ดาวพฤหัส เทพเจ้าแห่งคุณธรรม 
ดาวพฤหัส เทพเจ้าแห่งคุณธรรม
ดาว ๕ กุมลัคน์ราศีเมษ
|
ผู้นั้นจะเป็นคนที่มีรูปร่างเป็นที่ต้องตาคน เป็นบุคคลที่มีโชคดี เป็นผู้มีเกียรติ มีสติปัญญาปราดเปรื่อง สามารถคาดคะเนเหตุการณ์ต่างๆได้ถูกต้อง มีทรัพย์สินเงินทอง มีความเที่ยงธรรมประจำใจ |
อ.ทวีทรัพย์...
|
ดาว ๕ มีตำแหน่งเป็นราชาโชค ส่วนใหญ่จะเป็นคนมีการศึกษาดี มีคุณธรรมและเมตตาธรรมสูง มองคนในแง่ดี ถ้ารับราชการจะได้ดีเป็นหัวหน้าส่วนของหน่วยงานนั้นๆ หรือสูงไปกว่านั้น วิถีชีวิตจะไม่ตกต่ำ ชีวิตค่อนข้างจะมีความสุชสบาย ไม่เดือดร้อน |
ดาว ๕ กุมลัคน์ราศีพฤษภ
|
เป็นผู้ที่มีความมานะพยายาม จะแสวงหาผลประโยชน์จากความรู้ความสามารถของตนเอง เป็นผู้ก่อให้เกิดโชคดีแก่ตนเอง มิใช่เป็นคนนั่งรอคอยโชค ไม่ชอบการเสี่ยงโชค ฉลาดในการชี้ทางแก้ปัญหาให้แก่คนอื่น ชำนาญในการนโยบายลับๆ |
อ.ทวีทรัพย์...
|
ส่วนใหญ่แม้ว่า...บางคนจะมีการศึกษาดีก็จริง แต่ก็ไม่สามารถที่จะพาชีวิตให้ประสบความสำเร็จอันแท้จริงได้ เข้าทำนองที่ว่าได้มาก็ต้องหมดไป ชีวิตมักจะประสบความสำเร็จครึ่งๆกลางๆ ไม่เต็มที่ ไม่สูงส่ง การดำเนินชีวิตทั่วๆไป มักจะมีอุปสรรคขวากหนาม |
ดาว ๕ กุมลัคน์ราศีมิถุน
|
จะได้เป็นครูสั่งสอนคนทั้งหลาย คำสอนและคำแนะนำจะเป็นที่เชื่อถือ สร้างผลดีให้แก่คนทุกคน แต่ผู้สอนมักจะทำตามไม่ได้ เข้าทำนองที่ว่า " ดีแต่พูดทำเองไม่ได้ " ทำให้เป็นคนมีศีลธรรมหย่อนยาน มีคู่มักจะไม่มีใจอยู่ด้วยโดยความจริงใจ |
อ.ทวีทรัพย์...
|
ดาว ๕ เป็นประ ส่วนใหญ่อยากรู้อะไรหรือศึกษาเรื่องอะไร จะต้องศึกษาให้รู้ถึงแก่น ชอบซักไซร้ไล่เลียงเพื่อให้รู้แจ้งเห็นจริง แม้ว่า..จะมีความรู้ความสามารถขนาดไหนก็ตาม ก็ไม่ทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จที่แท้จริงได้ |
ดาว ๕ กุมลัคน์ราศีกรกฎ
|
ท่านว่า..ตำแหน่งนี้มีชื่อว่า " มุนีศาสดา " มักจะสนใจในการปฎิบัติ มิได้สนใจในทางโลกมากเกินไป มีรูปกายที่มีเสน่ห์ จิตใจกล้าหาญ รักความจริงใจและความเที่ยงตรง ได้รับความนับถือจากคนทั้งหลาย ชนะศัตรูและอุปสรรคทั่วไป สนใจในการศึกษาศาสตร์ทั้งปวง รวมทั้งโหราศาสตร์ |
อ.ทวีทรัพย์....
|
ดาว ๕ ได้ตำแหน่งมหาอุจ ส่วนใหญ่จะเป็นคนมีการศึกษาดี มีความรู้ดี แต่ว่า..มักจะเป็นศัตรูกับผู้ใหญ่ ซึ่งจะทำให้หน้าที่การงานก้าวหน้าช้า แม้ว่า..จะมีความรู้ความสามารถขนาดไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถพาชีวิตให้สูงส่งได้ ดวงอย่างนี้ เป็นครูอาจารย์ดี |
ดาว ๕ กุมลัคน์ราศีสิงห์
|
จะเป็นผู้มีอายุยืน มีบุตรที่ดี มีความรู้แตกฉานในศาสตร์ต่างๆ จะได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำในการประกอบการงานที่สำคัญ เป็นคนกล้าหาญ กล้าได้กล้าเสีย มีความรู้ในเรื่องการเมืองเป็นอย่างดี |
อ.ทวีทรัพย์...
|
ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคขวากหนามมาก ผ่านร้อนผ่านหนาวถึงกับเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเลยทีเดียวในบางคน เมื่อมุ่งมั่นไปในทางใดแล้ว ก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้ ไม่ว่าช้าหรือเร็ว |
ดาว ๕ กุมลัคน์ราศีกันย์
|
จะเป็นคนมีศีลธรรมเสื่อม อาภัพในเรื่องครูบาอาจารย์ คือ มักจะถูกครูอาจารย์มองในแง่ร้าย หรือมิฉะนั้นก็เป็นคนที่ขาดความเคารพครูอาจารย์ การกระทำสิ่งใดมักจะต้องเผชิญกับอุปสรรค มีการกระทำที่ทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิด |
อ.ทวีทรัพย์...
|
ดาว ๕ เป็นประ การศึกษาดี เป็นอาจารย์ดี แต่ว่า..อาภัพเรื่องความรัก |
ดาว ๕ กุมลัคน์ราศีตุลย์
|
เป็นผู้มีความสนใจในหลักธรรม แต่ไม่สามารถจะปฎิบัติตามได้ ต้องต่อสู้ดิ้นรนในการทำมาหากินด้วยกำลังกายการกระทำที่ต้องการความสำเร็จ หรือความก้าวหน้า จะทำให้พบกับอุปสรรคต่างๆ เต็มไปด้วยความทุกข์และความกังวล แต่เป็นคนเจ้าอุบายที่คนอื่นมองไม่เห็น มีวิธีการแปลกๆที่จะเอาชนะศัตรูและฝ่าฟันอุปสรรคทั้งมวล |
อ.ทวีทรัพย์...
.....................
|
ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ถูกพี่น้องและเพื่อนฝูงเอารัดเอาเปรียบอยู่เป็นประจำ การดำเนินชีวิตทั่วๆไป มักมีอุปสรรคขวากหนาม แม้ว่าจะมีความรู้สูงขนาดไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถพาชีวิตไปสู่ความสำเร็จสูงสุดได้ แต่ชีวิตไม่ตกต่ำ |
ดาว ๕ กุมลัคน์ราศีพิจิก
|
เป็นผู้ตั้งอยู้ในคุณธรรมอันประเสริฐ บริฐูรณ์ด้วยทรัพย์สิน เป็นคนมีความสามารถ เฉลียวฉลาด มีอำนาจในตัวเอง นิยมในการอบรมจิตใจให้สงบ มีคำพูดที่หลักแหลม วางตนเข้ากับสังคมได้เป็นอย่างดี สามารถที่จะคุ้มภัยอันตรายให้ได้ |
อ.ทวีทรัพย์...
|
ดาว ๕ เป็นมหาจักร ส่วนใหญ่จะเป็นคนมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ทำอะไรไม่ค่อยปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ ดาว ๕ ดวงนี้ ถ้าดังก็จะดังเป็นพลุแตกเลยทีเดียว ใครๆก็รู้จัก ถ้าเวลาดวงดับก็เหมือนกับคนที่โลกลืม หรือหันหลังหนีสังคมไปเลยก็มี แต่ว่าเป็นคนมีเงิน |
ดาว ๕ กุมลัคน์ราศีธนู
|
เป็นผู้มีความผาสุขในชีวิต เป็นผู้รักสงบและใฝ่สันติ จะได้รับความนิยมจากคนทั้งหลาย แม้ว่าจะไปสารทิศใดก็มีคนเกรงใจและต้อนรับให้ความนับถือทุกแห่ง มีอุดมคติสูง มีความรอบรู้และความเฉลียวฉลาด |
อ.ทวีทรัพย์...
|
ดาว ๕ เป็นเกษตร ส่วนใหญ่จะเป็นคนมีฐานะดี มีการศึกษาดี มีงานทำเป็นหลักฐาน มีชื่อเสียงปรากฎ |
ดาว ๕ กุมลัคน์ราศีมังกร
|
จะมีความคิดเห็นนอกลู่นอกทาง พูดเก่ง และเพราะคำพูดนั้นจะทำให้เกิดศัตรู มีความขัดแย้งกับผู้ใหญ่และผู้ที่เป็นเจ้าขุนมูลนาย |
อ.ทวีทรัพย์...
|
ดาว ๕ เป็นนิจ ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนามอย่างโชกโชน บางคนใช้ทั้งสมองและแรงงาน บุตรหลานและบริวารมักจะสร้างปัญหาให้ตลอด ชีวิตหาความสุขที่แท้จริงไม่ค่อยมี พี่น้องและเพื่อนฝูงเอารัดเอาเปรียบอยู่เป็นประจำ |
ดาว ๕ กุมลัคน์ราศี
กุมภ์
|
ดาวพฤหัสกุมลัคน์ในราศีนี้ ส่วนใหญ่จะมีนิสัยติดจะโลภ มีเท่านี้จะเอาเท่านั้น คำว่าพอคงไม่มี โลภไปโลภมาวันหนึ่งข้างหน้าหมดเนื้อหมดตัวก็ได้ แต่ก็นั่นแหละ ดาวพฤหัสที่กุมลัคน์ในราศี มักจะมีโชคแบบฟลุ้คๆก็ได้ หรืออีกกรณีหนึ่ง จะไม่ปล่อยให้เงินทองขาดไม้ขาดมือเอาง่ายๆ |
อ.ทวีทรัพย์...
|
ส่วนใหญ่มีนิสัยติดจะโลภอยู่บ้าง มีเท่านี้จะเอาเท่านั้น คำว่า..พอไม่มี โลภไปโลภมาวันหนึ่งข้างหน้าหมดเนื้อหมดตัว มักจะมีโชคแบบฟลุ้คๆก็ได้ หรืออีกกรณีหนึ่ง จะไม่ปล่อยให้เงินทองขาดมือเอาง่ายๆ |
ดาว ๕ กุมลัคน์ราศีมีน
|
เป็นคนมีสติปัญญาและความสามารถ ได้รับการยกย่องในสังคม ฉลาดในการปกครอง ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความเป็นสุข มีความเชื่อมั่นในตัวเอง บริบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์ มักจะเกิดลาภลอยโดยมิได้นึกฝันมาก่อน |
อ.ทวีทรัพย์...
