไม่ว่า..จะเป็นดาว ๒ , ๕ , ๖ ดวงหนึ่งดวงใดหรือหลายดวงก็ตาม ถ้าเกิดไปกุม หรือมีระยะเชิงมุมเป็น ๐º , ๖๐º , ๑๒๐º แล้ว ทายไปในทางดีได้เลย ทายได้ทุกเรื่อง ประการแรกที่สุดก็คือ ทายลงไปว่า....คนที่มีดาว ๔ ในภพที่ ๒ ตามที่ว่านี้ จะไม่มีวันอดตายเป็นอันขาด จะไม่โง่ สามารถเอาตัวรอดได้ทุกประการ |
ดาว ๔ สถิตภพสหัชชะ
|
ทุกตำรายืนยันว่า
|
เป็นภพที่เกี่ยวกับการเดินทางในระยะใกล้ๆ เป็นภพที่ใช้ทำนายถึงการศึกษาระดับมัธยม และความรู้ทาง อักษรศาสตร์,วิทยาศาสตร์ |
ดาว ๔ ในภพนี้
|
ดาว ๔ เป็นดาวแห่งการศึกษา การใช้สติปัญญา และเชาว์ปฎิภาณ เพราะฉะนั้น ดาว ๔ จะบันดาลให้เป็นผู้สามารถใช้สติปํญญา และการเล่าเรียนศึกษาได้ทุกด้าน ทั้งการเขียน การติดต่อ การสื่อสารทุกชนิด เป็นงานที่ดาว ๔ มีความชำนาญ และสามารถทำได้ดีทั้งสิ้น |
แต่ถ้าดาว ๔ ในภพนี้ มีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ ในระยะเชิงมุม ๐º , ๙๐º , ๑๘๐º |
จะทำให้เกิดการทะเลาะกับพี่น้อง จะทำให้จิตใจฟุ้งซ่าน ขาดสมาธิ ญาติพี่น้องพึ่งพาอาศัยกันมิได้ |
แต่ถ้ามีดาวศุภเคราะห์เข้ามามีกระแสสัมพันธ์เป็นโยคเกณฑ์ร้าย |
ก็จะทำให้เกิดอุปสรรครบกวน แต่ไม่รุนแรงเท่าบาปเคราะห์ |
แต่ถ้าเข้ามามีกระแสสัมพันธ์ที่ดี เช่น ดาว ๕ , ๖ เข้ามาทับ หรือมีระยะเชิงมุม ๖๐º, ๑๒๐º กับดาว ๔ ในภพที่ ๓ |
จะส่งเสริมให้ความหมายทุกความหมายของดาว ๔ มีความเด่นชัดขึ้นอีก |
โบราณว่า....
|
เจ้าชะตาจะมีพี่น้องหลายคน และจะเป็นคนที่มีความสุขมาก จะได้เป็นเจ้าของที่ดิน จะร่ำรวย เป็นคนมีคุณธรรม เป็นคนมีบุคลิกลักษณะที่ดี |
ถ้าดาวเจ้าเรือนภพสหัชชะสถิตในตำแหน่งที่อ่อนแอ |
น้องชายจะได้รับอันตรายที่ใบหน้า และเจ้าชะตาจะเป็นคนขี้อาย |
ถ้าหากเจ้าเรือนภพที่ ๓ อยู่ในตำแหน่งที่เข้มแข็ง |
เจ้าชะตาจะมีอายุยืน |
ดาวทุกดวง
|
ไม่มีดวงไหนที่เลวไปเสียทั้งหมด |
ดาวทุกดวง
|
ไม่มีดาวดวงไหนที่ดีไปทั้งหมดและร้ายไปทั้งหมด |
ทุกดวงดาวจะให้คุณและให้โทษเท่าๆกัน
|
ในยามที่ให้จะให้คุณให้โทษ ก็จะไม่มีทางให้คุณและให้โทษแก่ดวงชะตาไปทั้งชีวิต มันจะมีระยะเวลาและจังหวะของมัน |
ดาวที่จะให้คุณให้โทษแก่ดวงชะตาหรือไม่นั้น ขึ้นกับตำแหน่งที่มันสถิตในดวงชะตา ไม่ว่าจะอยู่ราศีไหนจะให้คุณให้โทษได้เหมือนกันทั้งสิ้น |
และที่สำคัญ คือ
|
จะต้องไม่มีความสัมพันธ์ร้าย หรือมีระยะเชิงมุมที่ขัดแย้งกับดาวดวงอื่น ไม่ว่า... จะเป็นบาปเคราะห์หรือศุภเคราะห์ |
ดาวแต่ละดวงนั้น
|
ต้องไม่มีโยคเกณฑ์ร้ายกับดาวบาปเคราะห์เป็นอันขาด |
ความหมายของภพสหัชชะในปัจจุบัน
|
คือ สภาพของความคิดจิตใจ ความสามารถ ความทรงจำ เชาว์ปัญญา แนวโน้มทางด้านการศึกษาหาความรู้ |
ถ้าดาว ๔ ไม่มีโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ใดๆ และสถิตในตำแหน่งที่ถูกต้องตามกฎ |
หลับหูหลับตาทายไปได้เลยว่า....มันจะให้ผลดีทั้งสิ้น ประการแรกที่น่าจะพยากรณ์ได้ คือ ความเฉลียวฉลาดทันคนทันโลก คิดเป็นทำเป็นโดยไม่ต้องให้ใครมาสั่งสอน เห็นอะไรนึกอะไรขึ้นมาได้ ก็สามารถจะประดิษฐ์คิดทำขึ้นมาได้ทุกอย่าง |
ภพที่ ๓ เป็นภพที่เกี่ยวกับการศึกษาเล่าเรียนและการเรียนรู้ |
ภพนี้จะทำให้สามารถเรียนอะไรก็ได้อย่างไม่ต้องใช้ความสามารถอะไรมากนักก็จะรู้จะเข้าใจได้ (ถ้าดาว ๘ ในดวงดีด้วยแล้ว จะเก่งมากทางด้านภาษาต่างประเทศ) |
ภพที่ ๓ เป็นภพที่เกี่ยวกับการเรียนระดับมัธยม |
ผู้ปกครองไม่มีความจะจำเป็นจะต้องห่วงเรื่องไปเที่ยวตีรันฟันแทงกับคนอื่น หรือไปติดยา ขอเพียงแต่ให้การสนับสนุน และคำแนะนำที่ดีเท่านั้นก็ไปได้ ถ้าดาว ๓ ในดวงไม่ให้โทษ ก็สามารถเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงได้สบายมาก |
ภพที่ ๓ มีความสัมพันธ์กับภพที่ ๕ และเล็งไปถึงภพที่ ๙ ซึ่งเป็นภพที่หมายถึงการศึกษาในระดับสูง และการศึกษาต่อในต่างประเทศ
|
ถ้ามีดาว ๙ ร่วมในภพที่ ๓ หรือดาว ๙ อยู่ในภพที่ ๙ อาจจะต้องไปอยู่ในต่างประเทศ หรือทำงานในต่างประเทศ |
ถ้าดาว ๔ สถิตในตำแหน่งเสีย หรือมีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ |
คุณสมบัติทุกประการของดาว ๔ จะไม่สมบูรณ์ จะมีลักษณะบกพร่อง หรือกลับหน้ามือเป็นหลังมือ การทำมาหากิน หรือการศึกษาเล่าเรียนจะมีปัญหาและอุปสรรค ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร |
นอกจากการศึกษาแล้ว ภพที่ ๓ ยังมีความหมายที่สำคัญมาก |
คือ การติดต่อสื่อสาร การเป็นนักธุรกิจทุกๆด้าน การเป็นนายหน้าและตัวแทนทั้งภายในและนอกประเทศ ทำให้มีอาชีพที่ดี ประสบความสุขความมั่งคั่งร่ำรวยได้โดยไม่ยากเย็นนัก |
ดาว ๔ จะบันดาลให้มีคนช่วยเหลืออุปถัมภ์ค้ำชู และให้ความร่วมมือได้ตลอดชีวิต |
เพราะภพสหัชชะ เป็นภพที่บอกถึงการช่วยเหลือจากคนอื่นที่เรียกว่า " สหายตุภาวะ" เมื่อดาว ๔ เข้ามาสถิตอยู่ในภพนี้ ก็เหมือนเพื่อนเก่าและบุญเก่า มานอนรอให้ความช่วยเหลืออยู่ที่ประตูบ้านอยู่แล้ว จะเซ่นหรือไม่เซ่นไหว้ ดาว ๔ ดวงนี้จะให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าชะตาอย่างไม่ยอมเหน็ดเหนื่อย |
ดาว ๔ เป็นดาวที่มีการเคลื่อนไหว คล่องแคล่ว ผสมกลมกลืน |
ดาว ๔ จะช่วยให้เจ้าชะตาเป็นคนมีความสามารถพิเศษทางด้านการติดต่อสื่อสาร การเป็นตัวแทน นายหน้า การเขียนหนังสือ งานเกี่ยวกับวรรณคดีและอักษรศาสตร์ ผู้จักการธุรกิจทุกประเภทไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ขอให้ดาว ๔ สถิตในตำแหน่งที่ดีเสียอย่างเดียวเท่านั้น ให้ทายไปได้เลยว่า...ปัญหาที่เกี่ยวกับการพึ่งพาอิทธิพลของดาว ๔ จะไม่มีอย่างเด็ดขาด ดาว ๔ จะส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จในชีวิต |
เจ้าชะตาที่มีดาว ๔ ในตำแหน่งนี้
|
งานการใดๆที่เกี่ยวกับการเดินทางและติดต่อกับผู้คนแล้ว ไม่ว่า..จะเป็นเพื่อธุรกิจหรือการท่องเที่ยวก็ตาม จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ไม่ว่า....จะเป็นสติปัญญา การเงิน เกียรติยศชื่อเสียงความเคารพนับถือจากบุคคลอื่น |
ถ้าดาว ๔ สถิตในตำแหน่งเสื่อม หรือมีความสัพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ |
ระวัง! จะเป็นคนกระล่อน หน้าไหว้หลังหลอก คดในข้องอในกระดูก หลอกลวงคบไม่ได้ |
ดาว ๔ สถิตภพพันธุ
|
ท่านว่า...เจ้าชะตามักจะไม่อยู่ในที่หนึ่งที่ใดเป็นประจำ วันนี้อยู่ที่นี่ พรุ่งนี้ย้ายไปอยู่ที่โน่น ธุรกิจการงานมีความเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน |
บางตำราว่า...
