ดาวศุกร์ เทพเจ้าแห่งความรัก
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีเมษ
|
จะให้ผลดีทางด้านการเงินและครอบครัว มีปฎิภาณไหวพริบในการปฎิบีติงาน จะได้ประกอบอาชีพที่สำคัญอย่างหนึ่ง แต่มักจะแสวงหาความเพลิดเพลินจากเพศตรงข้าม |
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีพฤษภ
|
จะมีร่างกายและจิตใจเข้มแข็ง ประกอบอาชีพด้วยความมานะอดทน มีทิษฐิมานะแรงกล้า มีความคิดสุขุม เร้นลับ เป็นผู้ที่มีความคิดแนวแน่ บริบูรณ์ด้วยทรัพย์สิน |
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีมิถุน
|
จะมีความสามารถในการติดต่อ มีปฎิภาณไหวพริบ เฉลียวฉลาดในการทำงาน จะทำงานด้วยปฎิภาณมากกว่าจะอาศัยวิชาความรู้ มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม |
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีกรกฎ
|
มีนิสัยสงบเงียบ มีสติปัญญาดี ใฝ่สันติ ได้รับความนับถือบางอย่างจากคนทั่วไป เจ้านายรักใคร่ การแต่งงานมักจะล่าช้า นอกจากฝ่ายตรงข้ามจะรุกเข้ามาจึงจะเร็วขึ้น |
ดาว ๖กุมลัคน์
ราศีสิงห์
|
จะเป็นคนทำนองที่ชอบทำอะไรแบบต้นคดปลายตรง กระทำการใดๆด้วยความจริงใจ ไม่ชอบการใช้ไหวพริบเล่ห์เหลี่ยม กล้าได้กล้าเสีย เป็นคนขยันขันแข็ง ต้องการทำทุกอย่างด้วยความโก้เก๋ และต้องเด่นกว่าคนอื่นๆ |
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีกันย์
|
ชีวิตมักจะพบอุปสรรคอย่างมากมาย จะพบกับความวิบัติในเบื้องต้น แล้วจึงจะพบความเจริญในบั้นปลาย เป็นคนรักสวยรักงาม ร่างกายจิตใจมักจะอ่อนแอ แต่งงานกับคู่ครองที่ไม่ใช่คนบริสุทธ์ |
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีตุลย์
|
เป็นผู้มีจิตใจสูง มีวิธีการลึกซึ้ง ทำงานทั้งหลายด้วยความเฉลียวฉลาด มีน้ำอดน้ำทน ทองเห็นการณ์ไกล ชอบความยุติธรรม จะปกครองบ้านเมืองให้ทุกคนได้รับความสุขเท่าเทียมกัน |
ดาว ๖กุมลัคน์ราศีพิจิก
|
จะเป็นคนมีอารมณ์ใคร่ผิดปกติธรรมดา จะให้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินตัว การงานจะทำให้ต้องย้ายที่อยู่เสมอ เฉลียวฉลาดและรอบคอบในการทำมาหากิน |
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีธนู
|
จะเป็นคนหนักเอาเบาสู้ ในกิจการงานทุกอย่าง หวังเพื่อเพิ่มพูนรายได้เท่านั้น มีการหาเงินด้วยวิธีอันชาญฉลาด ชอบคลุกคลีในเรื่องกามารมณ์ |
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีมังกร
|
จะเป็นคนมีรูปร่างเป็นเสน่ห์ ดำเนินชีวิตไปได้ดีทุกทาง ได้รับความนับถือจากบุคคลทั่วไป พอใจเรื่องความสวยงามและงานศิลปะ แต่จะมีจิตใจขุ่นมัวอยู่เสมอ |
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีกุมภ์
|
จะเห็นบุคคลที่มีแต่ความผาสุข มักจะมีโชคอยู่เสมอ จิตใจมีศีลธรรม จะได้รับผลดีจากการประกอบการงาน แต่จะมีศัตรูคอยรบกวนกลั่นแกล้ง |
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีมีน
|
เป็นผู้มีความสุภาพอ่อนน้อม บริบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง ปราศจากความกังวลวุ่นวายในชีวิต การแต่งงานมักจะมีมากกว่า ๑ ครั้งในชีวิต |
ดาว ๖ สถิตภพตนุ
|
ดาว ๖ สถิตภพที่ ๑ หรือกุมลัคนา
|
เจ้าชะตาจะมีความชำนาญในวิชาคณิตศาสตร์ จะมีอายุยืน ได้รับความรักมากจากภรรยา ชอบเครื่องประดับตบแต่ง แต่งตัวดี และชอบสวยงาม ถ้าเป็นผู้ชายจะถูกรุมจีบจากผู้หญิง จะมีความร่ำรวยและเป็นคงแก่เรียน |
ถ้าดาว ๖ มีความสัมพันธ์กับดาวศุภเคราะห์
|
เจ้าชะตาจะมีความเฉิดฉายงดงาม เพราะเครื่องประดับตกแต่งอันมีค่าและสวยงาม |
แต่ถ้าดาว ๖ มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ หรือสถิตในเรือนนิจ |
เจ้าชะตาจะเป็นโจร หรือนักหลอกลวง จะได้รับความทุกข์ทรมานจากโรครูมาติซึ่ม และโรคที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
และถ้าเจ้าเรือนตนุ มีความสัมพันธ์กับดาว ๘ เจ้าชะตาจะเป็นโรคบวมน้ำ ส่วนมากจะเป็นที่ลูกอัณฑะ |
ถ้าดาว ๖ สถิตในภพที่ ๑ หรือภพที่ ๔ และถูกกุมด้วยดาวศุภเคราะห์ |
เจ้าชะตาจะมีรถยนต์ยวดยานพาหนะต่างๆเป็นของตนเอง จะประสบความร่ำรวยมากมาย ถ้าดาว ๖ สถิตในเรือนของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นราศีพฤษภ หรือราศีตุลย์ เจ้าชะตาจะยิ่งมีชื่อเสียงเกียรติยศและเงินทอง ถ้าหากดาว ๖ เป็นเจ้าทุสถานะภพ หรือสถิตในตำแหน่งที่อ่อนแอ เจ้าชะตาจะมีเมีย ๒ คน โชคชะตาจะขึ้นๆลงๆ และมีจิตใจที่ค่อนข้างจะแข็งกระด้าง |
คุณสมบัติของดาว ๖ ศุภเคราะห์
|
บางตำราว่ามีความสำคัญเทียบเท่าดาว ๕ เลยทีเดียว และถ้าเกิดไปร่วมกัน หรือมีความสัมพันธ์ต่อกันเข้า จะทำให้เป็นคนร่ำรวยมหาศาล เมื่อดาว ๖ ดวงนี้สถิตในเรือนที่ดี ตำแหน่งดี และไม่ผิดกฎเกณฑ์ต่างๆ ดาว ๖ จะให้คุณเต็มที่ ทั้งความสวยงาม ความน่ารัก ความมีมารยาท ความเป็นผู้ดี ความสุขและความร่ำรวยทรัพย์สินเงินทอง |
เพราะฉะนั้นหากดาว ๖ กุมลัคน์
และต้องไม่เป็นเจ้าเรือนทุสถานะภพ
|
ดาว ๖ จะให้คุณมากอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ เมื่อดาว ๖ สถิตในราศีธาตุดินและธาตุลม หรือสถิตในนวางค์ลูกที่ ๙ ของราศีมีน ที่เรียกว่า..วรโคตรนวางค์แล้ว รับรองว่า...ดาว ๖ จะให้ทุกอย่างแม้แต่ความสวยงาม และจะคงความสวยงามไว้ได้แม้มีอายุมาก หรือเมื่อถึงตอนแก่เฒ่า |
ดาว ๖ สถิตภพกฎุมพะ
|
ถ้าดาว ๖ ในภพที่ ๒ สถิตในตำแหน่งที่ดี และมีความสัมพันธ์กับดาวศุภเคราะห์ |
เจ้าชะตาจะประสบผลดีในทางการเงิน เมื่อถึงคราวที่เงินขาดมือจริงๆจะมีทางได้เพื่อช่วยแก้ขัด การงานที่เกี่ยวกับความหมายของความสุข เช่น การค้าเครื่องสำอางค์ เสื้อผ้าอาภรณ์ ผ้าผ่อนแพรพรรณ เครื่องประดับเพื่อความสวยงาม และงานด้านศิลปะทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นการร้องรำทำเพลง จะให้ผลดีมาก ถ้าเป็นเพศายมักจะใช้เงินเกี่ยวกับเพศตรงข้าม ถ้าเป็นเพศหญิงก็จะมุ่งไปทางด้านเสริมสวยความงามทุกประเภท เพื่อปรับความสวยงามให้กับตัวเอง ไม่ว่าาจะเป็นไปได้หรือไม่ได้ |
ถ้าหากดาว ๖ในภพที่ ๒ สถิตในตำแหน่งที่ไม่ดี และมีความสัมพันธ์ร้ายกับดาวบาปเคราะห์ เช่น ดาว ๓ , ๗ , ๘ , ๐ เข้าไปมีโยคเกณฑ์ร้าย และดาว ๖ เองก็ไม่ได้สถิตในตำแหน่งที่ไม่เข้มแข็ง |
จะเป็นสาเหตุให้การเงินของเจ้าชะตาไม่คงที่ และจะทำให้มีฐานะการเงินแย่ลงไป |
โบราณว่า...