|
ดาว ๕ เป็นเกษตร เป็นครูอาจารย์จะดีมาก อาจจะเป็นอาจารย์ในโรงเรียน วิทยาลัยมหาวิทยาลัย เป็นอาจารย์แพทย์ เป็นอาจารย์ในสถาบันตำรวจหรือทหาร |
ดาว ๕ สถิตภพตนุ
|
ถ้าภพตนุเป็นราศีมีน,ราศีธนู และมีดาว ๕ สถิตในราศีทั้ง ๒ นี้ ราศีใดราศีหนึ่ง |
ท่านว่า....จะเป็นคนพูดเก่ง พุดดี และมีความรอบรู้ในเรื่องราวเก่าแก่โบราณ จะเป็นคนที่มีความรู้กว้างขวางที่สุดในวิทยาการต่างๆ จะมีลูกหลานที่ดี และมีชีวิตที่มีความสุข มีอายุยืน เป็นผู้คงแก่เรียน
ถ้าหากดาว ๕ สถิตในราศีมหาอุจ คือ ราศีกรกฎ คำทำนายทั้งหมดจะเป็นความจริงยิ่งขึ้นตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี เจ้าชะตาจะพบกับความสำเร็จบางอย่างในชีวิตที่เกิดจากอิทธิพลของดาว ๕ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา หรือโอกาส |
ถ้าหากดาว ๕ สถิตในเรือนของศัตรู หรือในเรือนของบาปเคราะห์ หรือสถิตในเรือนที่เป็นนิจ |
เจ้าชะตาจะใช้ชีวิตหมกมุ่นไปในเรื่องความชั่ว ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต มีจิตใจที่ไม่มั่นคง แปรปรวนง่าย จะไม่มีบุตร ไม่คำนึงถึงบุญคุณของคนอื่น ยะโสโอหัง เย่อหยิ่งถือตัวในลักษณะผิดๆ มักจะทอดทิ้งพี่น้องที่ใกล้ชิด ชอบเที่ยวเตร่ ไม่ค่อยเป็นมิตรกับผู้อื่น และจะได้รับความทุกข์ยากในชีวิต |
ดาว ๕ จะให้คุณแก่ทุกดวงชะตาอยู่ ๓ ประการ
|
๑. จะป้องกัน ช่วยเหลือ ต้านทาน ดวงชะตาที่ถูกทำลายด้วยดาวบาปเคราะห์ ให้สามารถรอดพ้นจาก อุปสรรคและอันตรายทุกอย่างได้ อิทธิพลของดาว ๕ ดวงนี้ถ้าให้แสงหรือมีความสัมพันธ์ที่ดีกับดาวบาปเคราะห์ดวงนั้น
๒. ดาว ๕ เป็นดาวที่ให้คุณในด้านการเจริญเติบโต และการแผ่ขยายเกี่ยวกิจการทุกอย่างในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย ความสำเร็จ หรือบุญบารมีและความรู้ในวิชาการใดๆก็ตาม ถ้าดาว ๕ ให้คุณแล้ว ดาว ๕ จะให้สิ่งเหล่านี้แก่เจ้าชะตาอย่างไม่มีวันจบสิ้น
๓. ดาว ๕ จะให้เจ้าชะตาเป็นคนที่เต็มไปด้วยคุณธรรมและความเมตตาปราณี เผื่อแผ่ต่อผู้อื่นไม่มีวันเปลี่ยนแปลง |
สำหรับราศีที่ดีมากของดาว ๕ คือ ราศีธาตุไฟ เมษ,สิงห์,ธนู และราศีธาตุน้ำอีกชุดหนึ่งคือ มีน,กรกฎ,พิจิก |
ชะตาใดถ้ามีดาว ๕ กุมลัคนาเกิดในราศีเหล่านี้แล้ว ให้ถือว่า....ชีวิตจะปลอดภัยทุกอย่าง และในขณะเดียวกัน ไม่ว่าดาวดวงอื่นจะเลวร้ายอย่างไร ดาว ๕ ดวงนี้ก้จะช่วยได้ อดตายหรือลำบากยากแค้นถึงที่สุดเป็นไม่มี ชีวิตไม่สมหวังเป็นไม่มี อย่างน้อยที่สุดก็สมหวังไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง ถึงแม้ว่าดวงเดิมจะไม่ให้คุณทุกด้านก็ตาม |
ดาว ๕ นอกจากสถิตในราศีที่ดีแล้ว ต้องสถิตในนวางค์,ตรียางค์และกลุ่มดาวฤกษ์ที่ดีด้วย
|
ดาว ๕ ต้องไม่มีดาวบาปเคราะห์ดวงใดมีระยะเชิงมุมที่เป็นปฎิปักษ์ |
โดยเฉพาะดาว ๗ ไม่ว่า..จะเล็งหรือกุม จะมีแต่เรื่องร้ายๆทั้งสิ้น
สำหรับดาว ๘ ถ้าหากได้โยคเกณฑ์ที่ดีตามหลักโหรไทย คือเป็น ๕ , ๙ , ๑๑ ถือว่าดี จะทำให้เจ้าชะตาร่ำรวยขึ้นมาได้อย่างคาดไม่ถึง
ถ้าเป็นดาว ๑ จะต้องไม่เข้าไปกุมในลักษณะดาว ๕ ดับ จะได้รับการสนับสนุนทั้งทางด้านเกียรติยศ และเงินทองจากผู้ใหญ่ ทำอะไรจะสำเร็จทุกอย่าง |
แต่ถ้าดาว ๕ สถิตในตำแหน่งเสื่อม หรือมีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ (เฉพาะอย่างยิ่งดาว ๗ ) หรือสถิตในนวางค์,ตรียางค์และกลุ่มดาวฤกษ์ร้าย |
จะให้โทษมาก ก่อนอื่นก็คือ ทำให้เกิดนิสัยชั่วขึ้นมาก่อน เป็นต้นว่า...ยะโสโอหัง ทนงตัว อวดกล้าอวดเก่ง อวดมั่งอวดมี และเป็นคนไม่มีเหตุผล บวชเป็นพระก็จะผิดศีล ๒๒๗ ข้อ และทำอะไรก็เจริญได้ยาก |
ถ้าหากไม่มีตำแหน่งเสื่อมหรือไม่ถูกรบกวนในทางร้ายจากดาวบาปเคราะห์แล้ว |
ทายไปได้ทุกอย่างตามความหมายของภพที่ ๑ แม้แต่สุขภาพพลานามัยและความมีอายุยืน |
แต่ต้องระวังโรคเกี่ยวกับเลือด ความดัน และไขมันในเส้นเลือด หรือโรคอ้วนให้มากสักหน่อย หรืออย่าประมาทเป็นอันขาด |
เพราะดาว ๕ หมายถึง การทำให้สิ่งเหล่านี้แผ่ขยายออกไป |
ดาว ๕ สถิตภพกฎุมพะ
|
ท่านว่า...เป็นดาวที่อำนวยความสะดวกทางการเงินให้แก่เจ้าชะตา
|
ถ้าภพที่ ๒ นั้นตรงกับราศี กรกฎ,พิจิก,ธนู,มีน |
จะทวีความดีเด่นของเจ้าชะตาให้มีน้ำหนักมากขึ้น โดยเฉพาะถ้ามีดาวศุภเคราะห์เข้ามาเป็นโยคเกณฑ์ดี คือ ทำมุมเป็นโยคหน้าและโยคหลัง (๖๐°) ตรีโกณหน้าตรีโกณหลัง (๑๒๐°) กับดาว ๕ |
แต่ถ้าหากมีบาปเคราะห์ เช่น ดาว ๓ , ๗ , ๐ , เข้ามาเป็นโยคเกณฑ์ร้าย คือ กุมเป็นมุม ๐° จตุเกณฑ์เป็นมุม ๙๐° และมุมเล็ง ๑๘๐° กับดาว ๕ |
จะทำให้การเงินต้องประสบกับความเสื่อมโทรม |
ถ้าภพที่ ๒ เป็นราศีมีน,ธนู
|
เจ้าชะตาจะมั่งคั่งร่ำรวยอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว (ดาว ๕ เป็นเกษตร) |
ถ้าดาว ๕ มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์
|
เจ้าชะตาจะมีอุปสรรคในการแสวงหาความรู้และการศึกษา จะเป็นคนขี้ลักขี้ขโมย เป็นคนโกหก จะพูดแต่เรื่องหยาบคาย |
ถ้าดาว ๕ สถิตในราศีที่เป็น นิจ และมีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ |
จะเป็นคนขี้เหล้าและไม่มีศีลธรรม จะทำลายครอบครัวของตนเอง และเป็นชู้กับภรรยาของคนอื่น |
ภพที่ ๒ หมายถึง
|
สภาพของครอบครัว อาหารการกินและทางได้ รวมถึงทรัพย์สินเงินทองของเจ้าชะตา เจ้าชะตาจะมีกิน และให้คนอื่นที่เพิ่มเข้ามาในชีวิตเนื่องจากการแต่งงาน มีกินพอหรือไม่ |
ถ้าหากดาวเคราะห์ในภพที่ ๒ ดีพอ และมีระยะเชิงมุมดี |
ก็อาจจะทายได้ว่า....เจ้าชะตาจะสามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ |
แต่ถ้าดาวในภพที่ ๒ เป็นบาปเคราะห์และมีโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ |
บอกถึงอุปสรรคและปัญหาทางการเงิน
การไม่มีเงินและไม่มีรายได้ ก็อาจจะทายได้ยากว่า "เจ้าชะตาจะมีการแต่งงาน หรือมีคู่ครองในระยะนั้น" เพราะดวงชะตาบอกอยู่ชัดเจนว่า....เจ้าชะตากำลังไม่มีอันจะกินอยู่ชัดๆ แล้วจะมีคู่ได้อย่างไร? หรือถ้าจะแต่งกันจริงๆ ก็อาจจะเป็นประเภทไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงเรื่องอยู่เรื่องกินหรืออยู่กันแบบเป็นครอบครัว หรือจะอยู่แบบกัดก้อนเกลือกิน หรือไม่ก็อยู่กันแบบต่างคนต่างอยู่ เวลารักกัน ก็เพียงแต่พากันไปตามโมเต็ล ออกมาแล้วก็ขึ้นรถเมล์กลับบ้าน แล้วก็ก้มหน้าก้มตากลับไปกัดก้อนเกลือกินไปตามลำพังตัวใครตัวมัน ก็อาจทายไปทำนองนี้ได้ |
ดาว ๕ หมายถึง
|
การแผ่ขยายออกไป การเจริญเติบโต |
การทายดาว ๕ ในภพที่ ๒
|
ต้องทายถึงฐานะครอบครัว ต้องหมายถึงเงิน และความไม่อดอยาก หมายถึงทรัพย์สินเงินทองที่เจ้าชะตามีอยู่ |
ดาว ๕ ในภพกฎุมพะเป็นโยคหน้ากับภพพันธุถ้าจะถามถึงเรื่องบ้านที่ดินหรือที่อยู่อาศัยเป็นอย่างไร |
เชิงมุม ๖๐ ํ ย่อมทายได้ว่า..บ้านที่ผ่อนส่งหรือติดจำนองไว้นั้นไม่ขาดแน่นอน คนที่ไม่มีบ้านก็อาจจะมีบ้านก็ได้ ที่ดินที่ต้องการขายมีโอกาสขายได้แน่นอน เพราะอิทธิพลของดาว ๕ ถึงภพพันธุ |
ดาว ๕ เป็นมุมเล็ง ๑๘๐° กับภพมรณะ
|
ซึ่งเป็นภพที่จะได้รับเงินจากส่วนแบ่งของผู้ร่วมหุ้นร่วมทุนทำมาหากิน หรือเงินตกเบิก หรือเงินบำเหน็ดอะไรก็ตามแต่ ดาว ๕ จะส่งกระแสไปถึงภพมรณะแน่นอน เชื่อว่า..ดาว ๕ ดวงนี้จะช่วยเหลือได้บ้าง ไม่ถึงกับลำบากอับจนจนเกินไป |
ขณะเดียวกันดาว ๕ ดวงนี้ก็ส่งกระแสอิทธิพลถึงภพวินาศด้วย (ทำมุมเป็นโยคหน้า ๖๐º) |
อันเป็นภพที่หมายถึง หนี้สินและค่าใช้จ่าย ก็จะอาศัยบุญบารมีของดาว ๕ นี่แหละ ทายไปได้ว่า..มีทางแก้ไขได้ หรือใช้หนี้สินได้แน่นอน |
ข้อความข้างบนนี้เป็นการอธิบายให้เห็นถึงโยคเกณฑ์ต่างๆของดาว ๕ ที่ส่งไปยังเรือนที่เป็นโยคเป็นเกณฑ์กัน |
ภพที่ ๒ จะบอกได้ว่า...