|
ชอบสะสมหนังสือตำรับตำราต่างๆ สนใจในการจัดตั้งสถานศึกษา มีสมองดีในด้านการศึกษา |
ถ้าดาว ๔ สถิตในตำแหน่งที่เข้มแข็ง
|
จะส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จในความปรารถนาทุกอย่างตามความหมายของดาว ๔ หรือถ้ามีศุภเคราะห์เข้ามามีระยะเชิงมุม ๖๐º , ๑๒๐º ก็ถือว่าใช้ได้เหมือนกัน |
ถ้าหากว่า..ดาว ๔ สถิตราศีธาตุน้ำ ถ้าได้โยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์ |
จะทำให้มีชื่อเสียงในการประพันธ์ |
แต่ถ้าดาว ๔ สถิตราศีธาตุน้ำ แต่ไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีจากศุภเคราะห์ กลับได้รับกระแสสัมพันธ์ในลักษณะโยคเกณฑ์ร้ายจากดาวบาปเคราะห์ หรือมีบาปเคราะห์กุม มีระยะองศาประชิด หรือมีระยะเชิงมุมเป็น ๙๐º , ๑๘๐º |
จะทำให้เป็นคนไม่จริงจังในการกระทำใดๆ หรือเป็นคนจับจด จะทำทุกอย่างในลักษณะนักคิดนักฝันแบบสร้างวิมานในอากาศ ทำให้เกิดความลังเล คิดวุ่นวายจนอาจเสียการ |
ดาว ๔ ในภพนี้
|
ทำให้ชีวิตในบั้นปลายมักจะมีการเปลี่ยนแปลงและเดินทางมาก แต่จะเป็นผลดีหรือเลวอย่างไรนั้น ก็ให้พิจารณาจากตำแหน่งของดาว ๔ และความสัมพันธ์ดีร้ายกับดาวบาปเคราะห์หรือศุภเคราะห์ที่เข้ามามีความสัมพันธ์กัน |
แน่นอนที่สุด เช่นเดียวกับการพิจารณาดาวใดๆในภพอื่นๆ จะพิจารณาดาวดวงเดียวไม่ได้ ต้องพิจารณาลัคนา,ดาว ๑ , ดาว ๒ ในพื้นดวงชะตาประกอบด้วย ถ้าหากลัคนา ดาว ๑ ในชะตาสถิตในตำแหน่งที่ดี ได้รับความสัมพันธ์ที่ดี ก็ย่อมจะสนับสนุนให้คำทำนายดาวในแต่ละดวงแต่ละภพในด้านดี มีความถูกต้องและชัดเจนยิ่งขึ้น |
ถ้าหากเจ้าเรือนพันธุ มีความสัมพันธ์กับดาว ๗ , ๘ , ๙
|
เจ้าชะตาจะสูญเสียยวดยานพาหนะ จะไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง จะได้รับความขมขื่นจากญาติพี่น้อง และการหลอกลวง |
ภพที่ ๔ ถือว่า...เป็นภพที่ต่ำที่สุดในดวงชะตาคน
|
จะไม่ให้คุณเป็นที่ประทับใจอะไรนัก เมื่อเทียบกับภพที่ ๑๐ ซึ่งถือว่า...เป็นภพที่ให้คุณสูงสุด ดาวอะไรก็ตามที่เข้าไปสถิตในภพที่ ๑๐ ถือว่า...เป็นดาวที่เด่นที่สุดในดวงชะตา และมีอิทธิพลสูงสุดในดวงชะตา |
แต่ความจริง ภพที่ ๔ ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการนำมาทำนายทายทักดวงชะตาคน |
เพราะว่า..ภพที่ ๔ จะบอกกล่าวเรื่องราวต่างๆในชีวิตคนได้ในหลายแง่หลายมุม ไม่น้อยกว่าภพอื่นๆ |
ภพที่ ๔ นอกจากใช้ทำนายเกี่ยวกับเรื่องของแม่แล้ว
|
ในปัจจุบันยังใช้ทำนายถึง ครอบครัวและความเป็นไปในครอบครัว ที่ดิน บ้านเรือนที่เป็นมรดกตกทอดมา หนี้สินและภาระเกี่ยวกับบ้านและที่ดิน การทำมาหาได้ของเจ้าชะตา หมายถึง การชำระหนี้สินเกี่ยวที่อยู่อาศัย |
ดาว ๔ เป็นดาวศุภเคราะห์ เพราะฉะนั้น เมื่อดาวศุภเคราะห์เข้าไปสถิตในภพใด
|
ถือว่า...จะไม่ให้โทษใดๆ หรือจะมีแต่ให้คุณเท่านั้น |
ดาว ๔ ที่มีกรรม ก็คือ ดาว ๔ ที่มีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ นอกเหนือไปจากที่สถิตในตำแหน่งที่ไม่ดี รวมถึงกลุ่มดาวฤกษ์,นวางค์,ตรียางค์แล้ว |
ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ อุปสรรคต่างๆ ความผิดปกติที่เกิดขึ้นในครอบครัว ญาติพี่น้อง และที่อยู่อาศัย จะมีการคดโกง หรือมีการฟ้องร้องเป็นคดีความ |
ภพที่ ๔ เป็นภพที่มีระยะเชิงมุม ๑๘๐º กับภพที่ ๑๐
|
เพราะฉะนั้น ดาว ๔ ที่ได้รับการกระทบกระเทือนในทำนองนี้ จะเกี่ยวพันไปถึงการงานที่ทำอยู่ หรือจะมีเรื่องที่ไม่ดีในที่ทำงาน หรือในการทำงานก็ย่อมได้ |
เป็นที่ทราบว่าไม่มีดาวใดจะให้ร้ายไปตลอด มันจะให้โทษเป็นบางครั้งบางระยะเท่านั้น นั่นก็คือ ระยะที่ดาว ๔ ไปมีโยคเกณฑ์ร้ายกับดาวบาปเคราะห์ ที่จะเวียนวนกันโคจรเข้ามาทับมาเล็ง เช่น ดาว ๘ , ๓ , ๑ , ๗ ซึ่งจะให้โทษหนักหรือเบา ช้าหรือนานประการใดนั้น ก็จะต้องไปพิจารณาจากดาวเสวยอายุในระบบวิมโสตรีทศา |
การให้คุณของดาว ๔ ยาวนานเท่าใด มากน้อยเพียงใด
|
ก็ขึ้นอยู่กับดาวเสวยอายุที่ว่านี้เหมือนกัน |
ภพที่ ๔ ยังมีความหมายที่จะนำมาทำนายได้อย่างน่าเชื่อถืออีกด้านหนึ่ง คือ ด้านการเงิน |
การมีเงิน การหาเงิน การใช้เงิน การหมุนเงิน หนี้สิน เพราะว่า...ภพที่ ๔ จะเป็นภพตรีโกณกับภพที่ ๑๒ และภพที่ ๘ ในขณะเดียวกันภพที่ ๘ ก็เป็นภพตรงข้ามกับภพที่ ๒ ซึ่งเป็นภพที่เกี่ยวกับการเงิน จากความสัมพันธ์ของภพเหล่านี้ พอจะมองเห็นภาพทางการเงินของเจ้าชะตาได้อย่างชัดเจน |
ถ้าภพที่ ๔ เป็นภพที่มีดาวศุภเคราะห์อย่างดาว ๔ เข้าสถิต
|
ทุกๆภพที่เกี่ยวข้องก็จะได้รับอิทธิพลในทางดีจากดาว ๔ ในภพที่ ๔ อีกด้วย |
เพราะอิทธิพลของดาว ๔ ในภพที่ ๔ นี้เอง ที่จะให้อิทธิพลแก่ภพที่ ๒ หรือเสริมความเข้มแข็งของภพที่ ๒ ( ถ้ามีศุภเคราะห์สถิตอยู่ ) หรือจะช่วยบรรเทาความอับโชคของภพที่ ๒ ( ถ้าหากมีบาปเคราะห์สถิตอยู่ ) |
ซึ่งจะหมายถึงว่า...ภพที่ ๒ จะแข็งขึ้นพอที่จะให้คำตอบได้ว่า...เจ้าชะตาจะหาเงินได้ไม่ยากนัก ไม่ว่าจะติดต่อค้าขายหรือกู้ยิมจากสถาบันการเงิน ก็สามารถพูดได้ |