|
จะเป็นคนร่ำรวย จะมีครอบครัว มีอาหารอุดมสมบูรณ์ มีดวงตาที่ประทับใจคน เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน มีจิตใจอ่อนโยน และชอบช่วยเหลือคนอื่น เป็นผู้ชายจะได้ภรรยาที่สวยงามเมื่ออายุ ๓๒ ปี ถ้าหากเจ้าเรือนที่ ๒ มีกำลังอ่อนแอ หรือเป็นเจ้าเรือนทุสถานะภพ จะเป็นโรคเกี่ยวตา ถ้าดาว ๖ มีความสัมพันธ์กับดาว ๒ ในขณะที่ดาว ๖ สถิตทุสถานะภพ เจ้าชะตาจะเป็นโรคตามองไม่เห็นในตอนกลางคืน ปราศจากครอบครัว และใช้จ่ายทรัพย์สินอย่างสุรุ่ยสุร่าย ฟุ่มเฟือย " เอากันแน่ๆก็คือว่า.....ถ้าหากดาวในทุสถานะภพทั้ง ๓ ภพ จะให้โทษดังกล่าวมาทั้งหมดนั้น จะแสดงออกมาจริงๆก็เมื่อตอนเป็นดาวเจ้าการมาเสวยอายุในระบบวิมโสตรีทศา ถ้าตามปกติจะไม่ให้โทษอะไรมากนัก |
ภพที่ ๒ เป็นภพที่เกี่ยวกับการเงินโดยเฉพาะ ทั้งเงินที่มีอยู่ และเงินที่หาได้ รวมทรัพย์สินที่เป็นสังหาริมทรัพย์ |
เช่น แก้วแหวนเงินทองและเครื่องประดับที่นำติดตัวไปได้ ดาว ๖ในภพนี้เป็นศุภเคราะห์ที่สำคัญดวงหนึ่ง ย่อมจะบอกถึงว่า...เจ้าชะตาจะต้องมีเงินทองและทรัพย์สินสมบัติทุกประการ โดยไม่ต้องคำนึงถึงปัญหาอื่น น่าจะทายทุกอย่างโดยไม่ผิดพลาดแน่นอน |
ความหมายที่ ๒ คือ
การพูด
|
ภพที่ ๒ หมายถึง การพูดและการเจรจา นอกจากดาว ๖ จะบันดาลให้เป็นคนพูดหวานและพูดดีโดยธรรมชาติแล้ว คำพูดที่ออกไปจาก ดาว ๖ ของเจ้าชะตาจะทำให้มีคนเชื่อถือ |
ดาว ๖ หมายถึง
โชคลาภ
|
หมายถึง การทำมาหากินและโอกาสที่จะทำมาหากิน และการมีทรัพย์สินที่ไม่น้อยหน้าใคร เพราะฉะนั้น ถ้าหากดวงชะตาใครที่มีดาว ๖ ในภพที่ ๒ แล้ว ก็เห็นจะต้องทายไปเลยว่า...ไม่ยากจน และทำมาหากินได้ด้วยเสน่ห์มหานิยม และได้รับความเคารพนับถือจากคนอื่นๆได้อย่างไม่มีปัญหาเลย |
ดาว ๖ หมายถึง
ครอบครัวใหญ่
|
ในบ้านมีญาติพี่น้องและผู้คนที่อาศัยที่เจ้าชะตาจะต้องรับผิดชอบเลี้ยงดู ซึ่งหมายถึงฐานะที่อุดมสมบูรณ์ไม่มีปัญหานั่นเอง |
ดาว ๖ สถิตภพสหัชชะ
|
เจ้าชะตาจะเป็นผู้มีความรู้ มีจิตใจเปี่ยมด้วยคุณธรรม มีการศึกษาที่จะช่วยให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างราบรื่น ญาติพี่น้องจะกลมกลืนอาศัยกันได้ จะมีโชคดีทางการเขียนการ ประพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นกาพย์กลอน นวนิยาย สารคดี วิชาการและข่าวสารต่างๆ มีพรสวารค์ทางด้านงานศิลปะทุกแขนง จิตกร นักร้องนักดนตรี และจะให้ผลดีมากในการทำธุรกิจที่ติดต่อกับผู้อื่น หรือการเดินทางท่องเที่ยว ทำธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ |
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับตำแหน่งของดาว ๖ ในภพที่ ๓ และกฎเกณฑ์ต่างๆ รวมถึงความสัมพันธ์กับดาวบาปเคราะห์ในลักษณะเป็นโยคเกณฑ์ร้าย |
ก็จะตัดทอนความดีงามและความสำเร็จที่ว่าแล้วทุอย่างให้ลดลง หรือปราศจากผลดี
ดาว ๖ ที่เป็น ๓ กับลัคนา ตำราโหรไทยกล่าวยกย่องเอาไว้มากว่า..จะส่งผลดีอย่างมาก จะช่วยให้เจ้าชะตาประสบความสำเร็จ ความสุข ความเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่ต้องสงสัย |
โบราณว่า...
|
เจ้าชะตาจะเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียวอย่างมาก จะเป็นคนมีน้ำอดน้ำทนและยอมทุกอย่าง จะมีพี่น้องและญาติมิตรที่ได้รับความสำเร็จจากความมานะพยายามในการก่อร่างสร้างตัว จะมีพี่น้องหลายคน พี่น้องเหล่านี้จะมีทางทำมาหากินของตนเอง
ถ้าหากเจ้าเรือนภพสหัชชะมีความเข้มแข็ง หรือดาว ๖ สถิตในเรือนของตนเอง หรือสถิตในเรือนมหาอุจ เจ้าชะตาจะมีพี่น้องหลายคน แต่ถ้าหากเจ้าเรือนภพสหัชชะ สถิตในทุสถานะภพ หรือมีความสัมพันธ์กับดาวบาปเคราะห์ เจ้าชะตาจะสูญเสียพี่น้อง |
ภพที่ ๓ มีความหมายกว้างขวางมาก
|
-ประการแรกสุด คือ มีความทรงจำสูง มีความสามารถสูง มีความกล้าได้กล้าเสีย และมีความเฉลียวฉลาด การสังคมกับเพื่อนบ้าน เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจสมัยใหม่
-ประการต่อมา คือ การศึกษาขั้นต้น หรือการศึกษาระดับมัธยม ไม่ว่าจะศึกษาเองหรือศึกษาจากโรงเรียน ภพที่ ๓ ที่มีดาวศุภเคราะห์จะช่วยเจ้าชะตาได้มาก
-ประการต่อมา คือ การเดินทางในระยะสั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในหรือนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจหรือเพื่อการท่องเที่ยว ดาวศุภเคราะห์ในภพนี้จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในการเดินทาง โดยไม่มีอุปสรรคและภัยอันตรายใดๆ |
ตำราโบราณว่า...
