Welcome to
ห้องโหรแว่นทิพย์
ศาสตร์แห่งปัญญาเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
|
มุมสงบส่วนตัวที่เกาะมันนอก | |
| คุณกำลังมีอาการอย่างนี้อยู่หรือเปล่า
มองทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวด้วยความเหนื่อยหน่าย
ไม่มีความคิดใหม่ๆ ในการทำงาน
มีอาการเฉื่อยชาจนคนรอบข้างทัก
และอีกร้อยแปดอาการที่แสดงถึงอาการเบื่อ ถ้าคุณกำลังมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งที่กล่าวมาแล้วละก็ แสดงว่าไฟในตัวของคุณกำลังจะมอด และเราขอแนะนำให้คุณไปเติมแบต ชาร์จไฟให้กับชีวิต ด้วยการเก็บกระเป๋าไปเที่ยวกันดีกว่า
|
สถานที่ท่องเที่ยวที่จะพาไปในวันนี้อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพนัก นั่นก็คือ เกาะมันนอก ที่ จังหวัดระยอง นั่นเอง ใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพ เราก็เดินทางมาถึงท่าเรือของเกาะมันนอก จากนั้นก็นั่งเรือต่อไปอีกประมาณ 40 นาที ก็จะถึงตัวเกาะ แต่เรือใหญ่ไม่สามารถไปส่งเราจนถึงฝั่งได้ ดังนั้นจึงต้องลงเพื่อมาต่อเรือเล็ก ที่เรียกว่าเรืออ่างเข้าสู่ฝั่ง ไม่ว่าใครที่มาถึงที่นี่แล้ว ก็เชื่อว่าคงจะมีความรู้สึกที่ไม่ต่างกัน คือความรู้สึกสงบ เป็นส่วนตัว และรู้สึกว่าได้มาพักผ่อนกันแบบจริงๆ จังๆ เนื่องจากที่นี่เป็นเกาะส่วนตัวเล็กๆ มีรีสอร์ทเพียงแห่งเดียว จึงมั่นใจได้ว่าไม่มีผู้คนพลุกพล่านเหมือนอย่างเกาะขนาดใหญ่อื่นๆ แน่นอน เมื่อมาถึงเกาะแล้ว เรารีบเก็บข้าวเก็บของไว้ภายในห้อง และออกมาชมวิวทิวทัศน์ด้านนอก ซึ่งสวยงามมากๆ หาดทรายขาวสะอาด มีหินก้อนเล็กก้อนใหญ่เรียงรายอยู่ตามชายหาด ที่สำคัญคือน้ำทะเลที่ใสแจ๋วน่าเล่นเป็นที่สุด และริมชายหาดจะมีศาลาที่มีสะพานยื่นลงไปในทะเลให้คนที่มาพักได้นั่งเล่นผ่อนคลายอารมณ์ หรือใครไม่อยากนั่งเล่นก็สามารถไปเดินเล่นรอบเกาะได้ ใช้เวลาในการเดินประมาณ 1 ชั่วโมง เรานั่งพักผ่อนคลายที่ริมชายหาดสักครู่ก็กลับขึ้นเรือออกเดินทางต่อไปยังเกาะมันใน เพื่อไปชม โครงการสมเด็จฯ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ซึ่งเป็นโครงการจากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทางโครงการฯ ได้เพาะเลี้ยงและอนุบาลลูกเต่าทะเลก่อนจะปล่อยลงสู่ทะเล เพื่อเป็นการเพิ่มและขยายพันธุ์เต่าทะเลในธรรมชาติ ทั้งยังเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์เต่าทะเลชนิดต่างๆ เพื่อใช้ในการขยายพันธุ์อีกด้วย
|
