Welcome to
ห้องโหรแว่นทิพย์
ศาสตร์แห่งปัญญาเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
โดย : ธนวันต์ ศรีอมรรัตนกุล
พยาบาลวิชาชีพ 6 กลุ่มงานวิชาการพยาบาลอนามัยชุมชน วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ
การดูแลหลังคลอดแบบแผนไทยนี้ จะเริ่มทำตั้งแต่มารดาหลังคลอดออกจากโรงพยาบาล ซึ่งขั้นตอนการเตรียมไม่ยุ่งยาก อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถหาได้ในบ้านหรือในชุมชนเอง ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้วิธีของการดูแลหลังคลอดแบบแผนไทย โดยมารดาหลังคลอด 1 คน อาจจะใช้เพียง 1-2 วิธีเท่านั้น ดังต่อไปนี้
1. การอบสมุนไพร
การอบสมุนไพรไทยหลังการคลอด เป็นวิธีการที่จะทำให้ร่างกายได้ขับของเสียออกทางผิวหนัง ช่วยขับน้ำคาวปลา ช่วยให้ผิวพรรณสดชื่น แจ่มใส สะอาด สำหรับผู้ที่คลอดปกติ จะทำการอบได้เมื่อครบกำหนด 7 วัน และสำหรับผู้ที่คลอดโดยการผ่าคลอด จะอบได้เมื่อครอบหลังคลอด 30 วัน
ตัวยาในการอบรมสมุนไพร มีดังนี้ คือ ไพล ขมิ้นอ้อย ขมิ้นชัน ตะไคร้ ใบมะกรูด และผิวมะกรูด ใบหญ้าคา ใบพลับพลึง ว่านน้ำ ว่านชักมดลูก ว่านมหาเมฆ ว่านนางคำ ใบเปล้าหลวง ขิง ใบช้าพลู ใบส้มป่อย
วิธีอบ ควรอบวันละประมาณ 20 นาที และอบสมุนไพรทุก ๆ วันจนครบ 7 วัน
2. การประคบสมุนไพร
เป็นวิธีการที่ช่วยทำให้แผลฝีเย็บแห้งดีและลดการอักเสบ และลดการคัดของเต้านม ทั้งยังช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หลังคลอดบุตร 7 วัน สามารถประคบด้วยลูกประคบ ซึ่งมีตัวยาหลักดังนี้ ไพล ตะไคร้ ขมิ้นอ้อย ขมิ้นชัน ผิวมะกรูด เถาขมิ้นอ่อน ใบส้มป่อย ใบมะขาม การบูร
วิธีประคบ ใช้ลูกประคบ 3 ลูก ใช้นั่งทับ 1 ลูก อีก 2 ลูก ใช้ประคบตามร่างกายและเต้านมประคบทุกวันจนนมหายคัด หลังจากประคบอาจใช้น้ำที่เหลือจากการอบสมุนไพร ทิ้งไว้ให้พออุ่นแล้วอาบให้หมดแล้วจึงอาบน้ำอุ่น ๆ ล้างอีกครั้งหนึ่ง
3. การนั่งถ่าน
เป็นการใช้ความร้อนและควันจากการเผาไหม้ของตัวยาสมุนไพร เพื่ออบบริเวณช่องคลอด ซึ่งช่วยสมานแผลจากการคลอดบุตร ส่วนประกอบในตัวยามีดังนี้ ผิวมะกรูดแห้ง เหง้าว่านน้ำ ว่านนางคำ ไพล ขมิ้นอ้อย ชานหมาก เปลือกต้นชลูด ขมิ้นผงและใบหมาก
วิธีการนั่งถ่าน
- หั่นตัวยาสมุนไพรให้ละเอียด แล้วนำมาตากแดดให้แห้ง
- ก่อเตาไฟเล็ก ๆ และกลบขี้เถ้าให้ร้อนพอทนได้ นั่งเก้าอี้ไม้เจาะรูตรงกลางวางครอบเตาไฟ
- เอาตัวยาสมุนไพรโรยบนเตาถ่าน จะเกิดควันจากการเผาไหม้ ตัวยาจะพลุ่งขึ้นมาเอง