|
อิทธิพลของดาวศุภเคราะห์ในภพที่ ๓ คือ " ไปที่ไหนก็มีคนรัก พักที่ไหนก็มีคนชม" เพราะอิทธิพลของดาว ๖ ไม่ว่าจะอยู่ในภพก็ตาม จะไม่มีปฎิกิริยาอะไรที่ยั่วโทสะชาวบ้านชาวช่องออกมาเป็นอันขาด นอกจากความสุภาพอ่อนโยน |
หน้าที่ของภพที่ ๓ อีกอย่างหนึ่งก็คือ
|
การติดต่อทางจดหมาย เอกสาร โทรเลข และการสื่อสารทุกประเภท อุปสรรคในการติดต่อจะมีหรือไม่มีนั้น จะอยู่ที่ดาว ๖ ที่สถิตในภพที่ ๓ ถูกทำลายด้วยดาวบาปเคราะห์หรือไม่ |
ภพที่ ๓ เป็นภพตรีโกณกับภพที่ ๑๑
|
ดาวใดๆก็ตามที่สถิตในภพที่ ๓ ย่อมจะส่งผลให้เกิดการสนับสนุนและการทำลายภพและดาวในภพที่ ๑๑ อีกด้วย ภพที่ ๑๑ เป็นภพที่เกี่ยวกับการทำมาหาได้ และลาภผลทุกชนิดที่จะทำให้ชีวิตเจ้าชะตามีความสุขสบายได้ เพราะฉะนั้น การที่มีดาว ๖ อยู่ในตำแหน่งที่ดีในภพที่ ๓ นั้น ย่อมหมายถึง การส่งผลคุณอย่างสูงให้แก่ภพที่ ๑๑ ของเจ้าชะตาด้วย |
เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงมองไม่เห็นว่า....การที่จะทำนายภพที่ ๓ และอิทธิพลของดาว ๖ ไปในทางร้ายนั้น |
จึงดูน่าจะเป็นเรื่องยาก หรือเป็นไปไม่ได้เอาเลย เพราะถ้าดาว ๖ ให้ผลในทางร้ายแล้ว ผลมันก็จะต้องตกไปถึงภพที่ ๑๑ ด้วย การที่จะมาทำนายว่า...ภพที่ ๑๑ เป็นภพที่วิเศษ ก็เป็นไปไม่ได้ |
ดาว ๖ สถิตภพพันธุ
|
ดาว ๖ สถิตในภพนี้
|
เป็นดาว ๖ ที่จะให้ผลดีทุกประการในทุกความหมายของภพนี้ จะช่วยให้ชีวิตในบั้นปลายเต็มไปด้วยความสุข บรรลุจุดมุ่งหมายตามที่ได้ตั้งเข็มเอาไว้ เหตุการณ์ในบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น เหมาะสมกับการทำมาหากินด้วยการเป็นผู้สร้างโรงมหรสพ โรงแรม รีสอร์ท และการจัดสวนที่สวยงาม |
ถ้าดาว ๖ ในภพนี้สถิตในตำแหน่งดีตามกฎเกณฑ์ที่กล่าวมาแล้ว หรือได้รับความสัมพันธ์กับดาวเคราะห์อื่นๆ |
จะส่งเสริมให้แต่ความรุ่งโรจน์ และมีทรัพย์สินอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไร จะสมหวังทุกประการ |
ถ้าดาว ๖ สถิตในตำแหน่งเสื่อม ไม่เข้มแข็ง และมีความสัมพันธ์กับกาวบาปเคราะห์แล้ว |
การให้คุณของดาว ๖ ทั้งหมดจะต้องถูกตัดทอนลงไป หรือไม่ก็ทายไปในด้านที่มีปัญหาและอุปสรรคหลายประการ ตามอิทธิพลของบาปเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง |
โบราณว่า...
|
เจ้าชะตาจะเป็นรูปงาม มีสติปัญญาสูง มีความสุขจากพี่น้อง จะเป็นคนที่มีความสุข เป็นคนที่พอให้อภัยผู้อื่น เมื่ออายุได้ ๓๐ ปี จะสร้างตัวได้
ถ้าหากเจ้าพันธุ มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ หรือสถิตในเรือนของบาปเคราะห์ หรือในเรือนของศัตรู หรือในตำแหน่งนิจ หรือมีกำลังอ่อนแอด้วยประการอื่นๆ เจ้าชะตาจะไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง จะไม่มีรถยนต์ มารดาจะเป็นคนเจ้าทุกข์ และเจ้าชะตาจะมีชีวิตพัวพันกับผู้หญิงอื่นมากกว่าเมียของตัวเอง |
ภพที่ ๔ หมายถึง
|
แม่ หรือบ้านที่เกิดของเจ้าชะตา บ้านที่อยู่อาศัย ที่สำคัญ คือ มรดกของบรรพบุรษที่จะรักษาเอาไว้ได้ หรือจะถูกทำลาย ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง |
ภพทุกภพมีส่วนสนับสนุนและทำลายซึ่งกันและกัน เช่นเดียวกัน ดวงดาวมีทั้งที่ให้ประโยชน์และทำลายประโยชน์สับเปลี่ยนกันไป |
โหราศาสตร์สมัยใหม่ มีความหมายกว้างออกไป
|
หมายถึง อุปนิสัยใจคอ ชีวิตส่วนตัวที่เป็นความลับไม่ต้องการให้ใครรู้ อาจจะเป็นความคิด,ความฝันหรือเจตนาอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่แสดงออกมาแล้วคนอื่นเห็น อาจจะเป็น นิสัย หรือ สันดาน ที่จะต้องเป็นคนแบบนั้น ทั้งดีและไม่ดี |
ภพที่ ๔ หมายถึง
|
บ้านที่เกิด ที่อยู่อาศัย ครอบครัว หมายถึงความสุข,ความทุกข์ในครอบครัว หมายถึงตัวบ้าน,ที่ดิน,สิ่งแวดล้อม
มีความแตกต่างที่จะต้องพยายามศึกษาและสังเกตุเอาไว้ให้ดี การย้ายบ้าน ย้ายงาน การเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัยของคนเรา " ขึ้นอยู่กับดาวดวงใหญ่โคจรเข้าไปสถิตในภพที่ ๓ หมายถึง เมื่อดาวดวงใดโคจรเข้าไปในภพนั้นแล้ว การเตรียมตัวที่จะเปลี่ยนแปลงการงาน การย้ายที่อยู่ การซื้อขายที่ดิน,ที่อยู่อาศัยหรือแสวงหาที่ใหม่ จะต้องเกิดขึ้น ก็เริ่มจากภพสหัชชะ แต่ในภพที่ ๔ นั้น ภพนี้จะบอกว่าเราจะไปทำอะไรอยู่ที่ไหนอย่างไร สถานที่ที่เราจะไปนั้นจะมีสภาพอย่างไร สภาพแวดล้อมจะเป็นอย่างไร ดีเลวขนาดไหน มันจะขึ้นกับดวงดาวที่โคจรเข้าไปสถิตในภพพันธุ ในปีนั้นๆ หรือเป็นดาวที่สถิตในภพที่ ๔ มาแต่เดิมแล้ว |
การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงงาน หรือเปลี่ยนเจ้านาย เปลี่ยนแปลงที่ทำมาหากิน จะให้ผลดีหรือร้ายนั้น ต้องดูที่บาปเคราะห์และศุภเคราะห์ และความสัมพันธ์กับดาวเคราะห์อื่นๆ ทั้งที่ให้คุณและให้โทษ |
แต่เมื่อเราพูดถึงดาว ๖ ในภพที่ ๔ ซึ่งเป็นศุภเคราะห์ดวงหนึ่งที่ถือว่า...ให้คุณไม่น้อยไปกว่าดาว ๕ |
คำทำนายเกี่ยวกับภพพันธุ ก็น่าจะออกมาในรูปที่ดี ถ้าหากดาว ๖ ในภพที่ ๔ ไม่ถูกย่ำยีโดยบาปเคราะห์ หรือกฎเกณฑ์ที่เสียหายอื่นๆมากมายจนเกินไป |
ดาว ๖ สถิตภพปุตตะ
|
ดาว ๖ ในภพนี้
|
จะให้บุตรที่ดีแก่เจ้าชะตา และบุตรจะนำโชคลาภมาให้ |
ถ้าดาว ๖ ราศีธาตุไฟ
|
จะทำให้เจ้าชะตามีความรักฟุ่มเฟือย มีความสุขในครอบครัว การทำมาหากินและการลงทุน ควรจะเป็นอาชีพที่เกี่ยวกับความรื่นรมย์ หรือที่เรียกกันว่า ธุรกิจบันเทิง จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี |
แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับตำแหน่งของดาว ๖ ในภพที่ ๕ ที่ดาว ๖ เข้าไปสถิต และความสัมพันธ์กับดาวเคราะห์อื่นๆในดวงเดิม และมีโยคเกณฑ์กับดาวเคราะห์อื่นๆในดวงจร ซึ่งถ้าเป็นศุภเคราะห์ด้วยกันจะให้ผลดีมากตามความหมายทุกประการของภพที่ ๕ แต่ถ้ามีความสัมพันธ์ร้ายในดวงเดิม และระยะเชิงมุมร้ายกับดาวบาปเคราะห์ในดวงจร ความหมายในทางดีของดาว ๖ ในภพที่ ๕ ก็จะต้องถูกตัดทอนลงไป หรือเป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จที่ว่าอย่างราบรื่น มักจะมีปัญหาและอุปสรรค |
โบราณว่า...