|
การทำมาหากินของเจ้าชะตาเป็นอย่างไร จะได้หรือจะเสีย ถ้าได้จะได้เมื่อไร ถ้าเสียจะเสียเมื่อไร ได้เพราะอะไรและเสียเพราะอะไร ถ้าดาว ๕ ในภพที่ ๒ สถิตในราศีที่ดี ในกลุ่มดาวฤกษ์ที่ดี และในนวางค์ตรียางค์ที่ดี ในยามที่ดวงชะตาได้รับการส่งเสริมจากศุภเคราะห์อื่นๆจรเข้ามา ก็ยืนยันได้เลยว่า...เจ้าชะตาจะต้องได้อย่างไม่ต้องสงสัย |
คนที่ชอบเล่นหุ้น เล่นการพนันหรือชอบเสี่ยงโชค ถ้ามีดาว ๕ ในภพที่ ๒ ถ้าดูจังหวะที่ไม่มีดาวบาปเคราะห์ใดๆเข้ามารบกวนแล้ว สามารถทายออกไปได้เลยว่า... |
เจ้าชะตาจะมีแต่ได้ไม่มีเสีย |
ระวังตำแหน่งที่สถิตและความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์เท่านั้นเป็นพอ |
ดาว ๕ ก็เหมือนกับดาวอื่นๆ ถ้าบังเอิญอยู่ในสภาพที่เสื่อมหรือได้รับความสัมพันธ์ที่ไม่ดีจากบาปเคราะห์หนักๆเข้า ก็สามารถให้โทษได้อย่างหนักเหมือนกัน หรืออาจคุ้มครองไม่ได้เลย |
ดาว ๕ สถิตภพสหัชชะ
|
ถ้าดาว ๕ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับดาวศุภเคราะห์อื่นๆ |
เจ้าชะตาจะเป็นคนสนใจในการศึกษาอย่างจริงจัง และสามารถประสบความสำเร็จได้ มีความรักและสนิทสนมกลมเกลียวกันดีในหมู่พี่น้อง ถ้าไม่มีดาวอื่นเป็นอุปสรรค เจ้าชะตาจะต้องเป็นนักเขียนทางด้านวิชาการ เกี่ยวกับวิชาเศรษฐศาสตร์,ปรัชญา,การศึกษา สติปัญญาความคิดของดาว ๕ ในภพนี้ จะทำให้เจ้าชะตามีสมองและความคิดแจ่มใส การเดินทาง จะมีโอกาสเดินทางทั้งใกล้และไกล เพราะภพที่ ๓ สะเทือนไปถึงภพที่ ๙ ด้วย เพราะฉะนั้น การเดินทางก็หมายถึง การเดินทางไปศึกษาต่อในต่างประเทศ และไปเพื่อทำธุรกิจ |
ถ้ามีดาวบาปเคราะห์เข้ามามีความสัมพันธ์ด้วย |
ผลของการพยากรณ์ต้องเป็นตรงกันข้าม |
ภพสหัชชะ หมายถึง
|
ความคิดอ่าน ความสามารถ สติปัญญา การศึกษาและการเรียนรู้ที่ไม่มีวันจบสิ้น การพูดการเขียน การเดินทางทั้งภายในและนอกประเทศ การติดต่อธุรกิจและความสัมพันธ์ในทุกๆด้าน การเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัย เรื่องที่เกี่ยวกับพี่น้อง |
ภพที่ ๓ ให้ผลถึงภพที่ ๙
|
ซึ่งเป็นภพที่ตัดสินเด็ดขาดถึงบุญวาสนาของเจ้าชะตา ถ้าหากภพที่ ๓ ไม่มีบาปเคราะห์สถิตอยู่ ผลดีจากภพที่ ๓ จะสะท้อนไปถึงภพที่ ๙ และทำให้ภพที่ ๙ มีความเข้มแข็งขึ้น หรือส่งผลให้ภพที่ ๙ เพิ่มพูนความสำเร็จในดวงชะตาสูงขึ้น ( ถึงแม้ว่า...จะอยู่ในลักษณะเล็งกัน ๑๘๐° ก็ตาม ) |
ยิ่งไปกว่านั้น ภพที่ ๓ ยังเป็นภพตรีโกณไปถึงภพที่ ๗ และภพที่ ๑๑ |
ถ้าหากภพที่ ๓ เสียหายหรือได้รับการกระทบกระเทือนในทางไม่ดี ก็หมายถึงว่า...ภพที่ ๗ และภพที่ ๑๑ ก็จะเสียหายไปด้วย |
ถ้าภพที่ ๑๑ ถูกทำลายด้วยโยคเกณฑ์จากดาวเคราะห์ที่มีความสัมพันธ์กัน |
ชะตาชีวิตก็ต้องหมดหวัง |
ภพที่ ๗ ที่ภพที่ ๓ เป็นตรีโกณร่วมอีกภพหนึ่ง ก็พลอยได้รับผลร้ายไปด้วย |
และภพนี้ หมายถึง ผู้ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่า..คู่ครอง หรือหุ้นส่วน หรือคนทำมาหากินด้วยกัน ก็จะนำความเสียหายมาสู่เจ้าชะตาไปตลอดชีวิต |
ดาว ๕ จะให้โทษหนักก็ต่อเมื่อกุมกับดาว ๗ ระยะประชิดองศา |
ดาว ๕ อยู่ในลักษณะนี้ มีปัญหามากทีเดียว เพราะนอกจากจะให้คุณได้เต็มที่แล้ว คุณของดาว ๕ จะถูกทำลายโดยดาว ๗ หมด พูดกันง่ายๆก็คือว่า...อิทธิพลของดาว ๕ ในลักษณะเช่นนี้ไม่สามารถต้านทานกำลังของดาว ๗ ได้ ( หมายถึงว่า..ให้คุณได้เหมือนกัน แต่จะไม่เต็มที่หรือมีอุปสรรค ) |
ถ้าดวงของผู้ใดมีดาว ๗ กุมดาว ๕ แล้ว |
ถือว่าเป็นดวงที่มีปัญหามากในชีวิต จะได้ดีจริง หรือประสบความสำเร็จแบบหวานๆไม่มี นอกจากจะต้องรู้จักกิน รู้จักอยู่อย่างระมัดระวัง จะช่วยให้มีความผิดหวังน้อยลง เจ้าชะตามักจะตัดสินใจผิด หรือดำเนินชีวิตผิดพลาด |
ถ้าดาว ๗ โคจร เข้ามาทับเป็นครั้งคราว |
ผลร้ายก็จะเกิดขึ้นไม่นานนัก เมื่อดาว ๗ โคจรจากไป ทุกอย่างก็จะเป็นปกติ |
และถ้าดาว ๗ โคจรได้โยคเกณฑ์ ๖๐° , ๑๒๐° ตามกฎเชิงมุมของโหราศาสตร์สากล หรือเป็น ๓ ,๕ , ๙ ต่อดาว ๕ ตามหลักโหราศาสตร์ไทย |
ดาว ๗ ดวงนี้ก็จะให้คุณอย่างมากเหมือนกัน แต่เต็มไปด้วยความล่าช้า ลำบาก แต่หนักแน่นมั่นคงในตอนท้าย |
ดาว ๕ สถิตภพที่ ๓
|
จะได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่น หรือได้รับการอุปถัมภ์ค้ำจุนจากผู้อื่น เรียกว่า " สหายตุภาวะ " ตั้งแต่เกิดจนตาย จะมีแต่คนอุปถัมภ์ค้ำชู และมีแต่คนที่มีความปรารถนาดี หรืออย่างน้อยก็เป็นที่รักของคนอื่น |
ภพที่ ๓ หมายถึง การย้ายบ้านและการเตรียมตัวย้ายบ้านอีกด้วย
|
จึงสามารถทายได้เลยว่า....เจ้าชะตาจะต้องมีบ้านอยู่อาศัย หรือการย้ายบ้านไปอยู่บ้านที่มีความสุขสบายกว่า หรือโอ่อ่าร่ำรวยกว่า |
แม้แต่ดาว ๕ " โคจร " เข้าภพที่ ๓ ในปีใดก็ตาม
|
ขอให้รู้ว่า...จะมีการย้ายบ้านหรือเตรียมตัวย้าย เปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัย เป็นที่อยู่อาศัยที่กว้างใหญ่ โอ่อ่าตามลักษณะของดาว ๕
แต่ต้องคำนึงถึงตำแหน่งที่ดาว ๕ โคจรเข้าไปสถิต ราศีที่ดาว ๕ เข้าไปสถิต และนวางค์,ตรียางค์และกลุ่มดาวฤกษ์ที่ดาว ๕ เข้าไปสถิต |
ดาว ๕ สถิตภพพันธุ
|
โบราณท่านให้ถือว่า....