- มารดาหลังคลอดนั่งบนเก้าอี้ให้ควันและความร้อนเข้าสู่ช่องคลอด ให้มารดาหลังคลอดนั่งถ่านวันละ 1 ครั้ง ๆ ละ ½ ชม. โดยทำภายหลังจากการนาบหม้อเกลือ
4. วิธีนั่งอิฐ
นำอิฐแดงย่างหรือเผาให้ร้อน แล้วเอาออกมาวางบนวัตถุที่ทนร้อน เอาใบปลีหลวงหรือใบพลับพลึงวางซ้อน ๆ กันหลาย ๆ ชั้น ให้นั่งทับ ค่อย ๆ นั่งลงไปเพราะนั่งทีเดียวจะร้อนมาก มารดาหลังคลอดจะรู้สึกสบาย ร่างกายแข็งแรงเร็ว ห้ามสระผมภายใน 7 วัน หลัง 7 วันจึงสระน้ำอุ่นได้ (วิธีนี้เป็นวิธีพื้นบ้านภาคเหนือ)
หรือใช้อิฐย่างไฟให้ร้อน นำมาห่อด้วยผ้าขาวม้าตามยาว ม้วนผ้าขาวม้าให้รอบอิฐ นำมาผูกไว้บริเวณตำแหน่งของมดลูกที่หน้าท้อง เพื่อให้ความร้อนผ่านเข้าสู่หน้าท้อง ทำให้มดลูกแข็งแรงขึ้น
5. การอยู่ไฟชุด
วิธีนี้จะมีไฟชุดสำเร็จรูปเป็นกล่อง ที่สามารถนำความร้อนประมาณ 4 กล่อง ภายในกล่องจะใส่ก้านแท่ง แล้วใส่ลงในผ้าซึ่งตัดเย็บไว้พอดีที่กล่องทั้ง 4 จะวางได้ โดยผ้านั้นจะมีเชือกสำหรับนำมาคาดที่เอว หรือบริเวณที่มีอาการปวด หรือบริเวณหน้าท้อง วิธีนี้ลดอาการปวดมดลูกได้
6. การอยู่ไฟญวณ
วิธีนี้เราจะใช้ไม้กระดานให้มารดาหลังคลอดนอนแบบไม้กระดาน เช่น เกี่ยวกับการอยู่ไฟกระดาน แต่ต่างกันตรงที่เอาเตาไฟไว้ใต้ไม้กระดานนั้น ในช่วงบริเวณหลังของมารดาหลังคลอด
7. การอยู่ไฟกระดาน
วิธีนี้คล้าย ๆ กับการอยู่ไฟญวณ แต่ต่างกันตรงที่วิธีนี้เตาไฟจะวางไว้ข้าง ๆ ไม้กระดาน โดยความร้อนจากเตาไฟจะไม่ผ่านหลังโดยตรง
8. การทับหม้อเกลือ
อุปกรณ์ที่ใช้
- ผ้าปูสี่เหลี่ยม 1 ผืน
- หม้อทะนน (เตรียมไว้ 4 ใบ)
- เตาถ่านขนาดให้พอดีกับหม้อ
- เกล็ดเกลือ (เติมในหม้อทะนน) ตั้งไฟสุก ๆ ประมาณ 15 นาที
- ตัวสมุนไพร เช่น ไพลสด 1 ส่วน ว่านนางดำ ½ ส่วน ว่านชักมดลูก ½ ส่วน การบูร พอประมาณ ใบพลับพลึง และใบละหุ่ง
วิธีทำ
- ล้างไพลให้สะอาด ไม่ต้องปอกเปลือก ว่านนางคำและว่านชักมดลูกผสมการบูรลงไป
- นำใบพลับพลึงมากางใบออก เอาด้านหน้าวางบนไหล่ 2 ใบ ตั้งฉากกัน วางหม้อเกลือทับใบพลับพลึง ห่อผ้ามัดให้แน่น
- ทุกครั้งที่เปลี่ยนหม้อใหม่ ควรเติมตัวยาให้พอดีกับยาที่แห้งไป ถ้ายาแห้งมากให้พรมน้ำ
วิธีทับหม้อเกลือ
ท่าที่ 1 นอนหงาย ให้โกยท้องก่อน แล้วจึงนำเอามุมหม้อเกลือวางหมุนไปรอบ ๆ หมุนวน 1 รอบ วางพักหม้อเกลือเหนือหัวเหน่า แล้วหมุนทำใหม่ 5-6 รอบ
ข้อควรระวัง หม้อต้องไม่ร้อนเกินไป เพราะผ้าอาจไหม้ได้ บริเวณใต้อกห้ามวางแรง ๆ เพราะจะทำให้จุกแน่นได้ ต้องโกยลำไส้ก่อนทำทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ไส้พอง