|
จะเป็นคนอุดมสมบูรณ์ มีความเฉลียวฉลาด ในอนาคตอาจจะได้เป็นรัฐมนตรี หรือผู้บัญชาการทหารในกองทัพ จะเป็นคนมีความโชคดีที่จะได้เห็นการมีชีวิตอยู่ของญาติผู้ใหญ่ จะมีภรรยาอ่อนวัยกว่า จะมีบุตรมาก จะเป็นคนที่ได้รับเชื่อถือจากทางราชการ จะเป็นรัฐมนตรีที่มีความเฉลียวฉลาด และภรรยาก็จะมีความสุข |
ถ้าดาว ๖ อยู่ในเรือนของบาปเคราะห์ หรือมีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ หรืออยู่ในราศีที่เป็นนิจ |
เจ้าชะตาจะมีความคิดอ่านน้อยมาก มีความรู้ความคิดไม่เท่าทันคนอื่น และต้องคอยการมีบุตร ซึ่งจะมีได้ยากมาก |
ถ้าดาว ๖ มีความสัมพันธ์กับศุภเคราะห์ หรือสถิตในเรือนของตัวเอง หรือได้ตำแหน่งอุจ |
จะเป็นคนเฉลียวฉลาดมาก จะเป็นคนมีความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมเป็นอย่างดี จะมีบุตรหลายคน และมีรถยนต์ส่วนตัว |
ในภพที่ ๕ เมื่อดาว ๖ เข้าไปสถิต
|
ความจริงก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ถ้าหากดาว ๖ ไม่ได้เป็นเจ้าเรือนทุสถานะภพ ซึ่งดาว ๖ จะให้โทษบ้าง ( การให้โทษของดาวเจ้าเรือนเหล่านี้ จะให้เมื่อดาวเหล่านี้เข้าไปทำหน้าที่เสวยอายุในระบบวิมโสตรีทศา จะไม่ให้โทษหรือทำลายตลอดไป ) |
วิธีการทำนายของโหรโบราณรุ่นเก่า เมื่อถามถึงเรื่องบุตร |
ก็จะมุ่งดูกันที่ภพนี้ ซึ่งก็เป็นความจริงอยู่บ้าง แต่ไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะในดวงชะตาคนนั้น จะบอกให้ทราบว่า....จะมีบุญทางไหน มีบาปทางไหนอยู่แล้ว บางดวงอาจจะร่ำรวยมหาศาล แต่เมื่อพูดถึงเรื่องบุตรไม่ว่าหญิงหรือชาย ไม่มีโอกาสที่จะมีตามต้องการได้ เพราะฉะนั้น การจะดูว่า....เจ้าชะตาจะมีบุตรหรือไม่มีต้องดูที่ดวงชะตาทั้งดวง ว่า เป็นดวงที่มีบุตร หรือไม่มีบุตร ดูแต่ภพปุตตะ หรือเฉพาะดาวดวงเดียวไม่ได้ |
ปัจจุบันนี้ ภพที่ ๕ หมายถึง
|
การเสี่ยงโชค การลงทุน การทำมาหากิน การเข้าสู่วงสังคมชั้นสูง ผลดี,ผลร้ายที่เจ้าชะตาจะได้จากการลงทุน การเสี่ยงโชคและการประสบความสำเร็จในการทำมาหากินนั้น ต้องพิจารณากันที่ภพที่ ๕ เป็นสำคัญ ถ้ามีดาวดีเข้ามาสถิตในภพที่ ๕ อย่างดาว ๖ และอยู่ในตำแหน่งที่เข้มแข็ง ก็สามารถทายได้เลยว่า....จะต้องประสบความสำเร็จทุกสิ่งทุกอย่าง แม้จะเป็นการ ช่วยเหลือจากคนอื่นก็อาจเป็นไปได้ |
ภพที่ ๕ เป็นภพที่ตรีโกณกับภพที่ ๙ ภพที่ ๙ เป็นภพที่เรียกกันว่า "ภพบุญสุรา หรือ ปุพเพกตะบุญญะตา " หมายถึง |
บาปบุญที่ทำไว้แต่ชาติปางก่อน จะบอกได้ในภพนี้ ดาว ๖ ที่ได้ตำแหน่งดีในภพที่ ๕ ที่มีกำลังเข้มแข็งเพียงพอ สามารถที่จะส่องแสงให้โยคเกณฑ์ไปถึงภพที่ ๙ ซึ่งอาจจะมีดาวร้ายสถิตอยู่ นั่นหมายถึงว่า.....แม้เจ้าชะตาจะเคยทำบาปทำกรรมอะไรไว้ อันเป็นอุปสรรคต่อความสุขและความสำเร็จ ดาว ๖ ในภพที่ ๕ ก็จะช่วยให้รอดจากกรรมเก่าได้บ้าง ไม่มากก็น้อย แต่ถ้าในภพที่ ๙ เป็นศุภเคราะห์สถิตอยู่ ไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงอะไรอีก มันจะช่วยส่งเสริมและให้ผลดีอย่างแน่นอน |
ในขณะเดียวกันภพที่ ๕ ก็ถือว่าเป็นตรีโกณกับภพที่ ๑ |
ภพที่ ๕ ที่มีดาวศุภเคราะห์สถิตอยู่ ย่อมส่งกระแสสัมพันธ์ที่ดีไปถึง ย่อมให้คุณแก่ลัคนา แต่ถ้าภพที่ ๕ เป็นบาปเคราะห์ ก็ให้ถือว่า...เจ้าชะตาหรือลัคนาเป็นคนมีเคราะห์กรรม แต่ถ้าดาว ๖ให้ความสัมพันธ์ถึงในดวงเดิม และโยคเกณฑ์ถึงในดวงจร แม้ว่า..ในภพที่ ๑ มีดาวบาปเคราะห์สถิตอยู่ หมายถึงบาปเคราะห์กุมลัคนาอยู่ก็ตาม โทษทุกข์ใดๆที่จะเกิดแก่เจ้าชะตา ก็จะผ่อนเบาลง หรือให้ประโยชน์แก่เจ้าชะตา ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งแน่นอน |
ไม่ว่า...เรื่องการเสี่ยงโชค การลงทุน การเข้าหุ้นส่วน และการทำมาหากิน หรือการมีลูกเมีย |
จะเป็นไปได้อย่างหวานๆทั้งสิ้น แม้แต่การได้ลูกเมีย หรือการมีคู่ครองที่ต้องมีการตกล่องปล่องชิ้นกันโดยที่ไม่ต้องมีการแต่งงาน ก็มีทางเป็นไปได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยามที่ดาว ๖ เข้าไปเสวยอายุในระบบวิมโสตรีทศา เป็นเวลานานถึง ๒๐ ปี ซึ่งถือว่า...เป็นชีวิตที่อร่อยหวานมันเป็นบ้า |
ยกเว้นดาว ๖ ในภพปุตตะ เป็นเจ้าเรือนทุสถานะภพ
|
จะมีอุปสรรคเป็นระยะๆ หรือชะตาจะขึ้นๆลงๆไม่แน่นอน |
ดาว ๖ สถิตภพอริ
|
ถึงแม้ว่า..ภพนี้จะเป็นทุสถานะภพ
|
แต่ดาว ๖ เป็นดาวศุภเคราะห์ ย่อมจะให้คุณมากกว่าให้โทษ เมื่อเข้ามาอยู่ในภพนี้ ถ้าไม่เข้าไปอยู่ในตำแหน่งเสื่อม และไม่มีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ในดวงเดิม และโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ในดวงจร ตามกฎเกณฑ์ที่ว่าแล้ว ดาว ๖ ในภพนี้ จะไม่ทำให้เกิดผลร้ายใดๆ นอกจากจะให้ผลดีในด้านอนามัยภายหลังจากการสมรส มีคนรับใช้และลูกจ้างทุกประเภทที่มีความซื่อสัตย์ สนใจในเรื่องอาหารการกินและเรื่องการแต่งตัว |
แต่ถ้าดาว ๖ ในภพที่ ๖ สถิตในตำแหน่งเสื่อม และมีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ในดวงเดิม และได้รับโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ในดวงจร |
ตามตำรา จะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งโรคในความหมายของดาว ๖ คือ โรคไต โรคในคอ โรคมดลูก รังไข่และอวัยวะสืบพันธ์ ดาว ๖ ในภพที่ ๖ ถ้ามีโยคดีกับดาว ๓ จะทำให้มีความสัมพันธ์รักใคร่กับคนใช้ หรือผู้ใต้บังคับบัญชา ถ้าเป็นโยคร้ายต่อกันจะทำให้เกิดความเสื่อมเสียเพราะผลดังกล่าว |
โบราณกล่าวว่า...
|
เจ้าชะตาจะมีญาติพี่น้องที่ดีเป็นจำนวนมาก จะทำการหักล้างศัตรูได้ จะมีลูกหลานมาก จะเป็นคนมีค่าใช้จ่ายสูง มักจะถูกหลอกลวง และประสบเคราะห์กรรมจากโรคภัยไข้เจ็บหลายโรค ถ้าเจ้าเรือนที่ ๖ มีความเข้มแข็ง เจ้าชะตาจะมีลูกหลานและศัตรูมากขึ้น ถ้าเจ้าเรือนอริมีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ หรือสถิตในราศีนิจ หรือมีความสัมพันธ์กับดาว ๒ เจ้าชะตาจะสูญเสียญาติ แต่สามารถทำลายสัตรูได้ |
ภพที่ ๖ ถือกันอย่างเคร่งครัดว่า...