|
เป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า "จตุรเกณฑ์" |
ท่านจารึกเอาไว้ในจิตใจของโหรแต่โบราณเป็นคำตายตัวว่า
|
" พฤหัสบดีสี่ทรงศักดิ์ แช่มช้อย " หมายถึง ดาว ๕ จะช่วยคุ้มครองชะตาได้ทุกทาง จะทำให้เกิดโชคลาภ ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน สามารถตั้งตัวได้เป็นปึกแผ่น หรือมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีและมั่นคง หรืออาจได้รับทรัพย์สินมรดก
ถ้ามีดาวศุภเคราะห์เข้าไปสัมพันธ์ถึงในดวงเดิม และมีโยคเกณฑ์ถึงในดวงจร และดาว ๕ สถิตในราศีที่ดีในภพที่ ๔ คำทำนายเหล่านี้ก็ยิ่งเป็นความจริงและแน่นอนยิ่งขึ้น |
แต่ถ้าสถิตในตำแหน่งที่ไม่ดี และมีระยะเชิงมุมสัมพันธ์ร้ายกับดาวบาปเคราะห์ |
ผลดีที่จะได้ก็ถูกตัดทอนลงไป หรือจะมีอุปสรรคและปัญหา
แต่ถึงอย่างไร อิทธิพลของดาว ๕ ก็จะสามารถช่วยคุ้มครองได้ไม่มากก็น้อย |
ถ้าดาว ๕ มีตำแหน่งดี มีความสัมพันธ์ดีกับศุภเคราะห์อื่นๆ |
เจ้าชะตาจะมีความสุข จะเป็นคนเฉลียวฉลาด มีความประพฤติปฎิบัติที่ดี คือ จะเป็นคนมีสติปัญญาสูง จะเป็นเจ้าของที่ดินแปลงใหญ่จะมีความเป็นอยู่อุดมสมบูรณ์ |
ถ้าดาวเจ้าเรือนภพพันธุ มีความเข้มแข็ง มีความสัมพันธ์กับดาว ๖ , ๒ หรือศุภเคราะห์ |
เจ้าชะตาจะมีรถยนต์ส่วนตัว จะมีบ้านช่องใหญ่โต มั่งมีเงินทองและที่ดิน |
ถ้าดาว ๕ มีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์
|
จะไม่มีทั้งที่ดินและรถยนต์เป็นของตนเอง จะต้องอาศัยบ้านคนอื่นอยู่ จะเสียแม่และไม่ถูกกับญาติพี่น้อง |
ภพที่ ๔ เป็นภพตรีโกณกับภพที่ ๘ และที่ ๑๒
|
ถ้าหากในภพที่ ๔ มีดาว ๕ สถิตอยู่ ดาว ๕ ดวงนี้จะต้องส่งอิทธิพลไปถึงภพที่ ๘ และภพที่ ๑๒ ด้วย ซึ่งนอกจากจะส่งเสริมทั้ง ๒ ภพแล้ว ยังสามารถคุ้มครองบาปกรรม หรือลดความเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นกับภพทั้ง ๒ นั้นได้ด้วย |
ภพที่ ๔ เป็นภพที่เกี่ยวกับทรัพย์สินสมบัติที่เป็นมรดกตกทอด เป็นที่ดิน เป็นบ้านที่อยู่อาศัย ซึ่งจะต้องได้มาด้วยเงินทั้งสิ้น
ภพที่ ๘ เป็นภพที่เกี่ยวการหาเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขาย หรือให้เช่า หรือจำนองจำนำอะไรก็แล้วแต่ เงินที่ใช้หมุนในการทำมาหากิน เงินในภพนี้จะช่วยภพที่ ๔ ได้มาก หรือให้ความมั่นคงแก่ภพที่ ๔ ได้มาก
ภพที่ ๑๒ ซึ่งเราถือว่าเป็นภพวินาศ ภพแห่งการสูญเสีย ภพของการใช้จ่าย หรือภพที่เกี่ยวกับใช้หนี้สิน
แต่จากอิทธิพลของดาว ๕ ในภพที่ ๔ นี้เอง ที่จะให้คำตอบแก่ผู้มาหาโหรได้ว่า....หนี้สินที่มีอยู่ หรือบ้านที่จะต้องซื้อต้องขายนั้น ไม่มีอะไรจะต้องเดือดร้อนกังวลใจ ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี ทรัพย์สินที่มีอยู่ หรือมรดกของพ่อแม่จะสามารถรักษาเอาไว้ได้ พี่น้องในครอบครัวจะเข้าใจกันดี และจะประสบความเจริญก้าวหน้าด้วยกันทุกคน ทั้งตัวเองก็เป็นคนใจบุญใจกุศล และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เพราะทำให้ตัวเองมีความสุข โดยไม่ต้องไปบวชไปทำวิปัสสนาที่ไหน
|
ภพที่ ๔ เป็นภพที่บอกถึงสันดานเดิมของแต่ละบุคคล.
|
ดาว ๕ สถิตภพปุตตะ
|
ดาว ๕ สถิตในภพที่ ๕ ท่านเรียกว่า "ธรรมเกณฑ์ " |
เจ้าชะตาจะได้รับผลดีในการเสี่ยงโชค การลงทุน อาชีพในธุรกิจบันเทิงจะประสบผลสำเร็จมากที่สุด ดาว ๕ ต้องมีความสัมพันธ์ดีกับดาวศุภเคราะห์อื่นๆในดวงเดิม และมีระยะเชิงมุมที่เป็นโยคเกณฑ์ดีกับศุภเคราะห์ในดวงจร ก็ให้แน่ใจได้เลยว่า....คำทำนายที่ทายไปเชื่อถือได้ |
ถ้าดาว ๕ มีโยคเกณฑ์ร้ายในดวงจร และมีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ในดวงเดิม |
ต้องให้คำทำนายเป็นลักษณะตรงกันข้าม ความไม่สมหวังและอุปสรรคต่างๆจะมีแน่นอน ในระยะใดระยะหนึ่งของชีวิต ความสำเร็จในชีวิตอย่างสะดวกสบายหาได้ยาก |
ถ้าเจ้าเรือนปุตตะเข้มแข็ง และในขณะเดียวกันสถิตในเรือนของดาวบาปเคราะห์ หรือในเรือนของดาวนิจ |
เจ้าชะตาจะสูญเสียลูก จะร่ำรวย แต่ก็ประสบความสูญเสียเพราะการลงโทษจากทางราชการ |
ถ้าดาว ๕ มีความสัมพันธ์กับดาว ๘ , ๙
|
เจ้าชะตาจะสูญเสียบุตรเนื่องจากงูพิษ เว้นแต่ดาว ๕ จะมีความสัมพันธ์ดีกับศุภเคราะห์เท่านั้น |
ดาว ๕ ที่สถิตในภพนี้ ถ้าหากอยู่ในฤกษ์,นวางค์,ตรียางค์ที่ดี ไม่ว่า...จะเป็นเรือนมหาอุจหรือเรือนนิจไม่สำคัญ สำคัญที่ลูกนวางค์ที่ดาว ๕ เข้าไปเกาะ และกลุ่มดาวฤกษ์ที่ดาว ๕ เข้าไปสถิตเท่านั้น |
ถ้าหากได้กฎเกณฑ์เพียง ๒ ประการนี้เท่านั้น เมื่อดวงทั้งดวงไม่มีดาวที่ให้ร้ายไปเสียหมด ก็ให้ทายไปได้เลยว่า...เรื่องเสียไม่มี มีแต่จะดี และจะดีขนาดไหนก็พิจารณาเอาจากดวงเป็นส่วนประกอบ แต่เรื่องดีหรือร่ำรวยมั่งคั่ง ทำมาหากินอุดมสมบูรณ์นั้นไม่มีอะไรต้องสงสัยแน่ |
ดาว ๕ ในภพที่ ๕ จะมีอิทธิพลกระเทือนไปถึงภพที่ ๑ และภพที่ ๙ ไม่ว่าทั้ง ๒ ภพที่เกี่ยวเนื่องจะมีดาวบาปเคราะห์สถิตอยู่มากมายเพียงไรก็ตาม การส่งอิทธิพลของดาว ๕ ไปยังภพที่ ๙ และภพที่ ๑ และการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับดาวบาปเคราะห์ในภพทั้ง ๒ นั้น |
แทนที่จะทายไปในทางร้าย คำทำนายจะต้องพลิกกลับเป็นตรงกันข้ามทันที |
ถ้ามีความสัมพันธ์กับดาว ๐ ในภพที่ ๙ และภพที่ ๑
|
จะทำให้เป็นคนประสบความสำเร็จทางด้านวิชาความรู้ และการเดินทางไกล และเข้าไปเกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมทางการเมืองอย่างไม่คาดหมาย ในชีวิตจะไม่มีเวรมีภัยเลย เฉพาะอย่างยิ่งทางด้านวิชาความรู้จะมีมากเป็นพิเศษ |
ถ้ามีความสัมพันธ์กับดาว ๘
|
ให้ระวังไว้ว่า....จะได้เป็นใหญ่เป็นโตประสบความสำเร็จร่ำรวยขึ้นมาอย่างปาฎิหารย์ทีเดียว เรื่องยากจนทุกข์ยากเป็นไม่มี |
สำหรับดาว ๗ นั้น ถ้าดาว ๕ ดวงนี้มีโยคเกณฑ์ถึง
|
ก็จะประสบความสำเร็จทุกด้านในการทำมาหากิน แต่จะไม่โด่งดังอะไรมากนัก คือ จะประสบความสำเร็จอย่างช้าๆแต่หนักแน่น ยิ่งอายุมากเท่าไรยิ่งดีมากเท่านั้น ที่จะเลวหรือผิดหวังเป็นไม่มี เพียงแต่ว่าเหนื่อยหน่อย เพราะจะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงทุกด้าน แม้แต่จะเลี้ยงดูอุปถัมภ์คนอื่นก็จะต้องทำ |
สำหรับโยคเกณฑ์จะถึงดาว ๑ , ๓ ก็ไม่ต้องห่วง
|
ชีวิตจะประสบความสำเร็จตามที่คาดหมายแน่นอน |
ดาว ๕ สถิตภพอริ
|
จะทำให้เจ้าชะตามีสุขภาพพลานามัยดี ไม่ค่อยเจ็บป่วย นอกจากจะตรากตรำโหมงานหนักจนเกินไป หรือถ้ามีการเจ็บป่วยก็อาจจะหายได้โดยไม่ยากนัก |
ถ้าหากดาว ๕ สถิตในตำแหน่งที่ดี และมีระยะเชิงมุมที่ดีกับศุภเคราะห์
|
จะทำให้ผิวพรรณวรรณะแจ่มใส ถ้าสถิตในตำแหน่งที่ดี จะทำให้ได้รับผลดีทางด้านสุขภาพและการเงิน
แต่ถ้าดาวที่เข้ามาสัมพันธ์ในดวงเดิม และมีโยคเกณฑ์ร้ายในดวงจรจากดาวบาปเคราะห์ เช่น ดาว ๓ , ๗ , ๐ แล้ว ก็จะทำให้ผลดีเสื่อมคลาย พร้อมกับจะทำให้เกิดผลร้ายชนิดตรงข้ามกับความหมายที่ต้องการทำนาย เช่น ทำให้มีโรคภัยไข้เจ็บรบกวน หรือเกิดหนี้สิน มีลูกน้องบริวารจองล้างจองผลาญและสร้างความยุ่งยากให้เสมอ แม้คนเหล่านั้นจะเป็นคนมีศีลธรรมเชื่อถือได้ก็ตาม |
โบราณว่า...
|
จะสามารถเอาชนะศัตรูได้ จะมีครอบครัวใหญ่ จะมีลูกมีหลานมากมาย แต่ถ้าดาว ๕ มีความสัมพันธ์กับดาวศุภเคราะห์ เจ้าชะตาจะปราศจากโรคภัย แต่ถ้ามีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ จะเป็นโรครูมาติสซึ่ม หรือโรคที่เนื่องมาจากความเย็น ถ้าดาว ๕ อยู่ในเรือนดาว ๗ และมีความสัมพันธ์กับดาว ๘ , ๙ เจ้าชะตาจะมีโรคร้ายหลายโรค |
ภพที่ ๖ ของดวงชะตา นิยมทายกันมากมายว่า....