ท่าที่ 2 การเข้าตะเกียบ เอาหม้อเกลือวางด้านข้างบริเวณช่องกล้ามเนื้อขาด้านนอก กดไล่ขึ้น-บน ต้นขา บนร่องกล้ามเนื้อหน้าแข็งด้านใน เสร็จแล้วจับตาดูผู้ป่วยให้อยู่ในลักษณะที่สามารถใช้หม้อเกลือกดทับขาด้านในได้ ในลักษณะกด-ยก กด-ยก ซึ่งสามารถช่วยแก้เหน็บชาได้ เสร็จแล้วเปลี่ยนหม้อเกลือใหม่
ท่าที่ 3 นอนตะแคง หลังคลอดจะมีอาการปวดหลังมาก ให้ใช้กรองเกลือกดทับบริเวณช่วงกระเบนเหน็บ ใช้มือซ้ายพยุงสะโพกด้านบน มืออีกข้างหนึ่งจับหม้อ เอวด้านข้างกดทับหนุนไปมาหลายครั้ง ๆ จากนั้นกดไล่ขึ้นตามร่องกระดูกสันหลัง
ท่าที่ 4 ท่านอนคว่ำ เอาหม้อเกลือทับท้องขาใต้ก้น
ข้อควรระวังในการทับหม้อเกลือ
- ผู้ป่วยมีไข้
- หลังกินอาหาร
- มดลูกต้องเข้าอู่ก่อน
- ผ่าตัดคลอด ห้ามทับ ต้องรอถึง 45 วัน
ประโยชน์ของการทับ
- ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ได้สนิทมากขึ้น
- ลดไขมันหน้าท้อง แก้อาการปวดเมื่อย
- ทำให้น้ำคาวปลาไหลดีขึ้น
- ให้ทำตอนเช้า ครั้งละ 2 ชั่วโมง ติดต่อกัน 3-5 วัน
จากการสัมภาษณ์ คุณมนตรา ธีระพจน์ ผดุงครรภ์โบราณ ผู้มีประสบการณ์ทำคลอดกว่า 50 ปี พบว่า ในช่วงของการตั้งครรภ์จะให้มารดาดื่มน้ำเกสรทั้ง 5 (พิกุล บุญนาค สารภี เกล้าบัวหลวง มะลิ) โดยแนะนำให้มารดาต้มดื่มต่างน้ำ ช่วยในการบำรุงโลหิตและบำรุงหัวใจ โดยแนะนำว่า ควรต้มแบบเจือจาง ไม่ควรต้มเข้มข้น เพราะจะทำให้มีอาการท้องผูก เกิดบิดหัวลูก คือ อาการปวดเบ่ง แต่ไม่มีอุจจาระมีแต่ลมออกมา ส่วนในเรื่องการตรวจครรภ์ก่อนคลอด ขึ้นอยู่กับประสบการณ์หมอ โดยการนับช่วงของการหมดประจำเดือนครั้งสุดท้าย หรือการดูรอบยอดมดลูก โดยวัดจากประสบการณ์และสายตาของหมอ การดูทารกดิ้นในครรภ์ ส่วนในการดูแลหลังคลอดนั้น คุณมนตรา ธีระพจน์ กล่าวว่า จะไม่นิยมอยู่ไฟทุกวิธีในมารดาหลังคลอด 1 คน จะใช้เพียง 1-2 วิธีนี้เท่านั้น ขึ้นอยู่กับความสะดวกของมารดาหลังคลอด และตั้งแต่ดูแลมารดาหลังคลอด ไม่เคยมีรายใดที่มีภาวะแทรกซ้อนจากการอยู่ไฟ ซึ่งคุณมนตรา ธีระพจน์ กล่าวว่า ช่วงตรวจครรภ์จะมีวิธีกล่อมท้อง ซึ่งก็คือ การหมุนจัดท่าเด็กให้อยู่ในท่าที่ปกติ พร้อมที่จะคลอด โดยจะรับกล่อมเมื่อครรภ์อายุ 7 เดือนขึ้นไป
แบบทดสอบการดูแลหลังคลอดแบบแผนไทย ๆ
โดย : ธนวันต์ ศรีอมรรัตนกุล
พยาบาลวิชาชีพ 6 กลุ่มงานวิชาการพยาบาลอนามัยชุมชน วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ
1. การอบสมุนไพรหลังคลอด มีประโยชน์ในข้อใดมากที่สุด
- ขับของเสียออกทางผิวหนัง และช่วยขับน้ำคาวปลา
- ช่วยลดอาการท้องอืด จุก เสียด แน่นท้อง
- ช่วยลดไขมันหน้าท้อง
- ช่วยลดอาการไข้หวัด ตัวร้อ