|
เป็นภพที่เกี่ยวการเจ็บป่วย เป็นภพที่เกี่ยวกับความทุกข์และความผิดหวัง ศัตรูและหนี้สิน เพราะฉะนั้น เมื่อพบว่า....มีดาวใดโคจรเข้าไปสถิตในภพนี้ โหรมักจะท้อถอยและทำนายไปตามกฎเกณฑ์ดั้งเดิม โดยไม่คำนึงถึงแง่มุมอื่นๆ ซึ่งเป็นความผิดพลาดอย่างมาก |
ภพที่ ๖ นั้น ความหมายที่แท้จริง คือ
|
ความไม่ราบรื่น หรือไม่สะดวก เฉพาะเมื่อดาวบาปเคราะห์เข้าไปสถิต แต่ความจริงแล้ว ภพที่ ๖ ก็คือ ภพที่เกี่ยวกับการออกเหงื่อออกแรง การใช้กำลังทั้งร่างกายและสติปัญญาที่จะทำให้อะไรมันเกิดขึ้นมาบ้าง ดังนั้น ภพที่ ๖ จึงหมายถึง การทำงาน จะเป็นในฐานะลูกจ้าง หรือรับใช้บริการ ไม่ว่าจะได้ค่าตอบแทนหรือไม่ได้ ความหมายง่ายๆ คือ การทำมาหากิน และการดิ้นรน |
ที่สำคัญก็คือ เรื่องหนี้สิน มีอยู่ ๒ ประการ คือ
|
๑..เจ้าชะตาจะมีปัญญาเป็นหนี้สินใครได้บ้างหรือเปล่า หรือพูดง่ายๆ คือ จะยืมเงินได้หรือเปล่า หรืออาจจะหาได้ง่ายๆโดยไม่ต้องออกแรง เราอาจจะทายได้โดยอาศัยดาวบาปเคราะห์และศุภเคราะห์เป็นหลัก ถ้าเป็นดาวบาปเคราะห์สัมพันธ์กับดาวบาปเคราะห์ หรือได้โยคเกณฑ์ร้ายจากดาวบาปเคราะห์ หนี้สินที่จะยืม เงินที่จะไปกู้มันก็ยาก แต่ถ้าเป็นดาวศุภเคราะห์ หรือมีดาวที่มีความสัมพันธ์กับศุภเคราะห์ การเที่ยวหากู้เงินจากที่ใดจากใคร ตั้งแต่เอกชนเรื่อยไปจนสถาบันการเงินใหญ่ๆ ก็สามารถทำได้โดยไม่ยากนัก
๒..เวลาการใช้คืน การจะมีใช้คืนหรือไม่มีนั้น ก็ขึ้นอยู่กับบาปเคราะห์และศุภเคราะห์อย่างที่กล่าวมาแล้ว
|
ดาว ๖ หมายถึง
|
ศิลปะความงาม ดาว ๖ในภพที่ ๖ อันเป็นภพของการทำงานโดยตรง เจ้าชะตาจะต้องทำงานเกี่ยวกับศิลปะทุกชนิด ไม่ว่า...จะเป็นการตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ตลอดจนเครื่องแต่งตัวและสิ่งของที่เกี่ยวกับความงามทุกประเภท |
ความเสียหายของดาว ๖
|
ก็เพียงแต่อาจจะไม่ถึงกับคาบช้อนทองมาเกิดเท่านั้น แต่ถึงจะคาบช้อนทองออกมาก็อดไม่ได้ หรือต้องถูกผลักไสให้ต้องลงทุนลงแรงหาพันธะใส่ตัวไปตามกฎเกณฑ์ของภพอริ |
ดาวทุกดวงย่อมจะสนับสนุนส่งเสริมดาว ๖ ได้ทั้งนั้น
|
ถ้าเป็นบาปเคราะห์ เรื่องที่จะทายว่าดีก็เป็นไปได้ยาก แต่ถ้าเป็นศุภเคราะห์เข้าไปมีโยคเกณฑ์ตามกฎของมันแล้ว เรื่องทุกอย่างที่ว่า...ไม่ดีมันก็จะหมดไป หรือจะดียิ่งขึ้นอย่างคาดไม่ถึง ยกเว้นแต่ดาว ๔ เท่านั้น เพราะนอกจากจะทำให้เป็นคนน่ารัก สุภาพอ่อนโยน พูดเก่งแล้ว " ยังยอมอดทนในเรื่องกามารมณ์ไม่ได้ ยิ่งมีมากยิ่งพบมาก ยิ่งมีความสุข " โดยเฉพาะผู้หญิง ถ้าดาว ๖ เจอกับดาว ๔ แล้วไม่ค่อยดีนัก |
ดาว ๖ สถิตภพปัตนิ
|
โบราณจารย์กล่าวว่า...
|
"ศุกร์เจ็ดอาจารย์เจ้าว่าร้อนนิรันดร์" แต่ความสำคัญที่จะเป็นหรือไม่เป็น ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของดาว ๖ ในภพที่ปัตนิ ถ้าอยู่ในตำแหน่งที่ดีจริง ซึ่งโบราณเน้นอยู่ ๒ ตำแหน่ง คือ เกษตร,มหาอุจ และได้รับความสัมพันธ์ดีจากดาวศุภเคราะห์ จะส่งเสริมชีวิตสมรสให้ราบรื่น ได้คู่ครองเป็นผู้มีรูปร่างดี มีฐานะดี จะช่วยสนับสนุนให้ชีวิตและฐานะของเจ้าชะตาดีขึ้น |
แต่ถ้าดาว ๖ ในภพปัตนิ สถิตในตำแหน่งที่เสื่อม ไม่เข้มแข็ง หรือมีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ในระยะเชิงมุมไม่ดีในดวงเดิม หรือได้รับโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ในดวงจร |
จะได้คู่ครองเป็นคนมีปมด้อย ฟุ้งเฟ้อ ใช้จ่ายเงินเก่ง สำรวยและขี้เกียจ เละเทะในเรื่องกามารมณ์ สำส่อน จะทำให้เกิดความยุ่งยากแก่เจ้าชะตาชนิดที่เรียกว่า..."ร้อนนิรันดร์" ที่โบราณว่าไว้นั่นเอง |
ดาว ๖ ในภพที่ ๗
|
ทำให้เจ้าชะตาชอบในรสจูบ และมีความต้องการทางเพศสูง จะมีเงิน และชอบผู้หญิงอื่นมากกว่าเมียของตนเอง จะมีรถยนต์เป็นของตัวเอง มีความสามารถในการทำงาน และจะประสบความสำเร็จในการงาน ชอบยุ่งกับเรื่องของผู้หญิงและครอบครัว จะมีญาติพี่น้องและภรรยาของญาติพี่น้องรวมอยู่ด้วย |
ถ้าดาว ๖ มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ หรือสถิตในเรือนของบาปเคราะห์ หรืออยู่ในเรือนนิจ |
เจ้าชะตาจะต้องสูญเสียเมีย และจะแต่งงานใหม่ ถ้าบาปเคราะห์กุมดาว ๖ เจ้าชะตาจะแต่งงานหลายครั้ง เนื่องจากการเสียเมียหลายคน และจะไม่มีบุตร ถ้าดาว ๖ มีความสัมพันธ์กับศุภเคราะห์ หรือสถิตในราศีที่เป็นมหาอุจ เจ้าชะตาจะเป็นคนร่ำรวยมากจากของขวัญที่ได้จากลูกเขยลูกสะใภ้ เจ้าชะตาจะมีอิทธิพลเหนือผู้หญิง ชีวิตจะถูกรุมล้อมด้วยผู้หญิง |
การมากชู้หลายเมียหลายผัว หรือ "ดอกทอง"
|
เกิดขึ้นจากอารมณ์และจิตใจที่ประกอบด้วยดาวหลายดวง เฉพาะอย่างยิ่ง ดาว ๒ และกลุ่มดาวฤกษ์ต่างๆ รวมถึงความสัมพันธ์ของดาว ๔ กับดาว ๖ ในภพที่ ๗ หรือภพที่ ๙ โดยไม่มีดาว ๗ หรือดาวเคราะห์ดวงอื่นมาขัดขวาง แม้แต่ดาวที่เกี่ยวกับสติสัมปชัญญะอย่างดาว ๕ ถ้าดาว ๖ มีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ จะทำให้มีผัวมีเมียมากกว่าหนึ่งคน ก็อาจทำนายได้ |