ที่นี่มีเต่าหลากหลายชนิดให้ชม เช่น เต่ากระ เต่าตนุฯลฯ ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ ว่ายน้ำกันอยู่ในอ่างดูน่ารักดี ที่มาในวันนี้นอกจากจะได้มาดูเต่าแล้ว เราก็ยังได้มีโอกาสมาปล่อยเต่ากันอีกด้วย ซึ่งทางโครงการได้จัดเต่ากระตัวใหญ่ และลูกเต่าตัวเล็กๆ ไว้ให้พวกเราได้ปล่อยกันลงทะเล ขณะที่ปล่อยเต่าไปก็นึกอธิษฐานในใจว่าขอให้มันไม่ถูกคนจับมาอีก และขอให้มันอยู่ในทะเลอย่างมีความสุข ออกลูกออกหลานแพร่พันธุ์ให้มีเต่าทะเลเยอะๆ ขากลับเรานั่งเรือกลับมาด้วยความรู้สึกอิ่มใจที่ได้ช่วยเต่าน้อยเต่าใหญ่ให้กลับคืนสู่ทะเล จริงๆ แล้วตามโปรแกรมเดิมเราต้องแวะดำน้ำกันที่ เกาะทะลุ แต่ฝนที่เริ่มลงเม็ดทำให้โปรแกรมการดำน้ำต้องยกเลิกไปก่อน เพราะฝนจะทำให้น้ำขุ่น มองไม่เห็นปะการังอย่างสวยงามเท่าที่ควร ดังนั้นจึงตกลงกันว่าจะเลื่อนไปเป็นพรุ่งนี้เช้า ซึ่งก็ไม่มีปัญหา เราก็เล่นน้ำกันที่เกาะมันนอกไปก่อนเพื่อเป็นการซ้อมดำน้ำในวันพรุ่งนี้ไปพลางๆ ดังนั้นเมื่อกลับมาถึงเกาะแล้วเราก็ไม่รอช้า รีบกระโดดลงน้ำทันที
|
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากจัดการกับธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินทางไปยังเกาะทะลุเพื่อดำน้ำดูปะการัง จากเกาะมันนอกไปเกาะทะลุ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ระหว่างที่เรือแล่นอยู่ในทะเลก็จะเห็นฝูงปลาสีเงินตัวเล็กๆ กระโดดขึ้นมาบนผิวน้ำสวยงามมาก นอกจากนั้นก็ยังมีเรือหาปลาแล่นอยู่ไกลๆ สีแดงของลำเรือดูโดดเด่นอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าและน้ำทะเลสีฟ้า ด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามเช่นนี้ทำให้ 45 นาทีของการเดินทางนั้นดูไม่ยาวนานจนเกินไป ในที่สุดเราก็มาถึงเกาะทะลุ เมื่อเห็นแล้วก็ได้คำตอบทันทีว่าทำไมที่นี่จึงชื่อว่าเกาะทะลุ นั่นก็เพราะว่า ส่วนหนึ่งของเกาะที่ยื่นออกมาคล้ายหน้าผานั้น มีช่องเป็นรูปรีขนาดใหญ่ สามารถทะลุจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งได้ ที่เกาะทะลุนี้มีชายหาดเล็กๆ อยู่ด้านหน้าเกาะ แต่ส่วนบริเวณอื่นๆ จะเป็นหน้าผาเกือบทั้งหมด การดำน้ำในวันนี้เป็นการดำดูปะการังแบบผิวน้ำ หรือที่เรียกว่าสน็อกเกิลลิ่ง ดังนั้นเมื่อแต่งองค์ทรงเครื่อง ใส่เสื้อชูชีพและหน้ากากกันน้ำเรียบร้อยแล้ว เรือก็จอดให้เหล่านักดำน้ำกระโดดลงทะเลไปทีละคนสองคน ก่อนที่จะขับไปจอดรออีกด้านหนึ่งของเกาะ โดยคนขับเรือบอกให้เราว่ายจากด้านหน้าชายหาด ผ่านช่องเขาทะลุ แล้วกลับมาขึ้นเรือ เราก็คิดในใจว่าใกล้แค่นี้เอง สบายมาก ก่อนจะกระโดดลงน้ำตูมลงไป