ในขณะเดียวกันภพที่ ๔ จะส่งอิทธิพลไปถึงภพที่ ๘ อันเป็นภพที่เกี่ยวกับการได้เงินเสียเงินอีกภพหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นเงินบำเหน็ดบำนาญ เงินปันผล ส่วนแบ่งจากการร่วมทำมาหากินกับหุ้นส่วน ซึ่งอิทธิพลของภพที่ ๔ จะบอกได้ว่า... |
เจ้าชะตาจะได้รับเงิน หรือจะหาเงินได้โดยไม่มีอะไรขัดข้อง หรือไม่มีอุปสรรคแต่ประการใด |
เมื่อพิจารณาภพที่ ๑๒ ซึ่งเป็นภพของการใช้จ่ายและการชำระหนี้สิน |
ถ้าภพนี้ได้รับอิทธิพลจากบาปเคราะห์ เป็นอันว่า เจ้าชะตาจะดือดร้อนเรื่องเงินและหนี้สินอย่างหนัก ไม่มีทางออกเอาเลย |
แต่ถ้าดาว ๔ ซึ่งสถิตภพที่ ๔ ซึ่งเป็นภพที่มีความสัมพันธ์กับภพที่ ๑๒ |
ก็สามารถทายออกไปได้ว่า....ไม่ว่าหนี้สินหรือค่าใช้จ่ายในครอบครัวจะมากน้อยเพียงใด ก็ไม่มีอะไรน่าวิตก |
ในยามใด ถ้ามีศุภเคราะห์โคจรเข้าไปทับหรือมีโยคเกณฑ์ที่ดีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นดาว ๒ , ๔ , ๕ ,๖ |
ดาว ๔ ก็จะให้คุณสุงสุดในด้านการติดต่อ การซื้อขาย การขยายตัวของธุรกิจที่เกี่ยวข้องอยู่อย่างได้ผลดีทีเดียว จะซื้อที่ดินหรืออาคารบ้านเรือนและลงมือปลูกสร้างอะไรก็ทำได้ |
ระวังแต่ดาว ๔ ที่อยู่ในตำแหน่งที่เสื่อม หรือมีระยะเชิงมุมร้ายกับดาวเคราะห์อื่นๆ หรือการกุม,การทับด้วยบาปเคราะห์ |
การทายต้องเป็นตรงกันข้ามจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว คือ ไม่ว่า...จะทำมาหากินอะไรก็มักมีอุปสรรคและมีปัญหาเสมอไป เรื่องที่ไม่ควรจะเป็นจะเกิดมันก็เป็นก็เกิด การหักหลัง ฉ้อโกง หรือการฟ้องร้องแย่งชิงกันก็จะเกิดขึ้น ถ้าหากเจ้าชะตาไม่โกงคนอื่น คนอื่นก็จะโกงเจ้าชะตา ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับชีวิตในด้านนี้จะไม่ราบรื่น |
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภพที่ ๔ หมายถึง นิสัยสันดานและอารมณ์
|
ดาว ๔ ในตำแหน่งที่เสื่อม จะทำให้เป็นคนมีนิสัยเห็นแก่ได้ ฉลาดในทางเอารัดเอาเปรียบ คดโกง หลอกลวง เจ้าเล่ห์เพทุบาย คบไม่ได้ไว้ใจไม่ได้ ทำให้ไม่ได้รับความเคารพนับถือ ไม่มีเกียรติ |
ในขณะที่ดาว ๔ ในตำแหน่งที่ดี
|
จะทำให้เจ้าชะตาเป็นผู้มีเกียรติ มีนิสัยใจคอเป็นที่น่านับถือ และได้รับความเคารพ ได้รับความร่วมมือจากทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการทำมาหากินหรือด้านใดๆ |
ดาว ๔ สถิตภพปุตตะ
|
เจ้าชะตาจะสนใจในธุรกิจด้านการค้าขายหรือการลงทุน แต่ไม่เหมาะกับการลงทุนในด้านการพนัน แมัจะเป็นภพที่มีความหมายใกล้เคียงกับการเสี่ยงโชค แต่เพราะความเลื่อนไหลและความไม่หยุดนิ่งของดาว ๔ การลงทุนควรจะเป็นการค้าที่เปลี่ยนมือไปมาอย่างรวดเร็ว หรือต้องทำในระยะเวลาที่สั้นที่สุด |
ถ้าดาว ๔ ในภพที่ ๕ สถิตในราศีที่เสื่อม หรือมีบาปเคราะห์จรเข้ามามีโยคเกณฑ์ในระยะเชิงมุม ๐º , ๙๐º , ๑๘๐º |
ท่านให้ระวังการหมุนเงิน เพราะจะทำให้ถูกฉ้อโกง การลงชื่อในสัญญาใดๆจะก่อให้เกิดโทษ บางทีอาจจะทำให้ถูกฟ้องร้องเป็นคดี มีความรักไม่แน่นอน |
แต่ถ้าดาว ๔ ตั้งอยู่ในราศีที่ดี หรือได้รับกระแสสัมพันธ์ที่ดีจากศุภเคราะห์ในดวงเดิม |
จะมีบุตรที่เฉลียวฉลาด จะชอบอ่านหนังสือเรื่องรักๆใคร่ๆ มักจะมีวิตกกังวลอยู่นิดหน่อย |
แต่ไม่ควรมีดาว ๖ เข้าเกี่ยวข้อง ไม่ว่ากุมหรือมีความสัมพันธ์ในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง |
เพราะจะทำให้เป็นคนใจง่าย และเบื่อง่ายหน่ายเร็ว จะมีความรักและมีคู่สมสู่ทดลองไปเรื่อยๆ ได้แล้วก็เลิกกันไป ไม่ช้าก็หาใหม่ต่อไปอีก |
โดยมากภพนี้มักจะเกี่ยวข้องกับการมีลูก
|
ซึ่งว่าไปแล้วการมีลูกหรือไม่มีลูกนั้น ไม่อาจจะทำนายจากการพิจารณาจากภพที่ ๕ เพียงภพเดียว หรือมีดาวดวงใดดวงหนึ่งในภพที่ ๕ |
แต่เกี่ยวกับการมีบุตรนั้น โบราณให้ดูจากลัคนาเกิด และดาว ๕ อีกทั้งดาว ๖ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องนำมาพิจารณาอีกด้วย |
เพราะดาว ๖ นอกจากจะหมายถึงมดลูกและรังไข่แล้ว ยังหมายถึงการสมสู่ระหว่างชายหญิงด้วย หรือดาว ๖ เป็นดาวที่จะทำให้เกิดโชคดีในดวงชะตาหรือไม่ |
ภพแต่ละภพมีความเกี่ยวข้องกันใน ๒ ลักษณะ คือ
|
ลักษณะแรก เป็นภพที่หักล้างทำลายกันหรือเป็นปฎิปักษ์กัน
อีกลักษณะหนึ่ง คือ ภพที่ส่งเสริมและสนับสนุนซึ่งกันและกัน |
ภพที่ ๕ มีความสัมพันธ์และส่งเสริมภพที่ ๙ และภพที่ ๑ ในฐานะที่เป็นตรีโกณต่อกัน |
ผลดีผลร้ายที่เกิดขึ้นในภพหนึ่ง จะกระทบกระเทือนไปถึงอีกภพหนึ่ง เพราะฉะนั้น การพิจารณาภพที่ ๕ จึงต้องดุภพที่ ๑ และภพที่ ๙ ด้วย ชีวิตคนจะดีจะชั่ว หรือจะมั่นคงแข็งแรงประการใด หรือมากน้อยแค่ไหน |
จะต้องดูที่ภพที่ ๑ หรือลัคนาเกิด ตำแหน่งที่ลัคนาสถิตและดาวที่กุมอยู่ จะบอกให้รู้ในเบื้องต้นว่า..... |
เจ้าชะตาจะมีชีวิตอย่างไร |
ต่อจากนั้นต้องมาพิจารณาภพที่ ๙ เพื่อตรวจดูว่า.....
