Welcome to
ห้องโหรแว่นทิพย์
ศาสตร์แห่งปัญญาเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

พระมหาธาตุเจดีย์ พระจอมไทยบารมีประกาศ เจดีย์สูงงามตระหง่านที่วัดฉลอง        “โอ้ทะเลแสนงาม ฟ้าสีครามสดใส มองเห็นเรือใบ แล่นอยู่ในทะเล หาดทรายงมเห็นปู ดูสิดูหมู่ปลา กุ้งหอยนานา อยู่ในท้องทะเล”                ขอฮัมเพลงเที่ยวทะเลที่เรามักชอบร้องตอนสมัยเป็นเด็กอนุบาล เพราะว่ามันช่างเป็นเพลงที่เข้ากับบรรยากาศการมาออกทริปเที่ยวของเราในครั้งนี้เสียจริงเชียว                เพราะครั้งนี้เรามาออกทริปเดินทางตามคำเชิญชวนของ บริษัทสกายไลน์ทริป ที่เขาจัดทัวร์ “เที่ยวทั่วไทย สบายใจ สบายกระเป๋า” โดยพาเราบินลัดฟ้าไปเที่ยวภูเก็ตกัน เที่ยวภูเก็ตสบายๆ 2 วัน 1 คืน เต็มอิ่มกับความสนุกสดชื่นกับสายลม แสงแดด เกลียวคลื่น และน้ำทะเลใสๆ         หลวงพ่อแช่มแห่งวัดฉลองที่ใครๆ มาภูเก็ตก็ต้องมากราบขอพร        ทันทีที่ สายการบินโอเรียนท์ไทยแอร์ไลน์ (ซึ่งเป็นพาหนะพาเราเหินฟ้ามาสู่เมืองภูเก็ตในครั้งนี้) แล่นลงแตะสู่พื้นดินโดยสวัสดิภาพ บรรยากาศของเมืองภูเก็ตอันน่าอยู่ก็กระทบกับโสตประสาทสัมผัสของเราอย่างจัง                ทำเอาใจเต้นตุ๊มๆ ต้อมๆ อยากจะออกตระเวนเที่ยวเมืองภูเก็ตเสียโดยไว และจุดมุ่งหมายแรกที่เรามุ่งไป คือการเที่ยวชมความงามของตัวเมืองภูเก็ต ที่ในตัวเมืองภูเก็ตแห่งนี้เราได้เห็นความงดงามของสิ่งก่อสร้างที่เป็นตึกเก่าแก่ อายุอานามก็ปาเข้าไปร้อยกว่าปีเห็นจะได้ เป็นตึกเก่าที่มีมนต์เสน่ห์และความขลังอยู่ในตัว ตึกเก่าๆ เหล่านี้เป็นตึกที่สร้างขึ้นตามสไตล์ สถาปัตยกรรมแบบที่เรียกว่า “ชิโน-โปรตุกีส” เป็นรูปแบบอาคารที่ได้รับอิทธิพลการก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมยุโรป และจีนผสมผสานกัน ลักษณะอาคารจะมีส่วนลึกมากกว่าส่วนกว้างและไม่สูงนัก ซึ่งสามารถหาชมได้บริเวณถนนถลาง ถนนดีบุก ถนนพังงา ถนนเยาวราช และถนนกระบี่                พอหลังจากที่ตะลุยตัวเมืองดูนู่นดูนี่ได้พอสมควร เราก็เคลื่อนพลไปยัง วัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราม กันต่อ ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงของภูเก็ต มีรูปหล่อของหลวงพ่อแช่มและหลวงพ่อช่วง ที่ชาวภูเก็ตให้ความเคารพนับถือ ซึ่งถ้าใครมาเที่ยวภูเก็ตแล้วก็ต้องไม่พลาดที่จะมาเคารพสักการะขอพรจากท่าน                นอกจากนี้ภายในวัดฉลองยังมีจุดเที่ยวที่น่าสนใจอย่าง พระมหาธาตุเจดีย์ พระจอมไทยบารมีประกาศ ที่มีลักษณะเป็นเจดีย์สูงตระหง่านงดงามด้วยสถาปัตยกรรมการก่อสร้าง ภายในเจดีย์ถูกออกแบบให้มี 3 ชั้น ชั้นล่างจะมีพระพุทธรูปประจำวันเกิดประดิษฐานอยู่ ชั้น 2 ประดิษฐานพระประธานหินอ่อนสีขาว ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง ส่วนชั้น 3 ด้านบนสุดประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าให้สักการะ และด้านบนนี้ก็นับว่าเป็นจุดชมวิวที่ดีอีกจุดหนึ่ง เพราะเราจะเห็นบรรยากาศภายในวัดฉลองที่ดูสวยไปอีกแบบจากจุดชมวิวตรงนี้         บรรยากาศยามพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าที่แหลมพรหมเทพ        ใช้เวลาอยู่ในวัดฉลองเสียนานพอควร หันมองนาฬิกาได้เวลาบ่ายคล้อย แดดร่มลมตกแล้ว เราต้องเร่งเดินทางไปให้ทันก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน เพราะเขาว่าถ้ามาภูเก็ตต้องมาดูพระอาทิตย์ตกดินลับขอบฟ้าที่ “แหลมพรหมเทพ” ทันทีที่เรามาถึง โชคยังดีที่พระอาทิตย์ยังไม่ทันลับขอบฟ้าลงไป เราจึงมีโอกาสเดินลงไปยังแหลมที่ทอดตัวยาวลงไปในทะเล และหามุมนั่งเหมาะๆ นั่งรอดูพระอาทิตย์ตกดิน                และแล้วพระอาทิตย์ลูกกลมโตสีแดงๆ ส้มๆ ก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวลาลับขอบฟ้าตกลงไปในน้ำทะเลสีเขียวคราม ความเงียบสงบ ลมพัดเอื่อยๆ และเกลียวคลื่นซาดซัดกระทบฝั่ง พร้อมกับแสงสีทองสุดท้ายของวัน มันช่างเป็นภาพที่งดงามหาดูในเมืองหลวงกทม.ไม่ได้เสียจริงๆ                ครั้นพอตะวันลับขอบฟ้าลงแล้ว ช่วงเวลายามค่ำคืนก็มาเยือน แต่ว่าเรายังไม่หยุดเดินทาง ยังมุ่งหน้าเที่ยวเมืองภูเก็ตกันต่อ ซึ่งสถานที่ปิดท้ายทริปของคืนนี้ คือที่ “ภูเก็ตแฟนตาซี” สถานบันเทิงยามราตรีอันตื่นตาตื่นใจยอดนิยมของเมืองภูเก็ต         โลกแห่งสีสัน ดินแดนเหนือจินตนาการของภูเก็ตแฟนตาซี        “ภูเก็ตแฟนตาซี” แห่งนี้ต้องยอมรับว่าเป็นดินแดนแห่งความสนุกสนาน ที่มีแต่สิ่งบันเทิงล่อตาล่อใจเสียจริง เพราะไม่ว่าจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่ถูกเนรมิตขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ดูสดใสสดชื่นมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยสีสันอันตระการตา เหมือนกับว่าเรากำลังหลงเข้ามาอยู่ในโลกแห่งจินตนาการอันยิ่งใหญ่ก็ว่าได้                เราจึงหลงระเริงเดินดูโน่นดูนี่ได้พักใหญ่ ก็ได้เวลาอาหารมื้อค่ำที่ต้องหม่ำกันอีกแล้ว ซึ่งที่นี่เขาก็มีการบริการอาหารแบบบุฟเฟต์ที่ “ภัตตาคารมโนราห์ทอง” ที่ภายในมีพื้นที่กว้างขวางโออ่าถูกเนรมิตราวกับว่าเรากำลังนั่งกินอาหารอยู่ท่ามกลางป่าหิมพานต์ และเหล่านางกินรี ซึ่งอาหารของที่นี่มีให้เลือกกินมากจนลายตา ตักนู่นตักนี่กินไปกินมาก็อิ่มจนพุงกาง                แต่ยังไม่ทันจะได้เดินย่อยอาหารอีกรอบ ก็มีเสียงประกาศดังว่าถึงเวลาที่การแสดงชุด “มหัศจรรย์กมลา” ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลต์ของภูเก็ตแฟนตาซี จะเริ่มทำการแสดงแล้ว