แต่ที่สามารถยืนยันได้แน่นอน ไม่ว่า..ดวงชายหรือดวงหญิง
|
ไม่ว่า...ดาว ๖ จะอยู่ที่ไหนก็ตาม ถ้ามีดาว ๓ , ๘ อยู่ในทุสถานะภพ ชีวิตการแต่งงานจะไม่ยืนยาว จะต้องเลิกกันหรือจากกัน ไม่ว่าจากเป็นหรือจากตาย หรือจะต้องมีปัญหาในครอบครัวอย่างหนักเสมอๆ |
ดาว ๖ เป็นดาวที่เกี่ยวกับความใคร่ กามารมณ์ มดลูก รังไข่ในดวงหญิง
|
ถ้าดาว ๖สถิตในตำแหน่งไม่ดี หรือถูกกุมด้วยบาปเคราะห์ ก็จะต้องระวังโรคเกี่ยวกับมดลูกและรังไข่ |
สำหรับทางด้านกามารมณ์
|
ลำพังดาว ๖ ดวงเดียวไม่สามารถทำให้เสียคนได้ แต่จะทำให้มีกำลังวังชาและความสมบูรณ์ทางเพศ หรือมีความต้องการทางเพศมากกว่าปกติ แต่ที่สำคัญกว่าเรื่องเพศ ก็คือ ความอ่อนโยนละมุนละไม และนิสัยใจคอที่โอบอ้อมอารี และการสังคมที่ดี |
ภพที่ ๗ เป็นภพที่เกี่ยวข้องกับคนทั่วๆไป นอกเหนือไปจากคู่ครอง การเข้ามาเกี่ยวข้องของดาว ๖ ถ้าเข้ามาเกี่ยวข้องในตำแหน่งที่ไม่มีบาปเคราะห์ หรือไม่มีความด่างพร้อยใดๆ หมายถึง |
เจ้าชะตาจะพบแต่คนดี รวมทั้งคู่ครองด้วย ส่วนที่โบราณว่า...จะเป็นคนมากชู้หลายเมียหรือดอกทองนั้น สามารถหยุดยั้ง หรือระงับได้ โดยอาศัยดาวดวงอื่นเหนี่ยวรั้งหรือนำพาบิดเบือนให้เจ้าชะตาไปสนใจงานทางด้านศิลปะ และสุนทรีย์ศาสตร์ ดนตรี ช่างศิลป์ทุกประเภท ต้องขึ้นกับอิทธิพลของดาวดวงอื่นด้วย เฉพาะทางด้านออกแบบ ไม่ว่า....จะเป็นงานศิลปะแขนงใด ดาว ๖ สามารถนำมาทำนายได้ |
เมื่อพูดถึงการทำมาหากินดาว ๖ ภพนี้
|
เป็นภพของบุคคลที่เข้ามาคบหาสมาคมด้วย หรืออาจจะเข้ามาทำมาหากินร่วมหุ้นส่วนกัน
ถ้าหากตำแหน่งของดาว ๖ เป็นตำแหน่งที่ดีครบถ้วนตามตำราแล้ว ก็ให้เชื่อได้ว่า.....ผู้ที่เข้ามาร่วมงาน หรือคบหาสมาคมด้วย สามารถไว้วางใจได้ และร่วมกันทำมาหากินให้ประสบความรุ่งเรืองได้ ไม่มีอุปสรรคและปัญหา หรือไม่มีใครมาพูดบิดเบี้ยวอะไรได้ ชีวิตทางครอบครัวก็จะราบรื่นดี แต่ที่ต้องเตือนกันหลายๆครั้ง ก็คือ ตำแหน่งของดาวศุกร์ในภพปัตนิ จะต้องสถิตในราศีที่ดี กลุ่มดาวฤกษ์ที่ดี นวางค์,ตรียางค์ที่ดี ไม่ยังงั้น ระวัง! การลืมตัวและสนุกสนานเพลิดเพลินที่ทำให้เสียหายไปพร้อมๆกันด้วย |
ดาว ๖ สถิตภพมรณะ
|
ถ้าดาว ๖ สถิตในตำแหน่งที่ดีและถูกกฎเกณฑ์ ไม่มีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ในดวงเดิม และไม่มีโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ในดวงจร |
หลังการแต่งงานแล้วจะทำให้เจ้าชะตาสามารถตั้งเนื้อตั้งตัวได้เป็นหลักฐาน จะได้รับมรดกจากผู้ตายที่เป็นผู้หญิง |
แต่ถ้าดาว ๖ สถิตในตำแหน่งเสื่อม หรือมีดาวบาปเคราะห์มีความสัมพันธ์ร้ายในดวงเดิม หรือมีโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ในดวงจร |
จะทำให้พลาดโอกาสที่จะได้รับมรดก หรือถ้าได้มาก็รักษาไว้ไม่ได้ พรรคพวกคนอื่นที่ไว้ใจ หรือคู่ครองจะทำให้เจ้าชะตาถูกฉ้อโกง หรือถูกผลาญทรัพย์สินเงินทองที่หามาได้ |
โบราณว่า...
|
เจ้าชะตาจะมีความสุขอย่างเดียว มารดาจะมีโรคที่คอเมื่อเจ้าชะตาอายุได้๔ ขวบ จะมีอายุไม่ยืน เนื่องจากเป็นคนขี้โรคโรคา ถ้าเป็นหญิงจะเป็นภรรยาที่ดี สามีจะเป็นคนที่คนอื่นไม่ชอบหน้านัก
ถ้าดาว ๖ อยู่ในเรือนของศุภเคราะห์ หรือมีความสัมพันธ์ดีกับศุภเคราะห์ จะมีอายุยืน แต่ถ้าดาว ๖มีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ จะมีอายุสั้น |
ภพที่ ๘ ท่านมักจะหมายถึง
|
การตาย
และจะเอาเรื่องการตายมาทำนายเป็นหลัก เราน่าจะตัดทิ้งเสีย
โดยเฉพาะดาวศุภเคราะห์เช่นดาว ๖ แม้ว่า...จะเข้าไปอยู่ในภพมรณะ ไม่มีทางที่จะทำให้ตายได้ง่ายๆ ถ้ายกเว้นการมีโยคเกณฑ์ไม่ดีกับดาวบาปเคราะห์ออกไป การแสดงออกของดาว ๖ น่าจะเป็นไปในทางที่ดีมากกว่าที่จะทายไปในทางอื่นๆ หรือถ้าเกิดความเสียหายขึ้นมาเนื่องจากดาว ๖ ก็จะเป็นเรื่องไม่ร้ายแรง สามารถแก้ไขเยียวยาได้ทุกเรื่องไป |
เฉพาะอย่างยิ่ง ถ้านับภพที่ ๘ เป็นภพที่เกี่ยวกับการเงิน
|
การได้มาจากการร่วมทำมาหากิน หรือร่วมหุ้นร่วมทุนกับคนอื่น
ถ้าถามว่า...การทำมาหากินที่ว่านั้น ดีหรือร้าย ดาว ๖ ในภพนี้จะบอกได้ว่า...ไม่มีอะไรร้าย นอกจากให้ประโยชน์อย่างน่าพอใจทั้งสิ้น |
เพราะฉะนั้น เมื่อพูดถึงดาว ๖ในภพที่ ๘ แล้ว
|
ไม่น่าจะนำเรื่องร้ายอะไรมาให้ เพราะเป็นศุภเคราะห์
แม้แต่ดาวบาปเคราะห์อย่างดาว ๗ ท่านยังบอกได้ว่า...เมื่อสถิตในภพที่ ๘ จะทำให้เป็นคนอายุยืน |
ดาว ๖ สถิตภพศุภะ
|
ถ้าดาว ๖ ในภพที่ ๙ สถิตในตำแหน่งที่ดี และไม่มีความสัมพันธ์กับดาวบาปเคราะห์ใดๆในดวงเดิม และไม่ได้รับโยคเกณฑ์ร้ายใดๆจากดาวบาปเคราะห์ในดวงจร และได้รับโยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์ |
จะทำให้เจ้าชะตาเป็นคนรักและเข้าใจในงานศิลปะอย่างถึงแก่น มีความรู้ความชำนาญในด้านศิลปะ และจะมีชื่อเสียงเกียรติยศมากทางด้านศิลปะ จิตใจจะมีแต่ความเมตตา การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างปกติสุข หรืออาจจะพบความรักและคู่ครองในต่างแดนก็ได้ |