|
หมายถึง ศัตรูและความเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งความจริงนั้น ไม่ว่าเจ้าชะตาจะเป็นคนมีศัตรู หรือมีการเจ็บป่วย โดยดูจากภพที่ ๖ เพียงภพเดียว ไม่น่าจะใช้ได้ เพราะคนเราจะเจ็บป่วยหรือจะร่ำรวยไม่ร่ำรวยนั้น ต้องดูจากองค์ประกอบทั้งดวงชะตา ตั้งแต่ลัคน์,จันทร์กำเนิด และตำแหน่งของดาวศุภเคราะห์อื่นๆในดวงว่า...มีส่วนทำให้เจ้าชะตาต้องประสบเคราะห์กรรมดังกล่าวหรือไม่ |
ความหมายเกี่ยวกับศัตรู ในสมัยโบราณ เวลารบทัพจับศึก ต้องดูดวงของแม่ทัพที่จะไปออกรบ ถ้าหากมีดาว ๕ อยู่ในภพที่ ๖ ก็เชื่อกันว่า |
จะรบชนะศัตรูเป็นแน่
แต่สำหรับดวงคนธรรมดา คงไม่ต้องไปเพ่งเล็งเรื่องศัตรูมากเกินไป อีกอย่างหนึ่ง ไม่ว่า...ภพใด ถ้ามีดาวศุภเคราะห์สถิตอยู่ ภพนั้นก็จะได้รับอิทธิพลในทางที่ดีอยู่แล้ว |
ในปัจจุบันนี้ การเจ็บป่วยของคนเราเป็นกันได้สารพัดสารพัน ถ้าดวงชะตาไม่แข็งพอ เช่น ลัคน์กำเนิดไม่ดี ดาว ๒ กำเนิดสถิตในนวางค์,ตรียางค์ที่เป็นโทษ และกฎอื่นๆอีกมาก ที่ก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ ไม่ใช่เพราะภพที่ ๖เพียงภพเดียว และสำหรับเรื่องศัตรูย่อมมีกันได้ทุกคน แต่คงไม่มีใครมาคอยเป็นศัตรูกับใครอยู่ได้ตลอดเวลาเป็นแน่ แต่ศัตรูที่แน่นอนก็คือ การเป็นศัตรูของตัวเอง ตั้งแต่อารมณ์ ความประพฤติที่ไม่ดีงาม ล้วนแต่เป็นศัตรูทั้งนั้น เพราะฉะนั้น คนเราจะมองหาศัตรู หรือต้องการจะเอาชนะศัตรู ก็คือ ต้องเอาชนะที่ตัวเองก่อนเท่านั้นก็พอ |
แต่ที่สำคัญที่สุด ภพนี้ หมายถึง
|
หนี้สินหรือเครดิต หรือพันธกรณีที่เกี่ยวกับเงินของเจ้าชะตา มันจะดีหรือเลว นั่นต่างหากที่ต้องดูให้ชัดเจน หนี้สินหรือเครดิตที่เจ้าชะตาจะได้หรือไม่ได้ จะขึ้นอยู่กับภพที่ ๖ และดวงดาวในภพที่ ๖ และเจ้าเรือนในภพที่ ๖ ว่าไปสถิตในภพไหนเป็นประการแรก |
ถ้าภพที่ ๖ เป็นราศีที่ดี ดาวที่เข้าไปสถิตเป็นศุภเคราะห์ ก็ทายได้เลยว่า |
ปัญหาเรื่องหนี้สินที่ค้างคากันอยู่ หรือจะหยิบยืม หรือเจรจากับใครก็ไม่ยากนัก ได้แน่นอนโดยไม่เดือดร้อนด้วย |
เว้นแต่ดาวในภพที่ ๖ นั้นจะโคจรไปสถิตในตำแหน่งที่เสื่อม หรืออยู่ในกฎเกณฑ์ที่เสื่อม และได้รับโยคเกณฑ์ที่ไม่ดีเท่านั้น |
ลักษณะนี้การจะกู้ยืม หรือเจรจากันก็ยากหน่อย หรือไม่ได้เลย |
เราจะดูแต่ภพที่ ๖ ภพเดียวไม่ได้ เพราะภพที่ ๖ เป็นตรีโกณกับภพที่ ๑๐ อันเป็นภพที่เกี่ยวกับเครดิต ตำแหน่งหน้าที่และการงาน ถ้าหากภพนี้มีดาวที่ดีสถิตอยู่ หรือได้รับความสัมพันธ์ที่ดีจากดาวเคราะห์อื่นๆ |
ก็ให้ทายว่า...ภพที่ ๑๐ จะมีส่วนสนับสนุนและช่วยเหลือภพที่ ๖ อีกภพหนึ่ง ทำให้การเป็นหนี้สิน หรือการแสวงหาเครดิตนั้นง่ายเข้า |
และเมื่อดูภพที่ ๑๐ แล้ว ต้องดูภพที่ ๔ อีกภพหนึ่ง เพราะเป็นภพที่ให้แสงหรือส่งอิทธิพลถึงภพที่ ๖ ในฐานะทำเชิงมุม ๖๐º ต่อกัน |
ปัญหาที่จะต้องเอาภพนี้มาเกี่ยวข้อง ก็คือ หลักฐานในการกู้เงิน หรือการเป็นหนี้สิน ภพที่ ๔ หมายถึง ทรัพย์สิน ไร่นาสาโทและที่ดิน ก็หมายถึงว่า...เรามีหลักทรัพย์เพียงพอที่จะนำไปกู้เงิน หรือเป็นหนี้ได้ง่ายๆก็เป็นได้ แต่ถ้ามีดาวบาปเคราะห์อยู่ในภพนั้น ก็แสดงว่า...ทรัพย์สินในภพที่ ๔ นั้นมีปัญหามาก ก็จะต้องเอาบารมีของดาว ๕ ในภพที่ ๖ เข้าไปช่วย รอดหรือไม่รอด ต้องดูที่ดาวศุภเคราะห์และบาปเคราะห์ ๒ ดวงนี้ |
และเพื่อให้แน่นอนว่า....จะได้เงินหรือจะต้องเสียเงินเกี่ยวกับเรื่องหนี้สินที่ว่านี้
|
ก็จะไปดูที่ภพที่ ๒ อีกภพหนึ่ง เป็นภพที่จะตัดสินได้เด็ดขาด เพราะเป็นภพที่เป็นตรีโกณกับภพที่ ๖ และภพที่ ๑๐ |
นอกจากนี้อะไรที่เป็นความหมายของภพที่ ๖
|
ก็ทายไปได้เลย |
ดาว ๕ สถิตภพปัตนิ
|
ถ้าดาว ๕ เข้าไปสถิตในตำแหน่งที่ดี และถูกกฎเกณฑ์ที่ดี |
เจ้าชะตาจะได้คู่ครองที่ดี มีความรักใคร่กันด้วยความสุจริตใจ เป็นคนมีฐานะที่ดี จะตั้งตัวได้เป็นหลักเป็นฐานหลังจากการสมรส จะได้รับการช่วยเหลือในการทำมาหากินโดยไม่ต้องออกเหงื่อออกแรง ผลประโยชน์ที่พึงได้จะไม่มีปัญหา พรรคพวกที่เคารพนับถือกันจะให้ประโยชน์มาก และคบหากันด้วยความสุจริตใจ |
แต่ถ้าดาว ๕ สถิตในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง และผิดกฎเกณฑ์อันจะทำให้คุณสมบัติของดาว ๕ ลดลง |
ก็จะต้องทายในความหมายที่เป็นตรงกันข้าม หรือถ้าให้ผลดีก็ไม่ได้เต็มที่ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ดาว ๕ ดวงนี้จะช่วยและคุ้มครองเจ้าชะตาให้รอดปลอดภัยได้ |
โบราณว่า...
|
จะมีการศึกษาสูง จะมีโชคในด้านการเงินและการทำมาหากิน จะมีภรรยาที่มีการศึกษาสูงเช่นเดียวกัน มีความเอาใจใส่ต่อสามี |
ถ้าเจ้าเรือนที่ ๗ ไม่เข้มแข็ง และมีความสัมพันธ์กับดาว ๗ , ๘ , ๙ , ๓ หรือมีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ดวงใดดวงหนึ่ง |
เจ้าชะตาจะมีความสัมพันธ์ลับๆกับผู้หญิงอื่นมากกว่าภรรยาของตนเอง |
ถ้าดาว ๕ มีความสัมพันธ์กับศุภเคราะห์ หรือสถิตในเรือนของตนเอง หรือสถิตในราศีที่เป็นมหาอุจ |
เจ้าชะตาจะมีภรรยาคนเดียว และจะประสบความร่ำรวยเพราะภรรยา จะมีความสุขได้รับความนับถือจากชนทั่วไป |
ภพที่ ๗ โหรไทยว่าเป็นภพที่ไม่ให้คุณ เพราะเป็นภพเล็ง โหราศาสตร์สากลก็ถือมาก เพราะมีเชิงมุม ๑๘๐° กับลัคนา จะให้โทษทั้งสิ้น
|
ความจริงจะบอกให้ว่า...เพียงแต่สร้างความเคร่งเครียดให้เท่านั้นเอง โบราณก็ไม่ได้บอกผลร้ายแต่ประการใด เนื่องจากเป็นดาวศุภเคราะห์
ยกเว้นดาว ๖ ที่โบราณกล่าวเป็นคำกลอนไว้ว่า.."ศุกร์เจ็ดอาจารย์เจ้าว่าร้อนนิรันดร์" ซึ่งท่านคงจะหมายถึงความรักและกามารมณ์ และการเปลี่ยนคู่ครองไปเรื่อยๆ แต่คำพยากรณ์เป็นคำกลอนของโบราณไม่ถูกต้องเสมอไป
แต่ปัจจุบันท่านว่า...อย่างไรก็ตาม ดาว ๕ ในภพที่ ๗ ให้ผลดีแก่เจ้าชะตาแน่นอน |
ภพที่ ๗ หมายถึง
|
ความสัมพันธ์ทางโลก หรือการติดต่อสัมพันธ์ในแง่โลกียะ เรื่องเกี่ยวกับคู่ครอง พันธกรณีตามกฎหมาย เรื่องในครอบครัว ความสัมพันธ์ในต่างประเทศ และการมีชื่อเสียงในต่างประเทศ ชีวิตในด้านกามารมณ์