|
เจ้าชะตาจะมีบุญวาสนา หรือมีเคราะห์กรรมประการใดบ้าง ในการที่จะสนับส่งเสริมหรือทำลายความเจริญรุ่งเรืองของชีวิต เพราะว่า...ภพที่ ๙ เป็นภพที่บอกถึงกรรมเก่า หรือที่เรียกว่า " ปุพเพกตะบุญญะตา" |
ภพที่ ๕ จะเป็นภพที่ส่งเสริมเพิ่มกำลังให้ภพทั้ง ๒ ภพที่กล่าวมาแล้ว เข้มแข็งหรืออ่อนแอ
|
ก็จะขึ้นอยู่กับดาวที่เข้าไปสถิตอยู่นั่นเอง |
ถ้าเป็นดาวศุภเคราะห์สถิตในภพที่ ๕
|
จะให้คุณส่งไปถึงภพที่ ๑ และภพที่ ๙ |
ในทำนองเดียวกัน ถ้าภพที่ ๕ มีบาปเคราะห์สถิตอยู่ ก็ให้แน่ใจได้เลยว่า... |
ทั้งภพที่ ๑ และภพที่ ๙ จะได้รับผลกระทบจากดาวบาปเคราะห์ ทำให้เกิดปัญหาขึ้นกับดวงชะตาตามอิทธิพลและความหมายของดาวนั้นๆ |
ความหมายอื่นๆของภพที่ ๕ คือ
|
การเสี่ยงโชค การลงทุน ความคิดริ่เริ่ม การวางแผนในการเสี่ยงโชคและการลงทุน การทำมาหากิน สติปํญญาและความเฉลียวฉลาด การเล่นพนันขันต่อ |
มีเพียงปัญหาเดียวเท่านั้น ที่ไม่สามารถทำนายไปทางที่ดีได้ ก็คือ ดาว ๔ สถิตในตำแหน่งที่ไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มดาวฤกษ์,นวางค์,ตรียางค์ที่ไม่ดี สถิตในเรือนของศัตรู และที่สำคัญที่สุดก็คือ ถูกกุมและมีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ |
ต้องทายไปในทางร้าย ที่ตรงข้ามคุณสมบัติที่ดีของดาว ๔ ทุกประการ |
ดาว ๔ ในภพที่ ๕ จะต้องไม่เป็นเจ้าเรือนทุสถานะภพ
|
ดาว ๔ ที่เป็นเจ้าเรือนภพเหล่านี้จะประมาทไม่ได้ ในยามใดยามหนึ่ง หรือระยะใดระยะหนึ่ง ดาว ๔ จากตำแหน่งเหล่านี้จะให้โทษแก่ดวงชะตา ที่มีเคราะห์ร้ายอย่างแน่นอน ระยะนั้นก็คือ ระยะที่ดาว ๔ ที่เป็นเจ้าเรือนเสียเหล่านี้เข้าเสวยอายุ |
ดาว ๔ สถิตภพอริ
|
ดาว ๔ ในภพที่ ๖ จะต้องระวังให้มากในการทาย ก็คือ |
ตำแหน่งที่สถิตของดาวเคราะห์ และความสัมพันธ์กับดาวบาปเคราะห์ที่มีระยะเชิงมุมต้องห้าม คือ ๙๐º , ๑๘๐º กับดาว ๔ ในภพที่ ๖ |
ปัญหาแรกที่ต้องระวัง คือ
|
การมีหนี้สิน เจ้าชะตาจะประสบความยุ่งยากในเรื่องการใช้คืน หรือการชำระหนี้สิน และมีผลกระทบไปถึงการทำมาหาได้ และการงานด้วย เพราะดาว ๔ ในภพนี้ จะเป็นตรีโกณกับภพที่ ๒ อันเป็นภพที่เกี่ยวกับการเงิน และภพที่ ๑๐ อันเป็นภพที่เกี่ยวกับการงาน นอกจากการชำระหนี้จะเป็นไปด้วยความยากลำบาก หรือชำระหนี้ไม่ได้แล้ว เงินหรือรายได้ที่จะมีได้จากภพที่ ๒ ก็ยังจะได้รับผลกระเทือนจากบาปเคราะห์ในภพที่ ๖ ด้วย และจากนั้นก็การงานของเจ้าชะตาก็จะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างมาก หรืออาจอจหางานทำได้ยาก หรือถ้าจะมีงานการทำก็ต้องเป็นงานที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก |
ประการต่อมา คือ
|
ปัญหาเรื่องสมุน บริวาร หรือคนงานที่อยู่ใต้บังคับบัญชา อย่าไว้ใจคนเหล่านี้มากนัก ความยุ่งยากและปัญหาที่เกิดขึ้นจากคนเหล่านี้จะมีได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ฉ้อโกง ทรยศ เรื่อยไปจนกระทั่งสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสียหายที่คาดไม่ถึง หรือไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสีย |
ประการถัดมา คือ
|
โรคภัยไข้เจ็บ ที่มีทางที่จะเป็นไปได้มาก เช่น โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ถุงลมโป่งพอง ตามความหมายของดาว ๔ สาเหตุที่จะเป็นโรคต่างๆเหล่านี้ได้ต้องหลีกเลี่ยง |
แต่ถ้าดาว ๔ สถิตในราศีที่ดีในภพที่ ๖ และถูกต้องตามกฎเกณฑ์อื่นๆ มีความสัมพันธ์ดีกับดาวศุภเคราะห์ในดวงเดิม และได้โยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์ในดวงจร คือ ระยะเชิงมุม ๓๐º , ๖๐º , ๑๒๐º |
จะช่วยให้เจ้าชะตามีความรู้ทางแพทย์ อนามัย สามารถทำตัวเป็นผู้นำของวงศาคณาญาติได้ เหมาะสมสำหรับทำงานทางด้านการเป็นนายหน้าและตัวแทน หรือการค้าที่เกี่ยวกับเอกสาร,หนังสือทุกชนิด |
ภพที่ ๖ ถ้าอ่านตามตำราโบราณแล้ว ก็ดูเหมือนเป็นภพที่ร้ายสำหรับดวงชะตา |
ซึ่งก็มีส่วนเป็นความจริง แต่ภพนี้ถ้ามีดาวศุภเคราะห์เข้าไปสถิตและมีความสัมพันธ์ดีกับดาวเคราะห์อื่นๆ ก็จะมีทางบรรเทาเบาบางและกลายเป็นดีได้ |
ภพที่ ๖ จะให้ร้ายจริงๆ ได้แก่
|
เจ้าเรือนของภพ และดาวเคราะห์ที่เข้าไปสถิต ทำหน้าที่เป็นดาวเจ้าการเสวยอายุในระบบวิมโสตรีทศา ผลของความร้ายจะให้โทษอย่างรุนแรงและน่ากลัว |
ภพอริ ดูเหมือนจะถือกันว่า...
|
เป็นภพที่เลวร้ายที่สุดภพหนึ่งในดวงชะตา คำทำนายส่วนมากจะ หมายถึง ศัตรู ที่จะต้องรบราฆ่าฟันกันไปตลอดชีวิต ถือเป็นภพแห่งความสิ้นหวัง และความเจ็บอย่างแสนสาหัส ถือว่า..เป็นภพแห่งเคราะห์หามยามร้าย มรอุปสรรคและความสิ้นหวัง แต่ก็มีข้อยกเว้นอื่นๆที่จะนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิตได้มากมายเหมือนกัน |
เมื่อภพนี้มีดาวศุภเคราะห์โคจรเข้าไปสถิต ถ้าได้ตำแหน่งที่ดี หรือฤกษ์ดี |
ภพที่ ๖ ก็ย่อมจะเกื้อกูลแก่เจ้าชะตามากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย |
ประโยชน์และคุณค่าของภพที่ ๖ ที่แน่นอนที่สุด คือ |
การทำงาน การมีงานทำ การเป็นลูกจ้าง และการใช้แรงงานสำหรับคนทั่วไป นายจ้างก็เหมือนกับลูกจ้างแรงงาน |
ถ้ามีดาว ๔ สถิต ก็สามารถทายได้เลยว่า....