เราจึงรีบเดินเข้าไปยังโรงละครวังไอยรา ที่สร้างได้อย่างอลังการเหมือนยกสถาปัตยกรรมขอมมาไว้ที่นี่กันเลย                การแสดงชุด “มหัศจรรย์กมลา” เป็นการผสมผสานศิลปการแสดงแบบไทยๆ กับแบบสากลเข้าด้วยกัน ภายใต้เทคนิค แสง-สี-เสียง อันตื่นตาตื่นใจ มีการแสดงหลากหลายชุดที่สื่อถึงความเป็นไทย อย่างชุดเด่นๆ ที่อกถูกใจก็มี การแสดงของช้างน้อยแสนรู้นับสิบตัวที่ออกมาวาดลวดลายโชว์ความแสนรู้ให้ดูไปอมยิ้มกันไป การแสดงกายกรรมห้อยตัวลงมาจากหลังคาโรงละครที่ดูแล้วต้องคอยลุ้นอยู่ตลอดเวลาว่านักแสดงจะตกลงมาไหม การแสดงมายากลระหว่างตัวโจ๊กเกอร์และผีตาโขนที่ดึงเอาคนดูไปร่วมแสดงด้วยและสร้างเสียงหัวเราะลั่นโรงละคร                พากันดูเพลินๆ หัวเราะเพลิน ตลอดช่วงเวลา 1 ชั่วโมงกว่าที่ทำการแสดง เล่นเอาหลังจากดูการแสดงจบ เราก็เกิดอาการง่วงเหงาหาวนอนขึ้นมาซะอย่างนั้น และดีที่ทริปทัวร์ภูเก็ตของวันนี้ก็จบลงด้วยการส่งพวกเราเข้านอนด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ได้จาก “ภูเก็ตแฟนตาซี” ส่วนวันพรุ่งนี้จะไปลุยที่ไหนกันต่อค่อยว่ากัน เพราะตอนนี้ง่วงนอนมากแล้วซะอย่างนั้นล่ะ                 อ่าวปิเละ ทะเลในที่ถูกโอบล้อมด้วยหน้าผาสูงชัน        ตื่นเช้ามาต้อนรับวันใหม่ด้วยความสดใสเป็นพิเศษ เพราะรู้ว่าวันนี้เราจะได้ไปดำน้ำกันที่ เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ที่ถือว่ามีความสวยงามติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก                หมู่เกาะพีพี มีเกาะเล็กเกาะน้อยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 เกาะ และเกาะที่มีขนาดใหญ่ 2 เกาะ คือเกาะพีพีดอน และเกาะพีพีเล ส่วนอีก 4 เกาะก็มีขนาดเล็กๆ เท่านั้น บางคนฟังชื่อเกาะพีพีแล้ว อาจคิดว่ามาจากภาษาอังกฤษ แต่จริงๆ แล้ว คำว่าพีพีนั้นมาจากคำว่า “ปิอาปิ” ซึ่งเป็นคำเรียกต้นไม้ทะเล จำพวกแสม โกงกางของชาวเล ซึ่งภายหลังก็เพี้ยนเสียงกลายมาเป็น “พีพี”                เกาะแรกที่เราไปเยี่ยมชมก็คือเกาะพีพีเล ซึ่งสถานที่ที่พลาดไม่ได้หากไปถึงก็คืออ่าวมาหยา ที่หลายคนคงเคยคุ้นหูมาจากภาพยนตร์เรื่อง The Beach ซึ่งได้มาใช้สถานที่นี้ในการถ่ายทำ โดยมี ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ เป็นนักแสดงนำ และทำให้ชื่อเสียงความสวยงามของอ่าวมาหยาแห่งนี้ดังไปไกลทั่วโลก เมื่อเราได้ไปเห็นก็รู้สึกตกหลุมรักความสวยงาม และความสงบของสถานที่แห่งนี้ทันที                อ่าวที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งของเกาะพีพีเล และอยู่ไม่ไกลจากอ่าวมาหยามากนักสามารถเดินไปถึงกันได้ ก็คือ อ่าวโละซามะ ซึ่งเป็นอ่าวที่มีแนวปะการังที่สวยที่สุดของเกาะพีพีเล แต่ที่นี่ก็ยังไม่ใช่ที่ที่เราจะลงดำน้ำกัน ก็แหม...