ทุกความหมายเหล่านี้ดาว ๕ จะบันดาลให้เจ้าชะตาประสบความสุขอย่างไม่ต้องสงสัย ชีวิตจะดำเนินไปอย่างราบรื่น แม้แต่ในเรื่องการทำมาหากิน การคบหาสมาคมกับผู้อื่น การลงทุนร่วมกับผู้อื่น ก็สามารถวางใจได้และจะประสบความสำเร็จราบรื่นทุกประการ |
ดาว ๕ ในภพนี้ เป็นดวงชะตาของคนมีบุญวาสนา
|
ในชีวิตมีแต่ได้กับได้ ทำหรือไม่ทำก็ได้ เพราะมีคนอื่นคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา |
ท่านว่า...มีปัญหาอยู่เล็กน้อย ก็คือ ถ้าดาว ๕ สถิตในราศีธาตุไฟ
|
โอกาสจะร่ำรวยมีมาก
ถ้าสถิตราศีธาตุน้ำ ก็ยังดีอยู่แต่รวยสู้ราศีธาตุไฟไม่ได้ (ต้องดูว่า ธาตุไฟเป็นราศีอะไร ถ้าเป็นราศีเมษ, ธนู ก็โอเค แต่ถ้าเป็นราศีสิงห์ อาจจะรวยน้อยหน่อย) แต่ที่สำคัญที่สุด กลุ่มดาวฤกษ์,นวางค์,ตรียางค์ ที่ดาว ๕ เข้าไปสถิตจะต้องปลอดโปร่ง หลักเกณฑ์ต่างๆจะต้องถูกต้อง ดาว ๕ จะให้ความสุขความสำเร็จอย่างที่ว่าแน่นอน |
ดาว ๕ จะต้องไม่มีความสัมพันธ์ร้ายกับดาวบาปเคราะห์อย่างเด็ดขาด |
เพราะจะทำให้อิทธิพลของดาว ๕ เบาลง อาจถูกสกัดกั้นในการให้โชคและให้โอกาสได้มาก |
ดวงชะตาคนทุกคน จะมีดาวศุภเคราะห์และบาปเคราะห์ โคจรวนเวียนกันอยู่เป็นประจำ |
โอกาสที่ดาวดีและดาวร้ายจะปะทะกัน ไม่ว่าดีหรือร้ายต้องเกิดขึ้นแน่นอน และดาวดีดาวร้ายก็จะไม่ให้คุณทั้งหมด ไม่ให้โทษทั้งหมด เฉพาะดาวร้ายหรือบาปเคราะห์ถ้าหากมีระยะเชิงมุม เป็น ๓ เป็น ๕ เป็น ๙ เป็น ๑๑ กับดาวศุภเคราะห์แล้ว ( ๖๐° , ๑๒๐° ) ดาวร้ายเหล่านี้ก็จะกลับให้คุณ(บาปเคราะห์ต้องเป็นจุดตั้งรับ) เช่น ดาว ๗ และดาว ๕ ถ้าหากมีโยคเกณฑ์ดีต่อกัน ดาว ๗ และดาว ๕ ก็จะนำเจ้าชะตาให้ประสบโชคลาภ และความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงชนิดที่คาดไม่ถึง
แต่เพราะอิทธิพลของดาว ๗ ซึ่งเป็นบาปเคราะห์ และเป็นดาวแห่งการต่อสู้ การรอคอย ความล่าช้า และความอืดอาด ทำให้การให้คุณของดาวคู่นี้ ต้องใช้ความอดทนรอคอย กว่าจะได้ต้องใช้เวลานาน หรือน่าเบื่อหน่าย หรือต้องฝ่าฟันอุปสรรคอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ท่านยืนยันว่าต้องได้แน่นอน |
แต่ว่าดาว ๗ และดาว ๕ จะต้องไม่กุมกัน หรือเล็งกัน หรือเป็นจตุโกณต่อกัน |
สามมุมนี้ถือว่า...เป็นระยะเชิงมุมหรือความสัมพันธ์ที่ให้โทษอย่างมาก ( ๐° , ๙๐° ,๑๘๐° ) ชีวิตครอบครัวจะเป็นไปในลักษณะบ้านแตกสาแหรกขาด ทำมาหากินไม่มีวันเจริญ และในที่สุดก็ต้องแตกแยกกันไป ชีวิตการงานล้วนแต่มีอุปสรรค เมื่อไหร่ดาวคู่นี้ทำมุมดังกล่าว อย่าได้คิดทำเรื่องผิดกฎหมายหรือความชั่วเป็นอันขาด การถูกจับ ติดคุกติดตะราง และการมีเรื่องมีราวเดือดร้อนย่อมเกิดขึ้นได้ในชีวิต เว้นแต่จะมีดาวศุภเคราะห์ดวงอื่นๆกุมลัคนาช่วยเหลืออยู่เท่านั้น จึงพอจะไปรอด |
แต่สำหรับดาวราหู ถ้าหากไม่มีระยะเชิงมุมที่กุมกันสนิทองศา หรือเล็งกัน หรือทำมุม ๙๐° ต่อกัน |
ดาว ๘ จะให้คุณมาก เมื่อมีระยะเชิงมุมที่ดีกับดาว ๕ ในภพที่ ๗ นี้เข้า อย่างไม่ได้อะไรเลย ก็จะได้คู่ครองที่รวยไม่รู้เรื่องเอาเลยทีเดียว |
ท่านว่า...
|
ให้เชื่อขนมกินได้ ดาวบาปเคราะห์ดวงใดก็ตาม ถ้ามีความสัมพันธ์ดีกับดาว ๕ ตามกฎเกณฑ์แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ภพไหนในดวงชะตา ทั้งดาวบาปเคราะห์และดาว ๕ จะร่วมกันให้คุณแก่เจ้าชะตาทุกประการ ถ้าดาวทุกดวงสถิตในตำแหน่งที่ดี |
ดาว ๕ สถิตภพมรณะ
|
จะทำให้เจ้าชะตาได้รับปันผลจากหุ้นส่วน ได้รับมรดกทรัพย์สินตามพินัยกรรม แม้แต่เงินประกันชีวิตและเงินประกันภัย และโชคอื่นๆเข้ามาถึงมือไม่ขาดสาย รวมแล้วก็คือ เป็นชะตาที่หาเงินง่ายหรือมีทางได้หลายทาง ยกเว้นแต่ดาว ๕ ดวงนั้นจะได้รับความสัมพันธ์จากบาปเคราะห์ในระยะเชิงมุมร้ายเท่านั้น (ดวงเดิม) การทำนายที่ดีและความราบรื่นจะถูกตัดทอนไป แต่ถึงกระนั้น จังหวะที่จะประสบความสำเร็จได้ก็มีอยู่เสมอ |
ว่ากันว่า ดาว ๕ ในภพนี้
|
จะทำให้เจ้าชะตามีความรู้เล็กๆน้อยๆมากมายหลายอย่าง เวลาแตกดับก็ตายไปด้วยความสงบ |
ท่านกล่าวว่า...
|
จะมีอายุสั้น ชอบประพฤติปฎิบัติแต่เรื่องเหลวไหล ถ้าดาว ๕ มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ (ดวงเดิม) เจ้าชะตาเป็นคนชอบทำความชั่ว ขอย้ำ..ต้องมีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ในดวงเดิมเท่านั้น |
ถ้าหากเจ้าเรือนมรณะ มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ (ท่านกล่าวในลักษณะนี้น่าจะเป็นทั้งดีและร้าย ซึ่งการให้โทษจะมากน้อยหนักเบาไม่เท่ากัน) |
บาปเคราะห์มีความสัมพันธ์เป็นเชิงมุมร้าย |
จะให้โทษสูงมาก |
บาปเคราะห์มีความสัมพันธ์เป็นเชิงมุมดี |
จะให้คุณในแบบทุกขลาภ มีให้โทษแต่เบาและน้อยกว่า ถ้าให้คุณก็ต้องมีเคราะห์หรือมีอุปสรรคก่อนเสมอไป |
ถ้าหากเจ้าเรือนมรณะ สถิตเป็นเกษตรในภพที่ ๘ |
จะมีอายุยืน |
ถ้าหากเจ้าเรือนภพที่ ๘ มีกำลังอ่อนแอ |
จะมีอายุสั้น |
ถ้าหากเจ้าเรือนภพที่ ๘ มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ |
จะมีความสัมพันธ์ลับๆกับแม่ม่ายหลังอายุ ๑๗ ปี |
ถ้าดาว ๕ เป็นเกษตร,มหาอุจ
|
จะเป็นคนอายุยืน จะปลอดภัยจากโรคร้ายและเป็นคนใจบุญใจกุศล มีการศึกษา จะชำนาญในการท่องบทสวดมนต์และบรรดาความรู้เก่าๆ |
ถ้าดาว ๕ ในภพมรณะเป็นดาว ๕ ที่บริสุทธ์ (ดวงเดิมมีความสัมพันธ์ดีกับศุภเคราะห์) และได้รับโยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์ในดวงจรแล้ว |
ท่านให้ทายถึงความยืนยาวของชีวิต ซึ่งน่าจะเชื่อถือได้ เพราะดาว ๕ ในภพนี้เป็นดาวศุภเคราะห์ น่าจะทำให้ตายยากกว่าปกติ เพราะแม้แต่ดาว ๗ ซึ่งเป็นบาปเคราะห์สถิตในภพนี้ ท่านยังกล่าวว่า...ทำให้เจ้าของดวงอายุยืนด้วยซ้ำไป |
ปัจจุบันนี้ ความหมายของภพที่ ๘ ที่ใช้กันอยู่ มักจะเกี่ยวกับเรื่อง |
ทรัพย์สินมรดก บ้านเรือน ที่ดิน เงินปันผลหรือดอกเบี้ยที่เจ้าชะตาพึงจะได้มา จากการเก็บออมหรือจากบรรพบุรุษ |
ถ้าถามว่า...