|
จะมีการติดต่อสมัครงาน การเจรจาหรือสัมภาษณ์ การทำเงินจากงานจะไม่มีปัญหาและอุปสรรค เพราะความคล่องตัวของดาว ๔ จะทำให้ทุกสิ่งผ่านตลอด ปัญหาในการทำงาน การหางาน การที่จะมีเงินเดือนจากการทำงาน |
ภพที่ ๖ เป็นตรีโกณกับภพที่ ๑๐ ซึ่งหมายถึงการงาน
|
เพราะฉะนั้น ถ้าถามว่า..งานอะไรที่จะต้องทำ จะให้ความสำเร็จความร่ำรวย หรือความยากง่ายแค่ไหนเพียงไร ก็ต้องดูภพที่ ๑๐ เพื่อหารายละเอียดประกอบกัน หรือการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ถ้าหากภพที่ ๖ เสีย หรือมีดาวร้ายที่ไม่ใช่ศุภเคราะห์อย่างดาว ๔ เข้าไปสถิต ก็ขอให้เชื่อได้ว่าภพที่ ๑๐ จะมีปัญหา หรือได้รับผลกระทบกระเทือนจากภพที่ ๖ เพราะฉะนั้นภพที่ ๖ก็ย่อมจะหมายถึงการงานของเจ้าชะตาได้เช่นเดียวกันกับภพที่ ๑๐ |
ดาวศุภเคราะห์ใดๆสถิตอยู่ในภพที่ ๖
|
ก็ย่อมให้ผลดีแก่ภพที่ ๑๐ |
ยิ่งไปกว่านั้น ภพที่ ๖ ยังเป็นภพตรีโกณกับภพที่ ๒ อันเป็นภพที่เกี่ยวกับการเงิน หรือทางทำมาหาได้ของเจ้าชะตา |
ฉะนั้น เมื่อดูภพที่เกี่ยวข้องกันทั้ง ๓ ภพแล้ว ก็สามารถตอบออกมาได้ว่า...เจ้าชะตาจะมีงานทำหรือไม่มี (ภพที่ ๖) งานประเภทไหน ( ภพที่ ๑๐ ) งานนั้นจะได้เงินดีหรือไม่ (ภพที่ ๒ ) |
เมื่อเอาดาว ๔ ซึ่งสถิตภพที่ ๖ และเป็นตรีโกณเข้าไปจับ ก็สามารถบอกได้ทันทีว่า... |
งานมีทำแน่นอน และเป็นงานด้านติดต่อและใช้ความเฉลียวฉลาดและสติปัญญาของดาว ๔ เป็นส่วนใหญ่ในการทำงาน สำหรับเงินก็ได้ไม่ยากตามคุณภาพของดาว ๔ คือ ได้มาง่ายและหมดเร็ว เพราะการเปลี่ยนมือหรือการเคลื่อนไหวเร็วของดาว ๔ |
ในทำนองเดียวกัน สำหรับคนที่เป็นนายจ้าง ก็สามารถใช้ดาว ๔ ในภพที่ ๖ ทำนายได้อีกเหมือนกันว่า... |
การมีลูกจ้างหรือบริวารก็ย่อมจะได้ลูกจ้างหรือบริวารที่ดี ไม่มีทางที่จะก่อความยุ่งยากอะไรให้ |
ภพที่ ๖ หมายถึง
|
โรคภัยไข้เจ็บ และความผิดหวัง หรือโชคร้ายต่างๆ หรือแม้แต่ศัตรู ก็อาจมีได้ แต่ก็เป็นครั้งเป็นคราว เมื่อยามที่ดาว ๔ มีโยคเกณฑ์ร้ายจากดาวบาปเคราะห์ในบางระยะเท่านั้น จะมากน้อยแค่ไหนเพียงไร จะต้องพิจารณาภพต่างๆและบาปเคราะห์ต่างๆในดวงให้หมดว่า มีโยคเกณฑ์ร้ายของดาวแต่ละดวงที่มีต่อกัน หรือทำปฎิกิริยากัน มีมากน้อยแค่ไหนรุนแรงเพียงใด ให้คุณให้โทษเป็นอย่างไร? |
พูดถึงเรื่องหนี้สิน การที่ดาว ๔ สถิตในภพนี้ จะยืนยันว่า...
|
หนี้สินที่มีอยู่นั้นจะไม่เป็นเรื่องรุนแรงอะไรมากนัก จะมีการต่อรองเจรจากันได้ หรือบางทีอาจจะชดใช้คืนได้ ถ้าหากมีดาวศุภเคราะห์อย่างดาว ๖ , ๕ โคจรเข้าไปทับ หรือ เล็ง เข้าในเวลาหนึ่งเวลาใด |
เช่นเดียวกันกับโรคภัยไข้เจ็บ ถ้าหากว่า...
|
ไม่มีบาปเคราะห์ไปมีความสัมพันธ์ด้วย และไม่มีโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์โคจรเข้าไปเบียน หรือมีพื้นดวงชะตาแข็งพอ โรคภัยไข้เจ็บหนักๆก็จะไม่มี หรือถ้ามีก็สามารถรักษาให้หายได้ |
ดาว ๔ สถิตภพปัตนิ
|
คำทำนายจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ดาว ๔ สถิต คือ ดาว ๔ จะต้องมีกำลังเข้มแข็ง |
ตามคัมภีร์โบราณท่านถือเอาความเข้มแข็งของดาวที่เข้าสถิตในราศีต่างๆ เพียงกฎเกณฑ์ ๒ อย่าง คือ ตำแหน่งที่เป็นเกษตร,มหาอุจ ซึ่งตำแหน่งเหล่านี้จะมีได้ยากมากในชะตาแต่ละคน |
ถ้าดาว ๔ ไม่ได้สถิตในตำแหน่งที่เข้มแข็ง |
จะทำให่ให้คู่สมรสใจอ่อนและแปรปรวนได้ง่าย ทำให้อยู่ด้วยกันไม่ยืด |
ยิ่งถ้าดาว ๔ สถิตในตำแหน่งเสื่อมตามกฎเกณฑ์ต่างๆ |
จะทำให้เกิดผลชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้คนที่มีดาว ๔ ในภพที่ ๗ จะต้องแต่งงานบ่อยๆ คู่สมรสจะเป็นคนขี้บ่นและขี้หงุดหงิด ฉุนเฉียว ปากคอเราะร้าย ....เรื่องการทำมาหากิน ก็จะมีคู่แข่งมาก จะได้รับความเดือดร้อนเพราะข้อเขียนที่ตนชอบเขียน หรือที่รับจ้างเขียน จะมีเหตุยุ่งยากเกี่ยวกับคดีความ มักจะมีความวิตกกังวลรำคาญใจเป็นนิจศีล |
ถ้าหากดาว ๔ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับศุภเคราะห์ มีระยะเชิงมุมที่ดี เช่น ๓๐º , ๖๐º , ๑๒๐º |
แม้แต่ดาว ๗ ซึ่งเป็นบาปเคราะห์ ก็ยังช่วยให้ชีวิตสมรสของเจ้าชะตามีความมั่นคงขึ้นมาได้ ถ้ามีความสัมพันธ์ที่ว่านี้ การทำมาหากินร่วมกับผู้อื่น หรือทำธุรกิจใดๆก็ตาม ก็จะประสบความสำเร็จ เจ้าชะตาจะมีรถยนต์เป็นของตนเอง จะมีภรรยาดี จะรับประทานอาหารที่ไม่เป็นมังสวิรัติ |
ถ้าเจ้าเรือนภพปัตนิ มีตำแหน่งเข้มแข็ง
|
เจ้าชะตาจะมีภรรยาเพียงคนเดียว |
ถ้าเจ้าเรือนปัตนิ มีตำแหน่งไม่เข้มแข็ง และสถิตในเรือนบาปเคราะห์ หรือมีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ เช่น ดาว ๓ , ๗ , ๘ , ๙ |
จะเสียภรรยา ในดวงหญิงที่มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ จะทำให้เสียสามี จะได้รับความทุกข์จากโรคผิวหนัง หรือโรคเรื้อน จะมีบุคลิกภาพน่าเกลียด |
จะเห็นว่า...ดาวศุภเคราะห์สถิตในเรือนไหนก็ตาม จะทำนายในทางไม่ดีไม่ได้ ยกเว้นแต่มีความสัมพันธ์ไม่ดีกับบาปเคราะห์ |
ถ้าดาว ๔ ไม่สถิตในตำแหน่งที่เสียหาย หรือได้ฤกษ์ตามกฎเกณฑ์ และไม่มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ |
ก็ไม่น่าจะมีเหตุผลที่จะต้องทายไปในทางที่เสียหาย |
การทำนายในทางร้ายหรือให้โทษของดาว ๔ นั้น สามารถทำนายได้และให้โทษรุนแรงจริงๆ หรือทำนายแบบเอาเป็นเอาตายจริงๆ ก็เกิดจากเหตุผลเดียว คือ |
โดยตัวของดาว ๔ เองที่โคจรวิปริตไม่สม่ำเสมอบ้าง หรือสถิตอยู่ในนวางค์,ตรียางค์และฤกษ์ที่เสียบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดาว ๔ ที่โคจรเข้าไปใกล้ดาว ๑ ในระยะที่เกิดการดับ จะต้องให้ผลร้ายอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ |
เช่นเดียวกันกับดาว ๔ ที่ถูกกุม ถูกเล็ง หรือมีระยะเชิงมุมร้ายกับดาวบาปเคราะห์ |
ก็จะให้ผลร้ายเช่นเดียวกัน ผลร้ายก็คือ ปัญหาและอุปสรรคในการทำมาหากิน การดำเนินชีวิต และอาจถูกกล่าวหาใส่ความ หรือเกิดฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล และการหลอกลวงฉ้อฉลที่จะนำไปสู่ศาล และคุกตะราง |