แต้ถ้าดาว ๖ สถิตในราศีเสื่อม หรือมีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ ได้รับโยคเกณฑ์ร้ายจากดาวเคราะห์อื่นๆแล้ว |
จะมีปัญหาในด้านการศึกษาในระดับสูง และประสบกับความล้มเหลวในความหมายเกี่ยวกับดาว ๖ ทุกประการ ความหวังต่างๆจะมีปัญหาและอุปสรรคขัดขวาง และจะผิดหวังในเรื่องของความรักและการแต่งงาน |
ดาว ๖ ในภพที่ ๙
|
จะเป็นคนเลื่อมใสศรัทธาในศาสนา จะอุทิศตัวเองให้แก่งานทางด้านศาสนา และพิธีกรรมอย่างเอาเป็นเอาตายเลยทีเดียว จะมีความสุขความสบาย ลูกหลานและพ่อจะมีอายุยืน(ไม่เสมอไป) |
ถ้าดาว ๖ มีความสัมพันธ์ไม่ดีกับบาปเคราะห์
|
จะทำให้พ่อของเจ้าชะตาอายุไม่ยืน |
หรือถ้าดาว ๖ มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์หรืออยู่ในเรือนของดาวบาปเคราะห์ หรือในราศีที่ดาว ๖ เป็น นิจ |
เจ้าชะตาจะมีทางสูญเสียทรัพย์สมบัติ และจะมีความสัมพันธ์กับภรรยาของครูบาอาจารย์ หรือตัวครูบาอาจารย์เอง |
ถ้าดาว ๖ มีความสัมพันธ์กับศุภเคราะห์ หรือสถิตในเรือนของตัวเองหรือเรือนของดาวศุภเคราะห์ |
จะประสบความสำเร็จอย่างสูงในด้านทรัพย์สินเงินทอง ถ้าหากดาว ๖ มีความสัมพันธ์กับเจ้าเรือนปัตนิ เจ้าชะตาจะร่ำรวยอย่างคาดไม่ถึง และมีเครื่องประดับมีค่ามากมาย รวมถึงเครื่องใช้ไม้สอยทุกชนิด |
ดาว ๖ สถิตในภพนี้
|
เป็นภพที่สามารถบอกให้ทราบได้ว่า เจ้าชะตาทำบุญทำบาปไว้มากน้อยขนาดไหนในชาติปางก่อน จึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรที่ต้องสงสัย หรือวิตกกังวลว่า เจ้าชะตาจะไปไม่รอด หรือมีเวรอะไรเกิดขึ้นแก่ตัวเอง ยกเว้นแต่ดาว ๖ ที่ว่านี้จะโคจรเข้าสถิตในตำแหน่งที่เสื่อม และเข้าข่ายที่เป็นอัปมงคลอื่นๆตามกฎเกณฑ์ ดาว ๖ ตัวนี้จะให้โทษบ้างเป็นบางครั้งบางคราว ไม่ตลอดไป แต่จะเป็นเฉพาะเมื่อได้โยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์เท่านั้น นอกนั้นก็ถือว่าดาว ๖ ไม่น่าจะก่อกรรมทำเวรอะไรให้ |
พิจารณาด้วยว่า...ดาว ๖ สถิตในกลุ่มดาวฤกษ์ที่ให้คุณหรือไม่ นวางค์,ตรียางค์ดีหรือไม่ |
ถ้าดาว ๖ สถิตในราศีที่ดี แต่ตกนวางค์ที่ไม่ดี ดาว ๖ อาจจะให้โทษเมื่อมีอายุมากขึ้น แต่ก็คงไม่น่ากลัวอะไรมากนัก คงจะเป็นเรื่องรักๆใคร่ๆและกามารมณ์สมหวังหรือไม่สมหวัง อะไรในทำนองนี้ อาจจะหมกมุ่นในกามารมณ์มากเกินไป หรืออาจจะไม่สมหวังในเรื่องกามารมณ์ |
ดาว ๖ สถิตภพกัมมะ
|
ภพที่ ๑๐ หมายถึง
|
งานและกิจกรรมที่เกี่ยวศิลปะและความสวยงามทุกประเภท ดาว ๖ ในภพนี้และตำแหน่งที่ดี จะให้คุณสูงแก่เจ้าชะตามีความเจริญรุ่งเรืองในอาชีพเหล่านี้ และมีชื่อเสียง จะได้รับการสนับสนุนจากหญิงผู้สูงศักดิ์ จะทำให้เจ้าชะตาเป็นคนรักศิลปะอย่างฝังจิตฝังใจ จะเป็นผู้มีศิลปะสูงทางด้านวรรณกรรม กวีและกาพย์กลอน ความรักและการมีคู่ครองของเจ้าชะตาจะเริ่มต้นและลงเอยด้วยความมีเกียรติ |
ตรงข้ามถ้าดาว ๖ สถิตในตำแหน่งเสื่อม ไม่เข้มแข็ง ได้รับความสัมพันธ์ร้ายจากบาปเคราะห์แล้ว |
ก็ทายไปได้ว่าความหมายของดาว ๖ และภพที่ ๑๐ ที่เป็นไปในทางดี ก็จะล้มเหลว หรือให้ผลไม่เต็มที่ หรือจะให้ผลอย่างหนึ่งอย่างใด ก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคอย่างหนัก ทุกอย่างจะดีหรือร้ายถือว่าต้องไปตายเอาดาบหน้า |
แต่ในระยะใดที่มีศุภเคราะห์เข้ามาร่วมและส่งโยคเกณฑ์ที่เข้าไปถึง
|
ก็จะช่วยทำให้ปัญหาต่างๆคลี่คลายไปได้ และประสบความสำเร็จได้ แต่ต้องระมัดระวังความผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้เสมอ เฉพาะทางด้านเพศและกามารมณ์ให้ระวังให้มากจะเป็นโทษ และสร้างความเสื่อมเสียให้แก่เจ้าชะตา |
โบราณว่า...
|
จะเป็นคนมีเกียรติยศ ถ้าดาว ๖ มีความสัมพันธ์ร้ายกับดาวบาปเคราะห์ เจ้าชะตาจะมีปัญหาและอุปสรรคในการทำงานการต่างๆ |
ถ้าดาว ๖ มีความสัมพันธ์กับดาว ๔ , ๕
|
เจ้าชะตาจะมีความสุขความสบายจากการมีรถยนต์ส่วนตัวหรูๆ อาจต้องเข้าวัดทำบุญสั่งสมบารมี จะมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว จะมั่งคั่งร่ำรวย จะมีโชคและจะต้องเป็นคนช่างพูด |
ระวังดาว ๖ กุมดาว ๑ ประชิดองศา หรือจุดดับ
|
เป็นความสัมพันธ์ที่ร้ายที่สุดของดาว ๖ |
ดาว ๖ สถิตภพลาภะ
|
จะให้ผลดีในทางการเงินและการทำมาหาได้ การสังคมและมิตรสหาย
|
ถ้าหากโครงสร้างอื่นๆของดวงชะตาดี คือ ดาวศุภเคราะห์สถิตในตำแหน่งที่ดี ลัคนาและจันทร์ไม่สถิตในฤกษ์เสียฤกษ์ขาดที่เป็นโทษ |
ดาว ๖ ในภพนี้จะให้ทุกอย่างเท่าที่ต้องการ ไม่ว่าจะยากดีมีจน จะประสบความสำเร็จได้อย่างสูง ไม่ว่า...ทางทรัพย์สินเงินทอง หรือชีวิตในทางสังคม |
แต่ถ้าดาว ๖ สถิตในตำแหน่งที่เสื่อม และมีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ในดวงเดิม และมีโยคเกณฑ์ที่ผิดฏำเกณฑ์ในดวงจรแล้ว |
ก็จะต้องคิดให้มากหน่อย อย่างเลวที่สุดก็คือ ภพที่ ๑๑ และดาว ๖ จะไม่ให้คุณเต็มที่ หรือถ้าให้ก็เต็มไปด้วยปัญหาและอุปสรรค ชีวิตจะเต็มไปด้วยการฝ่าฟันและล้มลุกคลุกคลาน หรือดำเนินไปอย่างกระท่อนกระแท่น |
โบราณกล่าวไว้ว่า...