ตอบ ถูกทั้ง ข้อ 1-4 เหตุผล ประโยชน์ของการอบสมุนไพร แต่ประโยชน์ที่ได้มากที่สุดคือ การช่วยขับของเสียทางผิวหนัง และช่วยให้น้ำคาวปลาออกได้ดียิ่งขึ้น
2. สำหรับผู้คลอดปกติจะทำการอบ เมื่อครบหลังคลอดกี่วัน
- 7 วัน
- 8 วัน
- 9 วัน
- 10 วัน
ตอบ ข้อ 1 เหตุผล หลังคลอดปกติ ควรอบประมาณ 7 วัน หลังคลอด เพื่อให้ช่วงระยะเวลาของการอบมีมากขึ้น
3. สำหรับผู้คลอดโดยการผ่าคลอด จะอบสมุนไพร เมื่อครอบหลังคอลดกี่วัน
- 1 สัปดาห์
- 2 สัปดาห์
- 3 สัปดาห์
- 4 สัปดาห์
ตอบ ข้อ4 เหตุผล เนื่องจากเป็นการคลอดที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ จึงควรอบหลังคลอดแล้วประมาณ 1 เดือน เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
4. ประโยชน์ของการนั่งถ่าน คือข้อใด
- เพื่อให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น
- เพื่อลดไขมันหน้าท้อง
- เพื่อให้แผลฝีเย็บแห้ง
- เพื่อกระตุ้นการหลั่งน้ำนม
ตอบ ข้อ 3 เหตุผล การนั่งถ่าน อาศัยควันที่ได้จากการเผาสมุนไพรช่วยรมบริเวณช่องคลอด และฝีเย็บ ทำให้ฝีเย็บแห้ง ตัดได้เร็วขึ้น
5. การนั่งอิฐ จะใช้ใบอะไรรองอิฐแดงร้อน
- ใบพลับพลึง
- ใบกล้วย
- ใบมะพร้าว
- ใบทองหลาง
ตอบ ข้อ 1 เหตุผล ใช้ได้ทุกใบ แต่ใช้ใบพลับพลึงจะดีที่สุด เนื่องจากมีสรรพคุณในการช่วยคลายกล้ามเนื้อ
6. การอยู่ไฟ โดยนำเตาไฟไว้ใต้ไม้กระดาน เรียกว่าอะไร
- การอยู่ไฟญวณ
- การอยู่ไฟกระดาน
- การอยู่ไฟชุด
- การอยู่ไฟอิฐ
ตอบข้อ 1 เหตุผล
- การอยู่ไฟญวณ จะวางเตาไว้ใต้ไม้กระดาน
- การอยู่ไฟกระดาน จะวางเตาไว้ข้างไม้กระดาน
- การอยู่ไฟชุด จะใช้ไฟชุด ไม่ใช้เตาไฟ
- การอยู่ไฟอิฐ จะใช้อิฐเป็นตัวนำความร้อน ไม่ใช้เตาไฟ
7. การอยู่ไฟ โดยนำเตาไฟไปไว้ข้างไม้กระดาน เรียกว่าอะไร
- การอยู่ไฟญวณ
- การอยู่ไฟกระดาน
- การอยู่ไฟอิฐ
- การอยู่ไฟชุด
ตอบข้อ 2 เหตุผล เดียวกับข้อ 7
8. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการทับหม้อเกลือ
- ไม่ทับหม้อเกลือในคนที่มีไข้
- ไม่ทับหม้อเกลือในคนหลังรับประทานอาหารอิ่ม
- มดลูกต้องเข้าอู่แล้ว จึงสามารถทับหม้อเกลือได้
- หลังคลอด 1 วัน สามารถทับหม้อเกลือได้
ตอบ ข้อ 4 เหตุผล การทับหม้อเกลือต้องรอให้มดลูกเข้าอู่แล้วและไม่ควรทับหม้อเกลือในคนที่มีไข้ และหลังรับประทานอาหารใหม่ ๆ
9. อาหารที่มารดาหลังคลอด ควรงด คือข้อใด
- อาหารเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ของดอง
- อาหารรสเย็นชืด เช่น ผักบุ้ง ผักตำลึง
- อาหารรสฝาด หวาน เช่น กล้วย มังคุด
- ทุกข้อที่กล่าวมา
ตอบ ข้อ 1 เหตุผล มารดาหลังคลอดไม่ควรรับประทานอาหารรสจัดและหมักดอง ซึ่งมีผลต่อทารกทางน้ำนมได้