สำหรับภพที่ ๗ นอกจากจะเป็นเรื่องของคู่ครองแล้ว
|
ดาว ๔ จะให้คู่ครองที่ดีหรือไม่ดีตามตำแหน่งฐานะที่ดาว ๔ เข้าไปสถิต |
ภพที่ ๗ หมายถึง
|
คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน เป็นคนทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นหุ้นส่วนในการทำมาหากิน หรือคนที่เข้ามาร่วมงานกัน ดาว ๔ ที่ดีจะให้ผลดีและก่อให้เกิดลาภผลทั้งสิ้น |
ในยามใดที่ศุภเคราะห์โคจรเข้าไปทับ
|
ไม่ว่าจะเป็นการทำมาหากิน การคบคน หรือการตัดสินใจมีคู่ครอง ก็จะเป็นไปด้วยความราบรื่นและเป็นผลดีทั้งสิ้น |
แต้ถ้าหากดาว ๔ ถูกทับ เล็ง และได้โยคเกณฑ์ไม่ดีแล้ว
|
ก็จะต้องทายไปในทางที่ร้ายแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำมาหากิน หรือการมีคู่ครอง การคบหาสมาคมกับบุคคลต่างๆ จะนำแต่ความเดือดร้อนและความผิดหวังมาให้ ชีวิตในครอบครัวต้องระวังการมีปากเสียง และการเข้าใจผิดให้มาก และต้องระวังการติดต่อกับผู้อื่น ความสัมพันธ์กับผู้อื่น อาจจะมีคนมาหลอกลวงและมาชวนไปสู่ความล่มจมอย่างใดอย่างหนึ่งถึงประตูบ้านก็ได้ ห้ามค้ำประกันและการทำสัญญานิติกรรมใดๆเป็นอันขาด |
ดาว ๔ สถิตภพมรณะ
|
การทำนายดาว ๔ ในภพนี้ ขึ้นกับตำแหน่งของดาว ๔ ว่าสถิตในราศีที่เข้มแข็งหรือไม่ และมีความสัมพันธ์กับดาวเคราะห์ต่างๆในดวงเดิมอย่างไร และมีโยคเกณฑ์ที่ดีกับดาวเคราะห์ต่างๆในดวงจรหรือไม่ |
ตำแหน่งที่ไม่ดีและความสัมพันธ์ร้ายในดวงเดิมและโยคเกณฑ์ร้ายในดวงจร |
โหรจะต้องทายไปในทางตรงกันข้ามตามกฎเกณฑ์ |
ความสำคัญของภพที่ ๘ เกี่ยวข้องกับการเงินเหมือนกัน |
แต่เป็นเงินที่ได้รับมาจากส่วนแบ่งจากหุ้นส่วนหรือพรรคพวกในการทำธุรกิจร่วมกัน เบี้ยบำนาญ เบี้ยประกัน หรือมรดกจากบรรพบุรุษหรือคู่ครอง |
การตายของเจ้าชะตา
|
จะเป็นไปด้วยความพร้อมหน้าพร้อมตาของวงศาคณาญาติ หรืออาจจะตายในระหว่างการเดินทาง |
ถ้าหากตำแหน่งของดาว ๔ สถิตในตำแหน่งที่เสื่อม และมีโยคเกณฑ์ร้าย |
ก็ทายไปได้ในลักษณะตรงข้ามทุกประการ ไม่ว่า...จะเป็นดวงเดิมหรือดวงจร |
ถ้าเจ้าเรือนภพที่ ๘ เข้มแข็ง และมีความสัมพันธ์กับศุภเคราะห์ |
เป็นที่แน่นอนว่า...จะเป็นคนมีอายุยืน |
ถ้าเจ้าเรือนภพที่ ๘ สถิตในราศีที่เป็น นิจ และมีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ |
จะเป็นคนอายุสั้น |
ถ้าภพที่ ๘ มีศุภเคราะห์เข้าไปสถิต
|
ก็สามารถยืนยันได้ว่า..จะไม่มีปัญหาเรื่องการทำมาหากิน ในการแสวงหารายได้และทำเงิน และในการคบหาสมาคมกับผู้คนที่จะเข้ามาร่วมทุนหรือทำมาหากินร่วมกัน ก็จะได้ประโยชน์มาก |
ถ้าภพที่ ๘ มีบาปเคราะห์เข้าไปสถิต
|
นั่นก็หมายถึงปัญหาและอุปสรรคและความอับโชค การดิ้นรนต่อสู้และความล้มเหลวก็จะเกิดขึ้นในทุกเรื่อง |
ภพที่ ๘ เป็นภพที่มีอิทธิพลไปถึงภพที่ ๒ มุมเล็ง ภพที่ ๔ , ๑๒ มุมตรีโกณ |
ดาวดีดาวร้ายใดๆที่สถิตในภพที่ ๘ จะส่งผลสะท้อนไปถึงภพที่ ๒ ,๔ ,๑๒ ด้วย ถ้ามีดาวดวงใดในภพที่ ๒ ,๔ ,๑๒ ดาวเหล่านั้นก็จะส่งผลสะท้อนไปถึงภพที่ ๘ |
ทั้งภพที่ ๒ , ๔ , ๘ , ๑๒ ส่วนใหญ่จะบอกถึงสภาพทางการเงินของเจ้าชะตาทั้งสิ้น |
บอกถึงแหล่งที่มาของเงิน บอกถึงช่องทางการหาเงิน บอกถึงผู้คนที่จะช่วยให้ได้เงิน และท้ายสุดก็จะบอกถึงค่าใช้จ่ายว่ามีการบริหารที่ดีหรือไม่ หรือใช้จ่ายแบบอีรุ่ยฉุยแฉกเพียงใดนั้น ต้องดูจากภพที่ ๔ ซึ่งเป็นภพที่หมายถึง ครอบครัว หรือแม้แต่การจะซื้อบ้าน ขายบ้าน และย้ายบ้าน ก็จะต้องดูที่ภพใดภพหนึ่งจากภพเหล่านี้ |
อย่างไรก็ตาม? จะต้องไม่ลืมว่า...ไม่ว่าศุภเคราะห์หรือบาปเคราะห์ โอกาสที่จะให้ผลร้ายมากน้อยย่อมมีด้วยกันทั้งนั้น เช่นเดียวกับดาว ๔ ในภพที่ ๘ ก่อนอื่นต้องพิจารณาว่า...ตำแหน่งที่ดาว ๔ เข้าไปสถิตในบริเวณ ๓๐º ของแต่ละราศีนั้น เข้าไปสถิตในตำแหน่งที่ดีหรือไม่ |
ที่สำคัญมาก
|
ดาว ๔ ถูกกุมด้วยดาว ๑ ที่จะทำให้ดาว ๔ เป็นดาวดับหรือไม่? |
มีบาปเคราะห์อื่นๆเข้าไปเกาะกุม หรือมีความสัมพันธ์ถึงหรือไม่ในดวงเดิม มีโยคเกณฑ์ดีร้ายจากดาวเคราะห์ใดๆหรือไม่ในดวงจร |
ถ้ามี การทำนายจะต้องระวัง ดาว ๔ จะต้องให้โทษไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งแน่นอน จะให้โทษอย่างไร? หรือรุนแรงแค่ไหน? จะต้องดูที่บาปเคราะห์ต่างๆที่มีความสัมพันธ์ในดวงเดิม และให้โยคเกณฑ์ถึงในดวงจร และตำแหน่งเดิมของดาว ๔ ในดวงชะตาด้วย |
จะให้โทษเมื่อไรและนานแค่ไหน ทางที่จะรู้ได้มีทางเดียว คือ |
ดูจากดาวเสวยอายุในระบบวิมโสตรีทศา |
ดาว ๔ สถิตภพศุภะ
|
จะเป็นผู้สนใจในลัทธิต่างๆ สนใจในวิชาอักษรศาสตร์ วรรณคดี มีญาณพิเศษ มีความสามารถจำเรื่องราวต่างๆได้ดี เก่งในการคาดคะเนเหตุการณ์ ชอบการเดินทางไกลเพื่อการศึกษาและการค้นคว้า ดวงชะตาที่มีดาว ๔ ในเรือนที่ ๙ เหมาะกับการเรียนศาสนา การบัญชี การค้า |
ถ้าดาว ๔ สถิตในตำแหน่งที่ดี มีความสัมพันธ์จากดาว ๒ , ๕ , ๖ |
จะช่วยให้เจ้าชะตามีการศึกษาสูงในสถาบันการศึกษาชั้นสูง การเดินทางไปศึกษาต่อในต่างประเทศ เหมาะสำหรับการศึกษาทางด้านพาณิชยศาสตร์ บัญชี รัฐศาสตร์ |
ภพที่ ๙ เป็นภพที่มีความสำคัญที่สุดภพหนึ่งในดวงชะตา เป็นภพที่จะให้ความสุขความสำเร็จแก่ทุกคนแน่นอน |
ถ้าหากภพที่ ๙ ไม่มีดาวร้ายสถิต ( แม้แต่ดาว ๗ , ๘ ก็จะให้คุณทุกอย่าง แม้แต่ความมั่นคงในชีวิต แต่จะให้อย่างช้าๆ เมื่ออายุมากแล้ว ได้ผ่านการต่อสู้มาอย่างหนักแล้ว หรืออาจจะเป็นดาว ๘ จะให้วิชาความรู้และการทำงานในต่างประเทศ หรือการศึกษาต่อในต่างประเทศ หรือมีลาภใหญ่ ) ไม่มีเหตุผลที่ดาว ๔ ในภพนี้จะให้โทษ |
ดาว ๔ เป็นดาวที่ให้สติปัญญาและความเฉลียวฉลาด จะทำให้สร้างเนื้อสร้างตัวได้ และสร้างความร่ำรวยอย่างไม่คาดฝันแก่เจ้าชะตาเป็นประการแรก |
โดยไม่ต้องไปทายว่า...เจ้าชะตาจะต้องมีการศึกษาหรือมีสติปัญญาที่ดี เพราะในตัวของดาว ๔ เองมันมีอยู่เรียบร้อยแล้ว เมื่ออยู่ในตำแหน่งที่ดีในภพที่ ๙ ปัญหาย่อมจะไม่มีแน่นอน |
ภพที่ ๙ หมายถึง
|
การเดินทางไกล หรือการเดินไปต่างประเทศ ทั้งการไปศึกษาและการไปทำงานเพื่อความสำเร็จของชีวิต |
ในตำราเดิมกล่าวไว้ว่า...