|
จะได้รับหรือมีสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ถ้าได้รับจะมีการฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลหรือไม่ และจะได้มากได้น้อยขนาดไหน ต้องดูที่ดาว ๕ ที่สถิตในภพนี้ |
ถ้าดาว ๕ ในภพนี้ไม่มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ (ดวงเดิม) หรือไม่ได้รับโยคเกณฑ์จากบาปเคราะห์ (ดวงจร) และดาว ๕ ที่บริสุทธ์ตามที่ว่ามานั้น |
ย่อมยืนยันได้ว่า....จะได้มาอย่างง่ายดาย ปลอดโปร่งและเป็นที่พอใจอย่างไม่มีปัญหา |
แต่ถ้าดาว ๕ มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์หรือได้รับโยคเกณฑ์ และสถิตในลักษณะที่ไม่ดีอื่นๆ ก็จะต้องทายไปในทางด้านร้าย |
อยู่ที่ว่า..จะทายร้ายหนักร้ายเบาเท่านั้น เรื่องที่จะได้มาแบบหวานๆหรือสบายๆนั้นไม่มี ปัญหามันต้องมีแต่โหรผู้มีบุญฤทธ์ก็สามารถแก้ไขได้ แต่ต้องเสียค่าครูบ้างเป็นธรรมดา |
ถ้าดูในลักษณะที่ว่า...ภพที่ ๘ เป็นภพกฎุมพะของภพที่ ๗
|
ซึ่งหมายถึงภพคู่ครอง ผู้ที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน หุ้นส่วนชีวิตหรือหุ้นส่วนทางธุรกิจ ปัญหาที่จะต้องถามโหรก็คือว่า....คนเหล่านี้จะนำความยุ่งยากความวิบัติหรือการฉ้อโกงมาสู่เจ้าชะตาหรือไม่ โหรสามารถตอบได้ว่า....ถ้าดาว ๕ ไม่ได้สถิตในตำแหน่งที่เสื่อมเสียแต่อย่างใด (ปกติดาว ๕ สถิตมรณะก็เป็นภพที่เสื่อมอยู่แล้ว แต่ในกรณีดูให้ละเอียดถี่ยิบลงไป) ก็ต้องดูว่า..ณ. เวลาเกิดดาว ๕ มีพิกัดอยู่ในตำแหน่งที่เข้มแข็งหรือเปล่า เป็นพิสุทธิฤกษ์หรือเปล่า นวางค์และตรียางค์เป็นศุภเคราะห์หรือบาปเคราะห์ถูกนวางค์เสื่อมหรือตรียางค์พิษหรือไม่ ถ้าไม่...ก็ยืนยันไปได้เลยว่า ปัญหาร้ายๆเหล่านั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ แต่ตรงกันข้าม จะได้พบแต่คนดีๆที่นำลาภผลมาให้ตลอดชีวิตเลยก็ว่าได้ ก็ต้องปรึกษาโหรดู เพราะว่าเขาเรียนและศึกษามาอย่างหนักและสาหัสสากรรจ์เลยทีเดียว เพราะตำราแต่ละเล่มได้ซ่อนเงื่อนปมเอาไว้มาก ชนิดทำให้สติฟั่นเฟือนเอาได้ง่ายๆ ก็แล้วแต่โชคของแต่ละคนว่า... จะได้โหรที่ดีเป็นนักโหราศาสตร์ตัวจริงหรือเป็นแค่นัก โง่ลาสาด หรือเป็นหมอเดากันน้ำลายเยิ้มเรียกค่าสะเดาะเคราะห์เป็นหมื่นๆ |
ถ้าดาว ๕ อยู่ในภพกฎุมพะของภพคู่ครอง และเป็นดาว ๕ ที่บริสุทธ์ด้วยประการทั้งปวง |
ในชีวิต ท่านจะไม่พบกับความเศร้าโศรกเสียใจหนักๆแต่อย่างใด ทำมาหากินอะไร ก็จะคล่องไปเสียทุกอย่าง เพิ่มความร่ำรวยให้แก่ตนเองมากขึ้น แต่อย่าลืมให้ค่าครูโหรมากๆหน่อยล่ะ ประเดี๋ยวโหรจะรวยสู้อาชีพอื่นไม่ได้ |
ดาว ๕ สถิตภพศุภะ
|
โบราณถือว่า...เป็นภพที่ให้คุณเรียกว่า "ธนูเกณฑ์ "
|
ถ้าหากภพที่ ๙ เป็นราศีธนู(เกษตร) หรือกรกฎแล้ว (มหาอุจ) จะให้คุณมาก ถ้าบวชเรียนในทางศาสนาจะได้รับตำแหน่งใหญ่โต มีสมณศักดิ์ เทียบเท่าพระเหยียบชั้นฉันเพล
ถ้าอยู่ฆราวาสวิสัย จะเป็นผู้มีความรู้แตกฉานในทางด้านอักษรศาสตร์ กฎหมาย และวิชาเกี่ยวกับธรรมมะ
ถ้าหากมีดาว ๑ และดาว ๒ มีระยะเชิงมุมดีกับดาว ๕ ในตำแหน่งนี้ เจ้าชะตาจะได้เดินทางไปต่างประเทศ ทั้งไปเพื่อการศึกษา หรือรับตำแหน่งหน้าที่การงานที่สำคัญๆ จะได้รับตำแหน่งที่มีเกียรติในฐานะตัวแทนของประเทศ
ไม่ว่าชะตาใดที่มีดาว ๕ ในภพที่ ๙ ไม่ว่าพื้นเพเดิมจะลำบากยากจน หรือต่ำต้อยมาอย่างไรก็ตาม ก็จะประสบความสูงส่งในชีวิตที่คาดไม่ถึงทุกด้าน เรียกได้ว่า..เป็นคนมีบุญญาธิการ มีวาสนาแรงกล้า อยากได้อะไรก็จะประสบความสำเร็จและสมหวัง |
ยกเว้นแต่ดาว ๕ จะสถิตในตำแหน่งที่ไม่ดี และมีความสัมพันธ์ร้ายกับดาวบาปเคราะห์ในดวงเดิม หรือมีโยคเกณฑ์ร้ายกับบาปเคราะห์ในดวงจร |
จะทำให้เกิดอุปสรรคและปัญหา ผลที่ได้ไม่เต็มที่ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับดาว ๗ แต่กับดาว ๘ ถ้ามีความสัมพันธ์เป็น ๓ เป็น ๕ เป็น ๙ เป็น ๑๑ ต่อดาว ๕ หรือมีระยะเชิงมุมเป็น ๖๐º , ๑๒๐º แล้ว จะรวยมาก และจะประสบโชคดีอย่างไม่คาดฝัน |
เจ้าชะตาจะเป็นคนชอบทำพิธีกรรมทางศาสนา ชอบทำบุญ สนใจในการนั่งสมาธิ และกิจกรรมทางศาสนา มีความมั่งคั่ง ทั้งเจ้าชะตาและบิดาจะมีอายุยืน จะเป็นคนที่มีแต่คุณงามความดี จะได้รับความเคารพนับถือจากทุกสารทิศ และยังให้ความคุ้มครองแก่คนอื่นได้อีกด้วย |
เรื่องของภพที่ ๙ ไม่ว่า...
จะมีดาวบาปเคราะห์ใดๆเข้าไปสถิตก็ตาม
|
ผลร้ายจริงๆหรือรุนแรงถึงแก่ชีวิตไม่มี หรือถ้ามีเรื่องร้ายก็สามารถแก้ไขได้ หรือเป็นเพียงชั่วระยะใดระยะหนึ่งเท่านั้น เพราะฉะนั้น เมื่อดาว ๕ สถิตในภพนี้ ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพะวงถึงในเรื่องร้ายๆ ขอให้มีปัญญาเท่านั้นเป็นพอ ถ้าดาว ๕ ไม่สถิตในที่เสื่อม หรือตกอยู่ในกฎเกณฑ์ที่ไม่ดีแล้ว ก็ทำนายได้แต่ในทางที่ดีทางเดียวเท่านั้น |
ดาว ๕ ยังส่งผลดีไปถึงภพที่ ๑ , ๓ , ๕ , ๑๑
|
เพราะฉะนั้นดาว ๕ จึงส่งผลไปยังภพที่ ๑ เป็นภพแรก และก็ภพที่ ๕ ซึ่งเป็นตรีโกณต่อกัน แล้วก็ไปภพที่ ๑๑ และจากนั้นก็เป็นภพที่ ๓ |
ไม่ว่าดาวดีดาวร้ายจะไปทำลายภพเหล่านี้ให้ได้รับอันตราย หรือเกิดความเสียหายขึ้นมาก็ตาม |
ดาว ๕ ในภพที่ ๙ จะสามารถช่วยผ่อนผันบรรเทาให้ได้ทีเดียว |
เรื่องของดาว ๕ ในทางคุณงามความดี ไม่ต้องพูดถึง เพราะเป็นคุณสมบัติ ของดาว ๕ อยู่แล้ว |
แต่เรื่องของดาว ๕ จะให้คุณสำหรับชีวิตสมัยใหม่ อย่างแรกก็คือ การทำมาหากิน และช่องทางทำมาหากิน ไม่ว่าจะต่ำต้อยด้อยศักดิ์ หรืออดอยากยากแค้นอย่างไร ในระยะหนึ่งของชีวิต เจ้าชะตาจะประสบความสำเร็จและความร่ำรวยขึ้นมาจนได้ และสามารถทำมาหากินได้เป็นอย่างดี พร้อมกับการได้รับตำแหน่งหน้าที่สูงๆ ที่สำคัญที่สุดก็คือ เจ้าชะตาจะเป็นนักวิชาการ ระดับชั้นแนวหน้า |
ส่วนใหญ่แล้ว คนที่มีดาว ๕ ในภพนี้
|
ควรจะเรียนทางด้านเศรษฐกิจ การเงิน การธนาคาร หรือการตลาด การค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ |
ดาว ๕ สถิตภพกัมมะ
|
ดาว ๕ ในภพที่ ๑๐
|
เป็นดาวที่จะช่วยเจ้าชะตาอย่างมากในเรื่องการสร้างเกียรติยศและชื่อเสียง ถ้าดาว ๕ ดวงนี้ไม่มีความสัมพันธ์กับดาวบาปเคราะห์ใดๆ และไม่มีระยะเชิงมุมร้ายใดๆ โดยเฉพาะระยะ ๐° , ๙๐° ,๑๘๐° ต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับดาว ๗ , ๘ จะมีระยะเชิงมุมร้ายไม่ได้ ความหมายทุกอย่างจะถูกทำลายให้เป็นตรงกันข้าม แต่ถ้าดาว ๗ , ๘ มีระยะเชิงมุมดี เป็น ๖๐° , ๑๒๐° จะทำให้เจ้าชะตารุ่งโรจน์และร่ำรวยอย่างอึกทึกครึกโครมไปเลย และจะให้แต่ผลดี ไม่ว่า...การงานส่วนตัวหรือธุรกิจใดๆก็ตาม จะประสบความสำเร็จด้วยดี เหมาะกับงานใหญ่ที่มีการขยายตัวอยู่ตลอดเวลา ดาว ๕ ในภพกัมมะ ต้องถือว่าไม่ใช่ดาว ๕ ธรรมดา
|
ดาว ๕ ในภพนี้ โดยทั่วไป |
จะเป็นคนมีจิตใจที่ฝักใฝ่ในศาสนาและจะใช้ชีวิตไปในการกระทำคุณงามความดี ศึกษาหาความรู้ในเรื่องเก่าแก่,โบราณคดี และจะเป็นผู้มีความสามารถ จะมีชื่อเสียงแพร่กระจายไปอย่างกว้างขวาง และได้รับความเคารพนับถือจากคนทั่วไป |
ถ้าเจ้าเรือนภพที่ ๑๐ มีความเข้มแข็ง |
จะเป็นผู้ชอบทำบุญทำทาน |
ถ้าเจ้าเรือนกัมมะมีความสัมพันธ์หรือสถิตอยู่ในเรือนบาปเคราะห์ |
ชีวิตจะมีแต่อุปสรรคในอาชีพการงาน และจะใช้ชีวิตอีลุ่ยฉุยแฉกในด้านการทำความชั่ว และจะมีความยากลำบากในทางการเงิน |
ภพที่ ๑๐ เป็นภพที่มีความหมายสูงสุดภพหนึ่งในดวงชะตาคน |
เพราะดวงใครจะดีจะร้าย หรือจะได้ลาภผลและความสุขสบายในชีวิต เราจะมาดูกันที่ภพนี้เป็นภพสุดท้าย เพราะภพกัมมะนั้น จะบอกถึงชีวิตและความเป็นอยู่ เฉพาะทางด้านครอบครัวและทรัพย์สิน (ที่จะดูได้ในภพที่ ๔ เพราะภพที่ ๑๐ จะกระเทือนไปถึง ) ในขณะเดียวกันภพที่ ๑๐ จะกระเทือนไปถึงภพที่ ๖ ซึ่งเป็นภพที่เกี่ยวกับธุรกิจการงาน การทำมาหากิน และการรับใช้บริการ หรือการออกเหงื่อออกแรงของเจ้าชะตา และภพที่ ๒ ซึ่งเป็นภพตรีโกณอีกภพหนึ่ง ซึ่งหมายถึงการเงินของเจ้าชะตา ถ้าหากภพที่ ๑๐ อยู่ในสภาพดี หรือเฉพาะอย่างยิ่งมีดาว ๕ สถิตอยู่ ดาว ๕ ดวงนี้จะบอกและสรุปชีวิตและความเป็นอยู่ของเจ้าชะตาอย่างชัดเจนว่า....เจ้าชะตาจะเป็นคนที่มีชีวิตประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งอย่างใด? เพราะอะไร? |
ในตำราเดิมบอกว่า....