เราไม่ได้มาเกาะพีพีกันบ่อยๆ นี่นา ไหนๆ มาแล้วก็ขอชมอ่าวต่างๆ ให้ทั่วๆ ก่อนก็แล้วกัน                ว่าแล้วก็ออกเดินทางต่อไปยัง อ่าวปิเละ ในเกาะพีพีเลเช่นเดิม ที่อ่าวปิเละนี้มีลักษณะเหมือนทะเลใน คำว่า “ปิเละ” เองก็แปลว่าทะเลในเช่นกัน เพราะคล้ายกับเป็นทะเลสาบที่ถูกโอบล้อมด้วยหน้าผาสูงชันเกือบทุกด้าน ผืนน้ำสีมรกตใสจึงนิ่งสงบเพราะปลอดการรบกวนจากคลื่นลมจนเราอยากจะกระโดดลงจากเรือไปเล่นน้ำที่นี่ให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ถูกห้ามไว้ก่อนด้วยเหตุผลที่ว่าโดดลงไปแล้วอาจไม่โผล่ขึ้นมาอีก เพราะช่วงตรงกลางมีความลึกมากไม่ควรลงเล่น จะเล่นได้ก็เฉพาะบริเวณริมผาเท่านั้น         ความงามของ อ่าวมาหยา ที่เคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องเดอะบีช        ชมความสวยงามของอ่าวต่างๆ ในเกาะพีพีเลเรียบร้อยแล้ว ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เรารอคอย นั่นก็คือการดำน้ำชมปะการังที่สวยงามภายใต้ท้องทะเลอันดามันแห่งนี้ แต่คราวนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศมาที่เกาะพีพีดอนบ้าง เรือพาเรามาที่อ่าวต้นไทรให้ได้ดำผุดดำว่ายดูปะการังกันให้เต็มที่ เราก็ไม่รอช้ารีบกระโดดน้ำตูมลงไปทันที เฮ้อ...อากาศร้อนๆ กับสายน้ำเย็นฉ่ำนี่ช่างเป็นความแตกต่างที่เข้ากันได้ดีจริงๆ หนอ                โลกใต้ทะเลของที่นี่ก็มีความสวยงามไม่แพ้ที่อื่นๆ มีปะการังสีสันสวยงามรูปร่างแปลกตาให้ได้ชม ปลาเล็กปลาน้อยก็ว่ายเข้ามาทักทายเราเป็นระยะๆ จนทำให้ไม่อยากจะโผล่ขึ้นมาพ้นน้ำ นี่ถ้าไม่ติดว่าจะไม่มีอากาศหายใจแล้วล่ะก็ คงจะขออยู่ใต้ทะเลไปเรื่อยๆ เลยทีเดียว         เก่าตึกสไตล์“ชิโน-โปรตุกีส” หาดูได้ในตัวเมืองภูเก็ต        ความสุขที่ได้จากการเที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงามในครั้งนี้เราก็จะขอเก็บเอาไว้เป็นเหมือนพลังงานเอาไว้ต่อสู้กับชีวิตและการทำงานกันต่อไป แม้จะบอกไม่ได้ว่าโอกาสหน้าจะได้มาเยือนจังหวัดภูเก็ต-กระบี่ อีกเมื่อไหร่ แต่ขอสัญญาว่านี่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแน่นอน.                * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *                สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะเที่ยวกับบริษัทสกายไลน์ ทริป ใน โครงการ “เที่ยวทั่วไทย สบายใจ สบายกระเป๋า” ที่ยังมีแพ็คเกจทัวร์ที่น่าเที่ยวอีกมากมาย สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 0-2538-5666 (อัตโนมัติ 10 เลขหมาย) หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tourbyyou.com          โดย : ลูกบ้าน ผู้จัดการออนไลน์