|
เจ้าชะตาจะเป็นคงแก่เรียน ร่ำรวยมั่งคั่ง เป็นเจ้าของที่ดินและมีจิตใจเมตตากรุณา |
ถ้าดาว ๖ มีความสัมพันธ์ดีกับศุภเคราะห์ด้วยกัน
|
เจ้าชะตาจะมีความสะดวกสบาย มีรถยนต์เป็นของตนเอง การได้เงินทองและทรัพย์สินจะได้มาด้วยความสุจริต |
ถ้าดาว ๖ มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์
|
การได้ทรัพย์สินเงินทองจะได้มาด้วยการมีปัญหา หรือมีข้อที่น่าสงสัยว่า...ได้มาโดยไม่สุจริต |
ถ้าดาว ๖ อยู่ในเรือนนิจ หรือมีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ หรือเป็นเจ้าเรือนทุสถานะภพ
|
เจ้าชะตาจะพลาดโอกาสในการที่จะทำมาหาได้ หรือได้เงินทองมายาก |
ภพที่ ๑๑ จะดีมากในทางการเงิน โชคลาภ และการทำมาหาได้ เพราะฉะนั้น การที่ชะตาใดมีดาวศุภเคราะห์สถิตอยู่ ย่อมยืนยันได้ว่า.... |
จะประสบความสำเร็จในทางด้านการเงินอย่างไม่มีปัญหาแน่นอน เฉพาะอย่างยิ่ง ดาว ๖ และดาว ๕ ดวงใดดวงหนึ่ง หรือทั้ง ๒ ดวง เข้าประกบกัน ก็อาจจะทายได้ว่า....รวยกันไม่รู้เรื่องเลย แต่ดาวศุภเคราะห์ที่กล่าวนี้ต้องสถิตในราศีที่ดี ไม่ผิดกฎเกณฑ์ต่างๆ และต้องไม่มีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ |
ดาว ๖ สถิตภพวินาศ
|
ดาว ๖ ที่สถิตในภพนี้
|
เป็นดาว ๖ที่ใฝ่สันติ รักสงบ ทำให้เป็นคนรักสันโดษ ไม่ชอบเปิดเผยตัว ชอบแสวงหาความรู้เกี่ยวกับอำนาจลี้ลับ อำนาจเหนือธรรมชาติ ถ้าเกี่ยวกับความรัก ก็จะเป็นความรักประเภทไม่เปิดเผย หรือเก็บเงียบ นั้นหมายถึง ดาว ๖ ต้องเข้าสถิตในตำแหน่งที่ดี เป็น เกษตร,มหาอุจ และไม่มีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ดวงใด |
ถ้าไม่เป็นไปตามนี้
|
เจ้าชะตาจะมีจิตใจไม่สงบ ชีวิตจะไม่ได้รับความสุข จิตใจจะเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา ถ้าเป็นดวงชาย ผู้หญิงจะนำความเดือดร้อนมาให้ หรือการเข้าไปมั่วสุมกับผู้หญิงจำนวนมากไม่เลือกหน้า จะให้โทษ |
โบราณว่า...
|
ดาว ๖ ในภพนี้ก็เหมือนกับดาว ๖ ในภพอื่นๆ เพราะเป็นศุภเคราะห์ ไม่ว่า...จะไปสถิตในภพไหนในดวงชะตา แม้จะให้โทษอะไรขึ้นมาบ้าง ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปตามปกติวิสัยของมนุษย์ ที่จะต้องมีต้องเป็นกัน |
ถ้าดาว ๖ มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์
|
จะทำให้เจ้าชะตาเป็นคนยากจน ชอบมั่วสุมและหมกมุ่นในเรื่องกามารมณ์ ตายไปจะตกนรก |
ถ้าดาว ๖ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับศุภเคราะห์
|
เจ้าชะตาจะร่ำรวย ชีวิตมีแต่ความสุข โดยเฉพาะทางด้านกามารมณ์ ตายไปจะได้ไปสวรรค์ |
ในดวงชะตาแต่ละดวง ต้องมี ๑๒ ราศี จะมีดวงดาวต่างๆกระจัดกระจายกันอยู่ ไม่อยู่ร่วมกันในราศีเดียวทั้งหมด ทั้งดาวดีดาวร้าย ทั้งศุภเคราะห์และบาปเคราะห์ |
เพราะฉะนั้น ไม่ว่า....ดาวใดสถิตในตำแหน่งใดๆ หรือในภพใดเรือนใดก็ตาม ดาวนั้นก็จะได้รับโยคเกณฑ์ที่ดีที่ร้ายเหมือนกันหมด มากน้อยก็ไม่แตกต่างกันมากนัก ดาวดีที่มีโยคเกณฑ์ดีต่อกัน ก็ย่อมส่งเสริมและสนันสนุนซึ่งกันและกัน ในขณะเดียวกัน ถ้าดาวดวงนั้นเป็นบาปเคราะห์ ซึ่งถ้าเป็นโยคเกณฑ์ร้ายต่อกัน ก็จะให้ผลร้าย ซึ่งผลร้ายที่เกิดขึ้นแก่ดวงชะตาแต่ละดวงนั้น จะเป็นดวงๆไป เป็นเรื่องๆไป ไม่ใช่เป็นหมด หรือเสียหายทั้งหมด หรือเสียหายไปทั้งดวงตลอดชีวิต ในชีวิตคนแต่ละคนจะมีเรื่องเป็นพันๆเรื่อง ดีก็มี เลวก็มี |
เพราะฉะนั้น เมื่อดาว ๖ เข้าไปสถิตในภพที่ ๑๒ ที่ท่านถือว่า...
|
เป็นภพที่ไม่ให้ผลนั้น ก็จะต้องเหมือนดาวอื่นๆ ดาว ๖ อาจจะถูกเกาะกุมหรือได้โยคเกณฑ์ดีจากดาวที่ดี ดาว ๖ก็ย่อมจะให้ผลดี ในขณะเดียวกัน ถ้าดาว ๖ ได้รับโยคเกณฑ์ร้ายก็อาจจะให้ผลร้ายในเรื่องที่ดาวเหล่านั้นบ่งชี้ เช่น ท่านบอกว่า...ดาว ๖ สถิตในภพที่ ๑๒ จะทำให้เกิดความยากจน ไม่มีอันจะกิน ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะถ้าดาว ๖ ถูกกุมหรือมีความสัมพันธ์ที่ดีกับดาว ๕ ในตำแหน่งที่ดีเข้า ดาวทั้งคู่สถิตในราศีที่ให้คุณ การทำนายต้องเป็นตรงกันข้าม จากที่ต้องทำนายว่า....ยากจน ต้องเปลี่ยนเป็น...ร่ำรวย |
จากนั้นต้องพิจารณาว่า...
|
การร่ำรวยมาจากไหน ก็ไปพิจารณาภพที่เป็นตรีโกณต่อกัน ภพที่ ๑๒ เป็นภพตรีโกณกับภพที่ ๔ และภพที่ ๘ |
ภพที่ ๔ หมายถึง
|
ที่ดิน ทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ เป็นมรดกเก่าแก่ของบรรพบุรุษตกทอดกันมา ดาว ๖ ในภพที่ ๑๒ ให้โยคเกณฑ์ไปถึงภพที่ ๔ " ดาว ๖ เป็นศุภเคราะห์ ย่อมส่งแสงไปให้ภพที่ ๔ ซึ่งหมายถึง ทรัพย์สินมรดกที่เจ้าชะตามีอยู่ " และถ้าถามว่า.......จะหาความร่ำรวยจากที่ดินและทรัพย์สินเหล่านั้นต่อไป จะมีทางทำได้หรือไม่อย่างไร? |
เราก็พิจารณาภพที่เป็นตรีโกณอีกภพหนึ่ง คือ ภพที่ ๘ ซึ่งหมายถึง
|
เงินส่วนแบ่ง เงินปันผล เงินที่ได้มาจากดอกเบี้ยและการเก็บค่าเช่า เงินที่คนอื่น(ภพที่ ๗ ) เป็นผู้ดำเนินการเอามันไปทำเงินทำทองมาแบ่งปันให้เจ้าชะตานั่นแหละ |
ถ้าดาว ๖ ในภพที่ ๑๒ มีตำแหน่งดี
|
ส่งกระแสไปถึงภพที่ ๘ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่บ่งชี้ว่า....ที่ดินหรือทรัพย์สินในภพที่ ๔ จะทำให้เกิดความร่ำรวยไม่ได้ |
เพราะฉะนั้น ดาว ๖ ในภพนี้
|
จึงไม่ควรมองในแง่ร้ายเสียทีเดียว จะมีบ้างก็เรื่องครอบครัวหรือลูกเมียที่มีอะไรไม่ค่อยจะราบรื่น นั่นก็เป็นปกติของสามัญชนทั่วไป ไม่ว่า..จะมีดาว ๖ หรือไม่มีในภพที่ ๑๒ |
ในด้านกามารมณ์ ดาว ๖ ไม่ได้หมายถึงความสนุกสนานทางเพศเท่านั้น
|
แต่ยังหมายถึง รังไข่ มดลูก น้ำกาม ถ้ามีบาปเคราะห์เข้าไปเกี่ยวข้อง ก็อาจจะเจ็บไข้ได้ป่วยได้ คนที่จะไปหลงไหลกับความบันเทิงด้านกามารมณ์ไม่คิดหน้าคิดหลังนั้น อาจจะเกิดอันตรายขึ้นมาก่อนจะมีความสนุกสนานก็เป็นได้ ดาว ๖ ในภพนี้ อาจจะทำให้เกิดการหมดความต้องการทางเพศ หรือเบื่อหน่ายกามารมณ์ได้ ดูกันตรงที่ดาวบาปเคราะห์และศุภเคราะห์เข้ามาเบียน ก็จะมองออกไม่ยากนัก |