|
จะมีตำแหน่งสูงถึงขนาดผู้บริหารบ้านเมืองเอาเลยทีเดียว ถ้าเป็นข้าราชการก็จะเป็นระดับชั้นผู้ใหญ่ จะมีตำแหน่งสูง ในขณะเดียวกัน ถ้าเป็นนักการเมืองก็จะเป็นนักการเมืองที่มีตำแหน่งสูงคนหนึ่ง |
ขอให้ดาว ๕ ที่สถิตในภพที่ ๑๐ |
เป็นดาว ๕ ที่สถิตในราศีที่ดี และไม่มีความสัมพันธ์ร้ายกับดาวเคราะห์อื่นๆ ไม่ว่า...จะเป็นบาปเคราะห์หรือศุภเคราะห์ |
ดาว ๕ จะให้โทษมากที่สุดก็ต่อเมื่อกุมกับดาว ๗ , ๘ , ๑ ในระยะประชิดองศา เท่านั้น |
ที่จะให้โทษ ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนคุณสมบัติของดาว ๕ ไปในทางตรงข้ามทุกด้าน |
ถ้าหากมีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ก็จะต้องมีเชิงมุมที่ไม่เป็น ๙๐°, ๑๘๐°,๑๕๐° |
ดาว ๕ ดวงนี้จะช่วยพลิกคำทำนายในด้านไม่ดีเป็นด้านดีได้โดยไม่ต้องกลัวผิด |
ถ้าดาว ๕ มีความสัมพันธ์ดีกับดาวบาปเคราะห์
|
อาจจะต้องมีปัญหาและอุปสรรค หรือมีเคราะห์อะไรเกิดขึ้นบ้างในระยะแรกๆ แต่ถ้าดาว ๕ มีโยคเกณฑ์ดีกับดาวบาปเคราะห์ หรือศุภเคราะห์ตัวใดก็ตาม ดาว ๕ ในภพที่ ๑๐ จะให้ผลดีต่อดวงชะตาในเรื่องต่างๆตามความหมายของภพที่ ๑๐ อย่างไม่มีข้อยกเว้น ความสำคัญของภพที่ ๑๐ มีมากมายหลายประการ แต่ที่แน่นอนที่สุดก็คือ ฐานะทางสังคม ตำแหน่งหน้าที่การงาน เกียรติยศ และชื่อเสียง |
ดาว ๕ สถิตภพลาภะ
|
เจ้าชะตาจะเป็นผู้คงแก่เรียน มั่งคั่งร่ำรวย และทำมาหากินคล่อง อายุ ๓๒ จะมีข้าวของเครื่องใช้มากมาย พร้อมทั้งรถยนต์ จะมีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่ว่า...ดาว ๕ ดวงนี้จะมีความสัมพันธ์กับศุภเคราะห์หรือบาปเคราะห์ก็ตาม เจ้าชะตาจะมีทรัพย์สินเงินทอง และจะเป็นผู้มีโชคดีตลอดไป "ถ้าดาว ๕ มีความสัมพันธ์ดีกับดาว ๒ แล้ว เจ้าชะตาจะมีทางได้เงินโดยไม่ต้องใช้ความมานะพยายาม" |
ภพที่ ๑๑ เป็นภพที่ยืนยันถึงลาภผล และการทำมาหาได้ ของเจ้าชะตาอย่างแท้จริง |
คนเราถ้าหากชีวิตมีแต่การทำมาหาได้ และมีแต่ลาภแล้ว ความลำบากหรือปัญหาและอุปสรรคต่างๆมันก็ไม่มี หรือมีก็น้อย นอกจากโรคภัยไข้เจ็บหรืออุบัติเหตุ แต่อย่างไรก็ตาม ดาว ๕ เป็นศุภเคราะห์ เมื่อเข้าสถิตในภพที่ดีในดวงชะตาแล้ว ก็สามารถจะปกป้องแผ่ส่วนกุศลไปถึงภพที่เกี่ยวกับลาภผลและการทำมาหาได้ทั้งนั้น |
ภพที่ ๑๑ เป็นภพที่เป็นโยคหลังของลัคนา และเป็นโยคหน้าของภพที่ ๙ |
ซึ่งเป็นภพที่เป็นปุพเพกตะบุญตาที่เป็นของโชคลาภและบุญวาสนาอีกภพหนึ่ง รวมไปถึงภพที่ ๕ ซึ่งเป็นมุมเล็ง ทุกภพที่เป็นภพที่ส่งเสริมและให้คุณแก่ดวงชะตา จะเป็นภพที่ดาว ๕ ในภพที่ ๑๑ ส่งแสง หรือเป็นโยคเกณฑ์ที่ดีส่งแสงถึงหมด เพราะฉะนั้น ถ้าจะพูดกันไปแล้ว ภพลาภะมีดาวศุภเคราะห์ที่ให้คุณสูงอย่างดาว ๕ เสียอย่าง ดวงชะตาไม่ว่า...จะชั่วร้ายอย่างไรก็ตาม ก็จะให้โทษไม่ถึง ๕๐% หรืออาจจะไม่ถึง ๑๐ %เสียด้วยซ้ำไป ยกเว้นแต่ดาว ๕ จะเป็นดาวดับ คือ ถูกกุมด้วยดาว ๑ ในระยะประชิดองศา จนถูกแสงของอาทิตย์กลบหมด หรือถูกกุมด้วยดาว ๗ , ๘ ในระยะไม่ห่างกันมากกว่า ๓ ํ ถ้ามีความสัมพันธ์ในรูปดังกล่าว ดาวร้ายเหล่านี้จะทำให้คุณสมบัติและการให้ผลของดาว ๕ เปลี่ยนแปลงไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ดาว ๕ ดวงนี้จะสามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะอวดอ้างสรรพคุณตนเอง ใช้ความรู้ที่มีอยู่ในลักษณะเดรัจฉานวิชา และทำบาปด้วยสติปัญญาทุกชนิด โอกาสที่จะติดคุกติดตะราง หรือตายโหงก็อาจมีได้ ถ้ามีดาวบาปเคราะห์กุมดาว ๕ ในลักษณะอย่างนี้ |
ถ้าดาว ๕ มีความบริสุทธ์ ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ |
ถ้าใครมีลูกเต้าที่มีดาว ๕ ในภพที่ ๑๑ ในดวงชะตาแล้ว ไม่ต้องออกเหงื่อออกแรงอะไรมากมาย ทำมาหากินอะไรก็ขึ้น จะร่ำรวยมั่งคั่ง และเป็นสุขสบายก่อนที่ลูกจะโตขึ้นมาเพื่อช่วยให้สบายมากไปกว่าเดิมด้วยซ้ำ |
ดาว ๕ สถิตภพวินาศ
|
มักจะทำให้เจ้าชะตาเป็นคนที่มีเล่ห์เหลี่ยม ไหวพริบและพลิกแพลงร้อยแปดได้อย่างไม่หน้าเชื่อ ทั้งในการแสดงออกและเจรจาพาที ถ้าจะเกิดมาเพื่อต้มหมูหรือกะล่อนแล้วจะได้ประโยชน์มาก แม้ว่าจะต้องเผชิญภัยใดๆก็สามารถจะเอาตัวรอดได้ มีความรอบรู้ในเรื่องกฎหมายและลู่ทางที่จะช่วยตัวเอง สามารถคาดคะเนเหตุการณ์ต่างๆได้ถูกต้อง ถ้าต้องการศึกษาในวิชาการที่ลี้ลับ เข้าใจยาก แม้แต่วิชาโหราศาสตร์ก็จะให้ผลดี |
โบราณว่า...
|
เกิดมาจะเป็นคนยากจน จะเป็นคนที่สนใจในการศึกษาเล่าเรียน จะมีลูกเพียงสองสามคน จะเป็นคนที่มีความสามารถในทางคณิตศาสตร์ แต่จะมีบุคลิกลักษณะไม่ดีนัก ถ้าดาว ๕ มีความสัมพันธ์กับดาวศุภเคราะห์ หรือสถิตในราศีของตนเอง หรือราศีที่เป็นมหาอุจ เจ้าชะตาจะไปสู่สวรรค์หลังจากตายไปแล้ว เจ้าชะตาจะใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากเพื่อการกุศล จะมีโอกาสได้เสียกับคนชั้นสูง และผู้หญิงที่มีท้อง |
ความจริงภพที่ ๑๒ เป็นภพที่ท่านหมายถึง |
ภพของความหลุดพ้นที่เรียกว่า.."โมกษะ" หรือภพของความจบสิ้นของทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เราต่อสู้ดิ้นรนมาตั้วแต่ภพที่ ๑ ไม่ว่ากี่รอบต่อกี่รอบก็ตาม
|
พูดตามภาษาชาวบ้านแล้ว ภพที่ ๑๒ คือ |
ภพแห่งการสูญเสีย หรือการเสียสละ แต่การสูญเสียมีอยู่ ๒ ประการ คือ
๑. การสูญเสียที่เจ้าชะตาไม่ต้องการให้สูญเสีย แต่ต้องสูญเสียไป เพราะถูกปล้น หรือถูกขโมย หรือด้วยโรคภัยไข้เจ็บหรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งเจ้าชะตาไม่ต้องการให้มันเกิด ( การสูญเสียจะเป็นแบบข้อ ๑)
๒. การสูญเสียที่เจ้าชะตาพร้อมที่จะเสีย เช่น การทำบุญทำทาน การบริจาค การยอมให้ด้วยใจที่มีไม่อาฆาตพยาบาท หรือสูญเสียเพราะอยากให้มันเสีย เพื่อผลตอบแทนอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งเป็นการสูญเสียที่เจ้าชะตาพอใจ |
ภพวินาศ หมายถึง
|
การสูญเสียเพราะจะต้องอยู่ในที่จำกัด หรือถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว เพราะฉะนั้น การสูญเสียที่ว่านี้ก็น่าจะเป็นการเข้าโรงพยาบาล หรือการถูกกักบริเวณไม่ให้ออกไปเพ่นพ่านที่ไหนได้ |
การสูญเสียประการต่อมา คือ
|
ความหมดเปลืองในเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายโดยที่ไม่มีความจำเป็น และที่สำคัญอีกอย่าง ก็คือการใช้หนี้สิน ดาวใดที่โคจรเข้ามาในภพนี้ บอกถึงว่ามีหนี้สินที่ถึงเวลาที่จะต้องชำระแล้ว |
ดาว ๕ ในภพที่ ๑๒ จะส่งผลดีไปยังภพที่ ๔ |
ซึ่งได้แก่ บ้านช่อง ที่ดิน ทรัพย์สมบัติ และครอบครัวโดยส่วนรวม เพราะฉะนั้น จากภพที่ ๑๒ นี้เองจะบอกได้ว่าค่าใช้จ่ายในบ้าน ในครอบครัว ค่าผ่อนบ้านผ่อนรถ หรือการเปลี่ยนมือในการซื้อขายบ้านช่อง ที่ดิน และเป็นเรื่องไม่มีอะไรที่เร่งร้อนรุนแรงนัก เพราะดาว ๕ เป็นดาวศุภเคราะห์ที่สามารถทำลายล้างอิทธิพลของบาปเคราะห์ได้ |
นอกจากภพที่ ๔ แล้ว ภพที่ ๘ ก็ทำมุม ๑๒๐° กับดาว ๕ ในภพที่ ๑๒ |
ภพที่ ๘ หมายถึง รายได้จากการทำมาหากิน และหนี้สินอื่นๆด้วย ไม่ว่าดาวร้ายอะไรที่สถิตในภพที่ ๘ จะทำให้เกิดปัญหา อิทธิพลของดาว ๕ ในภพที่ ๑๒ นี้เองจะกุศลผลบุญไปช่วยเหลือได้ แม้จะถูกโกงรายได้จากคนทำมาหากินร่วมกัน หรือจากหุ้นส่วนสถานใดก็ตาม ก็ยังมีทางได้คืนมา |
|