|
เมื่อลงน้ำไปแล้วก็เริ่มต้นดำน้ำชมปะการังเลยทันที โลกใต้น้ำที่เกาะทะลุนี้ก็สวยงามไม่แพ้ที่อื่นๆ ที่นี่เราได้เห็นหอยเม่นอยู่ตามซอกหิน และได้เห็นปลาหลากหลายสีว่ายไปมา ได้เห็นปะการังรูปร่างหน้าตาและสีสันสวยงามมากมาย กำลังดำน้ำอยู่เพลินๆ ก็ต้องตกใจกับเสียงบางอย่างที่ดังอยู่ข้างบน เมื่อเงยหน้ามองขึ้นไปก็เห็นฝรั่ง 3 คนกำลังจะกระโดดลงจากหน้าผามาสู่ทะเล ประมาณว่าอยากเล่นแบบเสี่ยงๆ ส่วนเราก็ดันไปดำน้ำขวางทางเขาอยู่ ดังนั้นก็เลยรีบว่ายหลบเส้นทางเขาออกมา แต่ในใจก็คิดว่าจะกระโดดลงมาได้หรือ เพราะข้างใต้น้ำนั้นก็มีโขดหินอยู่ ดีไม่ดี กระโดดลงมากระแทกหินเข้าแล้วจะเจ็บตัว ก็พอดีกับที่คนบนเรือร้องบอกฝรั่งว่าไม่ให้กระโดด เพราะอันตราย ฝรั่ง 3 คนนั้นจึงลังเล แล้วก็ค่อยๆ ไต่หน้าผากลับขึ้นไป
|
หมดเรื่องกับฝรั่งแล้ว เราก็ว่ายน้ำดูปะการังต่อจนพอใจ แล้วก็ได้เวลากลับขึ้นเรือ แต่คราวนี้ว่ายเท่าไหร่ก็ไปไม่ถึงเรือเสียที เพราะนอกจากแรงจะเริ่มหมดเพราะว่ายมานานแล้ว กระแสน้ำที่ดูสงบภายนอก แต่ค่อนข้างรุนแรงอยู่เบื้องล่างก็ยังพัดเราออกห่างจากเรือไปทุกทีๆ จึงต้องรีบว่ายและตะเกียกตะกายสุดชีวิตจนมาถึงเรือจนได้ และคิดในใจว่าไม่ง่ายเหมือนกับที่คิดไว้ตอนแรกเลย ถึงจะเหนื่อยจากการว่ายน้ำอย่างไร ก็ไม่ทำให้ความสนุกสนานที่ได้รับนั้นลดน้อยลง น่าเสียดายที่เรามีเวลาแค่เพียง 2 วัน ในการพักผ่อนที่เกาะมันนอก แต่ด้วยเวลาเพียงสั้นๆ แค่นั้น ก็สามารถสร้างพลังใจให้เรากลับไปลุยต่อการทำงานได้ใหม่ ขากลับเราบอกลาเกาะมันนอกในใจขณะที่เรือค่อยๆ แล่นห่างออกไปทุกที และสัญญากับตัวเองว่าหากมีโอกาสจะกลับมาเยี่ยมที่นี่อีกครั้งหนึ่ง
|
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * การเดินทางสู่เกาะมันนอก เริ่มจากเส้นทางมอเตอร์เวย์ ออกทางออก บ้านบึง-ชลบุรี ขับตรงไปแล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 344 (บ้านบึง-แกลง-69 กม.) ขับตรงไปจนถึงสามแยกแกลง ให้เลี้ยวขวาไปทางเมืองระยอง จะเห็นป้ายแหลมแม่พิมพ์ แล้วเลี้ยวซ้าย (ถนนวังหว้า-สุนทรภู่) ขับตรงไปจนสุดทาง ให้เลี้ยวขวาไปทางแหลมแม่พิมพ์ ผ่านอนุสาวรีย์สุนทรภู่ จะเห็นป้ายบ้านอ่าวไข่ เลี้ยวซ้ายตามป้ายจะเจอป้ายแหลมตาล ให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายจะเจอที่จอดรถเกาะมันนอก สำหรับท่านที่สนใจสอบถามราคา หรือต้องการติดต่อเพื่อมาพักที่เกาะมันนอก กรุณาจองที่พักล่วงหน้าก่อนการเดินทาง โทร. 02-860-3025 ถึง 7 โดย : แมวลาย ผู้จัดการออนไลน์ |