|
เป็นภพที่เกี่ยวกับปณิธาน เกี่ยวกับศาสนาหรือความเชื่อ เรื่องเกี่ยวกับศาลสถิตยุติธรรมและกฎหมาย หรือตำแหน่งฑูตในต่างประเทศ ดาว ๔ ที่สถิตในภพนี้มีแต่ให้สถานเดียว |
ยกเว้นแต่การทำนายในดวงจร ถ้าดาว ๔ โคจรสถิตในตำแหน่งที่เสียหาย และได้รับโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ และในดวงเดิมมีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์เท่านั้น |
ที่จะต้องระมัดระวังในการทำนาย หรือจะต้องทำนายในด้านร้ายเหมือนที่ทายพุธในภพอื่นๆที่กล่าวมาแล้ว |
ดาว ๔ สถิตภพกัมมะ
|
ถ้าตำแหน่งของดาว ๔ อยู่ในตำแหน่งกลางๆ คือ ไม่อยู่ในตำแหน่งที่ดี ไม่ได้รับโยคเกณฑ์ร้ายจากดาวเคราะห์ดวงอื่น อาชีพที่เหมาะสมที่สุด คือ |
อาชีพเกี่ยวกับงานที่เบาสมอง เช่น อาชีพข้าราชการ หรือพนักงานองค์การรัฐวิสาหกิจ หรือตัวแทนในบริษัทห้างร้านต่างๆ ครู นักหนังสือพิมพ์ นักเขียน ถ้าทำการค้าด้วยตนเอง ก็เหมาะกับการค้าที่เกี่ยวกับหนังสือ แบบเรียนเครื่องเขียน หรืองานที่ต้องอาศัยการเดินทาง หรือโรงพิมพ์ |
ถ้าดาว ๔ ได้ตำแหน่งเกษตร,มหาอุจ มีดาว ๕ , ๖ , ๑ , ๒ ดวงใดดวงหนึ่งก็ดี ได้ตำแหน่งที่เข้มแข็งและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับดาว ๔ |
จะส่งเสริมให้เจ้าชะตามีอาชีพที่มีเกียรติและชื่อเสียง เป็นนักการฑูตเป็นผู้แทนราษฎร เป็นทนายความชื่อดัง เป็นนักการเมืองที่เรียกว่า " ลิ้นทอง" มีความมั่นคงในอุดมคติ |
แต่ถ้าดาว ๔ ได้รับความสัมพันธ์ร้ายจากบาปเคราะห์ เช่น ดาว ๓ , ๗ , ๐ เหล่านี้ โดยมีระยะเชิงมุมกุมกันในระยะ ๐º , ๙๐º , ๑๘๐º จะเป็นชะตาที่น่ากลัว |
จะทำงานสิ่งใดจะไม่มีความมั่นคงถาวร จะต้องเปลี่ยนแปลงตลอดชีวิต ใฝ่ใจในงานที่ผิดกฎหมาย |
ตามปกติดาว ๔ ไม่ว่าจะอยู่ในภพที่ ๑๐ หรือกุมลัคนา
|
จะเป็นคนพูดเก่ง หรือมีวาทะศิลป์ที่มีความสามารถมาก สามารถเอาตัวรอดได้แม้ในกรณีที่ร้ายแรง ชะตาของอาชญากรหรือนักการเมืองที่รอดพ้นจากราชฑันฑ์ หรือคดีที่จะต้องประสบ มักจะมีดาว ๔ กุมลัคนา หรืออยู่ในภพที่ ๑๐ |
ถ้าดาว ๔ ในภพที่ ๑๐ เป็นเรือนของตัวเอง หรือเรือนมหาอุจ หรือมีความสัมพันธ์กับดาว ๕ |
เจ้าชะตาจะเป็นคนมีความศรัทธาเชื่อถือในศาสนา และจะมีกิจกรรมเกี่ยวกับศาสนา |
ถ้าดาว ๔ สถิตอยู่ในเรือนของศัตรู หรือมีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ |
เจ้าชะตาจะเป็นคนโง่เขลาพอใจในการทำความชั่วต่างๆ จะมีความประพฤติที่ไม่น่าคบหา |
ภพที่ ๑๐ ในดวงชะตาถือเป็นภพที่สูงสุดในบรรดาภพต่างๆ ภพที่ ๑ หรือลัคนาถือว่า... |
เป็นภพที่พระอาทิตย์กำลังขึ้น หรือเป็นตอนเช้า ภพที่ ๑๐ ก็เป็นภพที่กำลังจะเที่ยงหรือตรงศรีษะพอดี เป็นภพที่ให้คุณสูงมาก หรือเป็นภพชี้ขาดความสำเร็จในชีวิตของเจ้าชะตาในทุกๆด้าน |
ถ้าภพที่ ๑๐ เป็นราศีที่ดี และมีดาวเคราะห์ที่เป็นเจ้าราศีเข้าไปสถิต ยิ่งถือว่า.. |
ให้คุณแรงมาก |
แม้แต่ดาวบาปเคราะห์ไม่ว่า..จะเป็นดาว ๑ , ๓ , ๗ , ๘ ก็ตาม ถ้าสถิตในภพที่ ๑๐ ก็ยังถือว่า... |
ให้คุณได้มากไม่น้อยไปกว่าดาวศุภเคราะห์ แต่เป็นการให้คุณแบบทุกขลาภ หรือไม่สะดวกสบายนักเท่านั้นเอง แต่ให้คุณนั้นต้องให้อย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแต่ว่า....ดาวที่ว่าแต่ละดวงต้องไม่สถิตในตำแหน่งที่เสื่อม หรือผิดกฎเกณฑ์ใดๆ ให้ทายไปได้เลยว่า..จะให้ผลดี |
แต่ถ้าเป็นศุภเคราะห์ เมื่อเข้าไปสถิตในภพที่ ๑๐ แล้ว
|
การให้คุณก็เป็นไปตามบทบาทและอิทธิพลของศุภเคราะห์นั้นๆ คือ ให้ในลักษณะราบรื่นสะดวกสบาย ไม่มีอุปสรรค หรือไม่มีการต่อสู้ออกเหงื่อออกแรงอะไรเลย |
ภพที่ ๑๐ หมายถึง
|
เกียรติยศ ชื่อเสียง ความเคารพนับถือจากสาธารณะ อำนาจและอิทธิพล ฐานะและตำแหน่งทางการงาน ความรับผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ไม่ว่า...จะเป็นธุรกิจส่วนตัว หรืองานรับจ้าง หรือเป็นข้าราชการ จะมีตำแหน่งหน้าที่สูง หรือเป็นผู้รับผิดชอบทั้งสิ้น |
ดาว ๔ สถิตภพลาภะ
|
ดาว ๔ ในภพที่ ๑๑ แสดงว่า....
|
เจ้าชะตาเป็นคนมีสังคมมาก ชอบคบหากับคนที่มีความรู้มีวิชาการ แต่จะหามิตรแท้ได้ยาก เป็นคนที่ชอบจัดการงานที่เป็นงานบุญงานกุศล จะเป็นคนที่มีรายได้และมีความร่ำรวยจากหลายทิศทาง |
ถ้าหากดาว ๔ สถิตในเรือนของดาวบาปเคราะห์ |
เจ้าชะตาจะสูญเสียเงินทอง และมุ่งหน้ากระทำแต่กิจการอันไม่สุจริต
นอกจากดาว ๔ จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับดาวศุภเคราะห์ จะทำให้ได้คบหากับเพื่อนฝูงที่เฉลียวฉลาด เป็นบัณฑิตหรือเป็นนักประพันธ์ ถ้าสถิตในเรือนของตัวเอง หรือในเรือนที่ดาว ๔ เป็นอุจ เจ้าชะตาจะเป็นคนร่ำรวยจากการกระทำของตนเอง |
แต่ถ้าดาว ๔ อยู่ในตำแหน่งที่เสื่อม มีความสัมพันธ์ร้ายกับดาวบาปเคราะห์ |
จะทำให้มีมิตรสหายที่กลับกลอกไว้ใจมิได้ |
ภพที่ ๑๑ หมายถึง
|
ภพของผลประโยชน์และกำไรที่เจ้าชะตาจะได้รับ หมายถึงเงิน ความร่ำรวย และลาภผลที่เจ้าชะตาจะได้รับ ถ้าหากว่า..ภพนี้มีดาวศุภเคราะห์เข้าไปสถิตอย่างสวยสดงดงาม ปัญหาที่ชีวิตจะไม่มีความสำเร็จ หรือไม่สมหวังทางด้านการเงินและความไม่ร่ำรวยนั้นจะเป็นไปไม่ได้ |
ภพที่ ๑๑ มีความสัมพันธ์เป็นตรีโกณกับภพที่ ๓ และภพที่ ๗ |
ถ้าหากว่า...มีดาวศุภเคราะห์ในภพที่ ๓ และภพที่ ๗ ให้คุณสถิตอยู่ด้วยแล้ว ความชัดเจนถูกต้องที่จะทำนายในด้านดีของภพที่ ๑๑ ก็ย่อมมีมากขึ้น โยคเกณฑ์ที่ดีของภพที่ ๑๑ นอกจากจะส่งผลถึงภพที่ ๓ และภพที่ ๗ แล้ว ยังมีภพที่สำคัญอีก ๒ ภพ ในดวงชะตาที่จะได้รับส่วนกุศลจากภพที่ ๑๑ คือ ภพที่ ๕ และภพที่ ๙ |
ถ้าดาว ๔ สถิตตำแหน่งที่ดี ไม่ถูกเกาะกุมด้วยดาวบาปเคราะห์ และสถิตในนวางค์,ตรียางค์และกลุ่มดาวฤกษ์ที่เป็นศุภฤกษ์ |
สามารถหลับหูหลับตาทายไปได้ทันที เฉพาะทางด้านการเงินและความร่ำรวย และชื่อเสียงเกียรติยศของเจ้าชะตา จะต้องสมบูรณ์ทุกอย่าง |
ถ้าดาว ๔ สถิตในตำแหน่งที่เสีย หรือมีความสัมพันธ์ร้ายจากดาวเคราะห์ดวงใดดวงหนึ่งก็ตาม |
อาจจะทำให้เกิดอุปสรรคและปัญหา หรือมีเคราะห์ร้ายได้ในชีวิต เป็นการให้โทษของดาว ๔ ซึ่งค่อนข้างมีความรุนแรงไม่น้อยอีกเหมือนกัน แต่ไม่ต้องผลีผลามทาย ควรพิจารณาให้ดีว่า...มีดาวศุภเคราะห์ให้โยคเกณฑ์ถึงหรือเปล่า เพราะดาวศุภเคราะห์ที่มีระยะเชิงมุมดีต่อดาว ๔ ที่กำลังอยู่ในตำแหน่งเสีย หรือได้รับเคราะห์นั้น จะให้ความช่วยเหลือหรือผ่อนหนักเป็นเบาได้จากการให้โทษของดาว ๔ บางลักษณะอาจจะช่วยให้ดาว ๔ ให้ประโยชน์ได้อย่างมากโดยไม่คาดหมายอีกด้วย หรืออย่างน้อยก็จะทำให้เคราะห์ร้ายหรือการให้โทษของดาว ๔ เบาบางลง |
ดาว ๔ สถิตภพวินาศ
|
ถ้าหากดาว ๔ อยู่ในตำแหน่งที่ดีเด่น หรือได้รับกระแสสัมพันธ์เป็นโยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์ |
จะทำให้เจ้าชะตาสนใจในวิชาลี้ลับ
โบราณว่า...จะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยไปในเรื่องการทำบุญทำทานและด้านศาสนา และจะมีการศึกษาไม่มากนัก |
แต่ถ้าดาว ๔ อยู่ในตำแหน่งที่เสื่อม คือ ได้รับโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ |
เจ้าชะตาจะมีศัตรูมาก ชอกคิดหักหลังและหลอกลวง ชอบเขียนบัตรสนเท่ห์ให้ร้ายผู้อื่น ถ้าสนใจในวิชาจิตศาสตร์หรือไสยศาสตร์ จะทำให้เสียสติไปได้ ผู้มีดาว ๔ เสียในดวงเช่นนี้ให้ระวังการเซ็นชื่อในเอกสารต่างๆ อาจจะนำความเดือดร้อนมาให้ในภายหลัง
โบราณว่า...จะเป็นคนมีจิตใจอ่อนไหวไม่มั่นคง และจะได้รับความขมขื่นจากเจ้าบ้านผ่านเมือง |
ภพที่ ๑๒ ซึ่งถือว่า...
เป็นภพวินาศ
........................
|
เป็นภพที่สิ้นสุดของทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยทำมาหาได้ในชีวิต หรือได้รับความสำเร็จในชีวิต หรือเป็นภพที่จะต้องมีการเสียสละ การหมดทางที่จะแสวงหาโอกาสและแสวงหาผลกำไร ไม่ว่าดาวเข้าไปสถิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าดาวร้ายเข้าไปสถิตแล้ว มักจะถูกหักหลังหรือมีศัตรูคอยล้างผลาญหรือคอยทำลาย หรือมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน แต่ถ้าเป็นดาวศุภเคราะห์เข้าไปสถิตอยู่แล้วไม่เคยปรากฎว่า...จะมีโทษภัยอะไรมากนัก แม้แต่ดาว ๑ เป็นวินาศ ก็สามารถให้เกียรติยศชื่อเสียง และประสบความสำเร็จได้ ถ้าหากดาวที่เข้าไปสถิตเป็นวินาศไม่ถูกทำลายด้วยบาปเคราะห์ หรือมีระยะเชิงมุมร้ายเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้น การที่ดาวเข้ามาสถิตในภพที่ ๑๒ นั้น ไม่น่าจะต้องทำนายไปในทางที่เลวเสมอไป |
พูดถึงการศึกษา
|
ดาว ๔ ไม่ได้เกี่ยวกับการศึกษาหรือการไปเรียนหนังสือเพื่อเอาประกาศนียบัตร แต่ดาว ๔ หมายถึง สติปัญญา ความเฉลียวฉลาด และความรู้ที่อาจจะไม่ต้องไปนั่งขีดเขียนก็ได้ การศึกษานั้นจะต้องมีดาวอื่นๆประกอบด้วย มีภพอื่นๆบ่งชี้ไว้ด้วย เพราะฉะนั้น การที่เจ้าชะตาจะมีการศึกษาหรือไม่มีการศึกษา หรือมีการศึกษาระดับไหน จะต้องไม่พิจารณาที่ดาว ๔ ในภพที่ ๑๒ ตัวเดียวเท่านั้น จะต้องดูดาวอื่นประกอบด้วย เฉพาะอย่างยิ่งดาว ๕ , ๘ |
ปัญหาที่ดาว ๔ จะต้องประสบมากที่สุด คือ |
ค่าใช้จ่ายที่มักจะมีมากมาย หรืออาจเรียกได้ว่าฟุ่มเฟือย ทั้งจำเป็นและไม่จำเป็น ซึ่งจะขึ้นต่อตำแหน่งที่ดาว ๔ เข้าไปสถิตในภพที่ ๑๒ และมีโยคเกณฑ์กับบาปเคราะห์หรือไม่ นั่นเป็นหลักใหญ่ที่จะต้องพิจารณา การใช้จ่ายของดาว ๔ นั้น อาจจะเป็นการใช้จ่ายเพราะถูกหลอกลวงหรือถูกหักหลังก็ได้ หรือถูกปล้นสดมภ์ หรือการคดในข้องอในกระดูกจากคนอื่น เมื่อดาว ๔ มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ ค่าใช้จ่ายและการสูญเสียเนื่องจากดาว ๔ นั้น มาจากหนี้สินตามข้อผูกพันซึ่งมีอยู่ที่จะต้องชำระเมื่อถึงเวลา เพราะภพที่ ๑๒ เป็นภพตรีโกณโยงไปถึงภพที่ ๔ อันเป็นภพที่เกี่ยวกับครอบครัว ที่อยู่อาศัย และทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ การใช้จ่ายหรือการสูญเสียใดๆก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับภพที่ ๔ ถ้าดาว ๔ ในภพที่ ๑๒ มีความสัมพันธ์ดีกับศุภเคราะห์ การใช้จ่ายและการสูญเสียนั้นอาจจะเป็นการใช้จ่ายและการสูญเสียเพื่อให้ได้มาเพิ่ม หรือเป็นการซื้อมาเพิ่มเติมก็ได้ การซ่อมบ้านหรือการซื้อเครื่องแต่งบ้านที่ไม่จำเป็นก็ได้ |
ภพที่ ๑๒ เป็นภพตรีโกณกับภพที่ ๘ ซึ่งหมายถึง |
การลงทุน เข้าหุ้นทำมาหากินกับผู้อื่น หรือการมอบหมายกิจการเกี่ยวกับการเงินให้กับคนอื่น ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาได้ทั้งดีทั้งร้าย ซึ่งขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของดาว ๔ กับดาวเคราะห์ที่เข้าไปสัมพันธ์ด้วย |
การทายภพที่ ๑๒ ไม่จำเป็นจะต้องมุ่งหน้าทายแต่ภพที่ ๑๒ เพียงภพเดียว |
ภพใดก็ตามที่มีอิทธิพลของดาว ๔ จะโยงไปถึง ซึ่งในวิชาโหราศาสตร์ไทยเราจะถือว่า...ภพที่สามารถจะโยคเกณฑ์ไปถึงในลักษณะที่ให้คุณนั้น คือ เชิงมุม ๖๐º , ๑๒๐º ต่อกัน |
ที่สำคัญอีกประการหนึ่งของดาว ๔ ในภพที่ ๑๒ ในแง่ร้ายก็คือ |
การพูด การกระทำ การเซ็นชื่อในเอกสารจะต้องระมัดระวังให้มาก ทำให้เกิดผลเสียแก่เจ้าชะตาได้ ไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ในยามเคราะห์ร้ายมาถึงมันจะเล่นงานเอาได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับการเข้าโรงพยาบาลก็มีทางเป็นไปได้ เมื่อมีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ โรคส่วนมาก จะเป็นโรคที่เกี่ยวกับปอด หลอดลมอักเสบ หรือท้อง ดาว ๔ ดวงนี้เอาถึงตายได้เหมียนกัน |
|